เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 12

ตอนที่ 12 เรื่องราวในอดีต
“ไม่ๆๆ!” นางส่ายศีรษะอย่างตื่นตระหนก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่ได้ตั้งท้อง ข้าเพียงกินอะไรจนท้องเสียเท่านั้น!”

พี่สาวกอดนางเอาไว้แน่ ไม่ได้มีความสงบเหมือนก่อนหน้านี้อีก “เจ้าอย่ากังวลใจไป! เพราะข้ารั้งให้เจ้าอยู่ที่จิงเฉิง ย่อมมีวิธีให้ตระกูลเฉิงมารับเจ้ากลับไปอย่างสง่างาม!”

พี่สาวบอกว่าให้นางอาศัยอยู่ที่บ้านสวนหลังเล็กให้สบายใจได้ไม่ใช่หรือ

ไม่ใช่บอกว่าจะหาใครสักคนมาแต่งกับนางหรอกหรือ

ทำไม่อยู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนใจกะทันหัน

ใจของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ผลักพี่สาวออกไป “ไม่ ข้าไม่กลับไป! ข้าไม่ต้องการแต่งให้เฉิงสวี่! ข้าไม่อยากถูกคนด่าว่าเป็นหญิงแพศยา! ข้าไม่อยากเห็นสายตาเหยียดหยามของบ่าวพวกนั้น! ข้าไม่อยากถูกคนตราหน้าไปทั้งชีวิต” ขณะที่นางพูด ก็ก้มศีรษะมองลงไปที่หน้าท้องของตัวเอง ตรงนั้นยังแบนราบ ยังมองไม่เห็นอะไร คำพูดของท่านหมอก็เหมือนกับเรื่องโกหกเรื่องหนึ่ง เรื่องล้อเล่นเรื่องหนึ่งเท่านั้น “และข้าก็ไม่ต้องการเด็กคนนี้ด้วย”

“แต่” พี่สาวหนักใจยิ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นกังวล “นี่เป็นลูกของตระกูเฉิง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นลูกคนแรกของเฉิงสวี่ เป็นจวนหลัก…”

เฉิงสวี่ ลูก…ทำให้อารมณ์ที่ตึงเครียดของนางขาดผึงลง

นางกรีดร้องเสียงดุดันเด้งตัวขึ้นมาขัดจังหวะคำพูดของพี่สาว “ทำไมพวกท่านทุกคนล้วนข่มเหงรังแกข้า ทำไมท่านก็เป็นเหมือนเช่นคนพวกนั้นที่ล้วนแต่ช่วยพูดแทนเฉิงสวี่ ท่านไม่ใช่พี่สาวของข้าๆ!” นางไม่ทันแม้แต่จะได้สวมรองเท้า วิ่งเท้าเปล่าออกไปข้างนอก “ข้าไม่กลับไป! ให้ตายข้าก็ไม่กลับไป! และข้าก็จะไม่คลอดเด็กคนนี้ด้วย”

พี่สาวไล่ตามมา กอดนางเอาไว้ในอ้อมกอด “เสาจิ่นๆ เจ้าฟังข้าพูด…”

“อะไรข้าก็ไม่อยากฟัง!” นางดิ้นรนขัดขืน ใช้เท้าเตะพี่สาวราวกับคนบ้าผู้หนึ่ง “ท่านก็เพียงให้ข้ายอมอดทน ให้ข้ายอมรับชะตากรรม ให้ข้ายอมแพ้ ทำไมข้าต้องยอมอดทน ทำไมข้าต้องยอมรับชะตากรรม ทำไมข้าต้องยอมแพ้ เพียงเพราะว่าข้าเป็นผู้หญิงอย่างนั้นหรือ แล้วข้าทำผิดอะไร สวรรค์ถึงได้ลงโทษข้าเช่นนี้”

“ไม่ใช่ๆ! เป็นพี่สาวที่ไม่ดีเอง พี่สาวไม่ได้ดูแลเจ้าให้ดี เป็นพี่สาวที่ทำไม่ได้อย่างที่ท่านแม่ไว้วางใจ ทำให้เจ้าได้รับความโศกเศร้า” น้ำตาของพี่สาวราวกับหยดของน้ำที่เดือดจัด หยดลงบนคอของนางหยดแล้วหยดเล่า ลวกไปจนถึงหัวใจของนาง

แล้วนี่เป็นความผิดของพี่สาวหรือ

แล้วทำไมพี่สาวต้องยอมทนต่อความไม่มีเหตุผลของนางด้วย

ก็เพราะว่าพี่สาวคือคนที่รักนางมากที่สุด?

เช่นนี้ คนที่ทำให้คนในครอบครัวต้องทุกข์ใจและศัตรูยินดีเช่นนาง จะต่างอะไรกับเฉิงลู่ คนที่ทำร้ายนางกัน?

นางหมดเรี่ยวแรงไปทั้งตัว ทรุดลงกองกับพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน

“เสาจิ่นๆ” พี่สาวตกใจจนสีหน้าซีดเผือด โน้มตัวบนร่างของนาง “เจ้าเป็นอะไรไปๆ”

“ข้าไม่เป็นไร” นางพึมพำกล่าว เฉื่อยชาสิ้นหวังราวกับขี้เถ้าที่มอดสนิท “ท่านพี่ ท่านพาข้าไปที่เตียงเถอะเจ้าค่ะ”

นี่อาจจะเป็นชะตาของนาง!

นางไม่อยากยอมรับชะตากรรมก็ไม่ได้!

“คุณหนูรองๆ!” ฝานหลิวซื่อคุกเข่าอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ร้องไห้จนเหมือนกับคนที่ท่วมไปด้วยน้ำตา

นางกลับไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด

โชคชะตาของนางผิดพลาดไปแล้วตั้งแต่ตอนที่นางตอบรับไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้กับเฉิงเจีย

หากจะโทษ ก็ต้องโทษตัวเองที่โง่เขลา

คนอื่นต้องการให้นางเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

หากจะโทษ ก็ต้องโทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์

ตอนที่ถูกเฉิงสวี่ข่มเหงรังแก นางก็รู้เพียงร้องไห้ขอความเมตตา

นางสะเปะสะปะคว้าของชิ้นหนึ่งไว้ คิดจะยืนขึ้นมา ทว่าขาทั้งสองข้างกลับอ่อนยวบไม่มีแรงเลยสักนิด นางจำต้องคลานเข่าไปที่เตียงเพื่อปีนขึ้นไป

พี่สาวดึงนางเอาไว้ เอ่ยน้ำเสียงรวดร้าวว่า “เจ้าอย่าทำเช่นนี้ๆ”

ทว่านางกลับทำเป็นหูหนวกไม่ได้ยิน กล่าวขึ้น “ท่านพี่ ท่านส่งข้ากลับไปยังบ้านที่ข้าเช่าเอาไว้เถอะเจ้าค่ะ! ตระกูลเฉิงจะต้องตามหาข้าจนพบในไม่ช้าอย่างแน่นอน…ต่อให้พวกเขาไม่ต้องการข้า ก็ต้องตามหาข้าให้พบถึงจะยกเลิกการหมั้นหมายได้…ท่านอย่าสนใจข้าเลย หากคนตระกูลเลี่ยวทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้า ต้องหัวเราะเยาะท่านเป็นแน่…ข้าเพียงคนเดียวก็ให้มันแล้วไป ไม่อาจลากพวกท่านลงน้ำไปด้วยกันทั้งหมดได้…เพียงขอร้องท่านพี่ช่วยรับฝานมามาเอาไว้ หากพวกเขาหาข้าจนพบ ย่อมไม่ปล่อยฝานมามาไปแน่…สงสารนางที่ให้นมข้ามา กลับต้องได้รับจุดจบเช่นนี้…ต้องลำบากเพราะข้าอีกเช่นกัน”

“คุณหนูรอง ท่านอย่าได้กล่าวเช่นนี้! ท่านรีบหยุดกล่าวเช่นนี้!” ฝานหลิวซื่อเองก็โน้มตัวเข้ามา “เป็นข้าที่พาท่านหนี ถูกแล้วเจ้าค่ะ เป็นความตั้งใจของข้า เป็นข้าที่ยุยงส่งเสริมให้คุณหนูรองมาหาคุณหนูใหญ่ คุณหนูไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย! ล้วนแต่เป็นความผิดที่บ่าวชั่วผู้นี้กระทำเองเจ้าค่ะ”

พี่สาวมองดูพวกนาง แววตาก็ค่อยๆ เยือกเย็นขึ้นมา

“เสาจิ่น” พี่สาวหมุนไหล่ของนาง สายตาที่ชำเลืองมองมาจากหางตากวาดผ่านหน้าท้องของนาง จากนั้นมองแน่วนิ่งไปที่ดวงตาของนาง กล่าวอย่างจริงจังว่า “เจ้าไม่คิดจะกลับไปที่ตระกูลเฉิงแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่ ต้องรู้เอาไว้ หากตอนนี้เจ้าตัดสินใจจะอยู่ที่จิงเฉิง เช่นนั้นต่อไปเจ้าจะไม่สามารถกลับไปที่ตระกูลเฉิงได้อีก เจ้าต้องคิดให้ถี่ถ้วน!”

นางมีแผนของตัวเองไว้แล้ว

ได้ยินแล้วเพียงส่ายศีรษะอย่างเฉยชา กล่าวขึ้น “ท่านพี่ ท่านส่งข้ากลับไปยังที่ที่ข้าเช่าเอาไว้เถอะเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกแล้ว”

พี่สาวมองดูนางสักครู่ใหญ่ถึงได้ประคองตัวนางขึ้นไปบนเตียง

นางดึงแขนเสื้อของพี่สาวเอาไว้ กล่าวขึ้น “ท่านพี่ ท่านได้รับปากข้าแล้วว่าจะช่วยข้าดูแลฝานมามา ท่านต้องรักษาสัญญานะเจ้าคะ”

พี่สาวพยักหน้า ดวงตาวาวไปด้วยหยาดน้ำตา กล่าวว่า “พี่สาวรักษาสัญญา”

เป็นครั้งแรกที่นางสงสัยในตัวพี่สาว ให้พี่สาวสาบาน “ต้องสาบานด้วยนามของท่านแม่ด้วยเจ้าค่ะ”

ความเจ็บปวดพาดผ่านดวงตาของพี่สาว กล่าวสาบานอย่างจริงจัง

นางยิ้มให้พี่สาวพลางกล่าว “ท่านพี่ ร่างกายของข้าไม่มีแรงเลยเจ้าค่ะ ให้คนใช้โสมตุ๋นแม่ไก่ให้ข้าสักตัวนะเจ้าคะ!”

พี่สาวจ้องมองนาง ราวกับกลัวว่าจะพลาดอะไรไปจากสีหน้าที่แสดงออกเพียงน้อยนิดของนาง ครู่ใหญ่ถึงได้เอ่ยเบาๆ ออกมาเสียงหนึ่งว่า “ได้”

นางหลับตาลง

กระทั่งน้ำไก่ตุ๋นถูกนำขึ้นมาให้ นางดื่มน้ำไก่ตุ๋นอย่างเชื่อฟัง จากนั้นนอนหลับต่อ

ตอนที่ 12 เรื่องราวในอดีต 1

ตอนที่ 12 เรื่องราวในอดีต 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน