ตอนที่ 151 ความร่วมมือของศัตรูหัวใจ
สิ้นเสียงปลายสาย แม้แต่เตชิตก็ยังมองข้ามเขาไป ด้วยสายตาคมกริบปนความแปลกประหลาดใจ
นัชชาจากเดิมที่รู้สึกปวดร้อนในหัวอยู่แล้วก็เพิ่มความปวดหนักเข้าไปอีก "พี่ธนัท จินต์เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน พี่ทำแบบนี้ ฉัน…"
พูดยังไม่ทันจบ หญิงสาวก็พูดอะไรไม่ออก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นคนที่เธอคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี จินต์เป็นเพื่อนสนิทเธอมาหลายปี ธนัทเองก็ช่วยเหลือเธอไม่น้อยเรื่องการทำงาน ตอนนี้เธอก็เหมือนน้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ได้
เตชิตมองหญิงสาวที่ตัวสั่นเล็กน้อย นิ้วมือทั้งห้าตึงและเกร็งอยู่ด้านข้างขาเธอ กลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่อยู่รวบตัวเธอมากอดไว้ในอก
ธนัทถอนหายใจออกมาเบาๆ "นัชชา นี่มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับคุณจินต์ ผมจัดการเอง ผมรู้ว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่เรื่องเมื่อคืน ผมไม่ได้บีบบังคับอะไรเธอ เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิด ผมขอร้องเรื่องนี้ผมขอจัดการด้วยตนเอง ได้มั้ย"
นัชชารู้สึกหายใจติดๆขัดๆ "ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะเข้ามายุ่งเรื่องนี้ และไม่มีสิทธิ์ที่จะมายุ่งด้วย แต่เพราะจินต์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของฉัน ถ้าสำหรับพี่แล้วเรื่องจินต์เป็นแค่อุบัติเหต ฉันก็ขอให้มันจบตรงนี้เถอะค่ะ"
ในเมื่อเราไม่สามารถลบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วได้ เธอจึงไม่อยากให้จินต์ต้องถูกทำร้ายจิตใจไปมากกว่านี้
เมื่อนัชชาพูดจบ ธนัทผู้ซึ่งมีสีหน้าเรียบเฉยดุจน้ำแข็งมาโดยตลอดสีหน้าค่อยๆเปลี่ยนไปเหมือนคลื่นที่กำลังพัดเข้าหาฝั่ง คำพูดของนัชชาเหมือนบอกเขาเป็นนัยว่าถ้าหากไม่ชอบอีกฝ่ายก็อยู่ห่างๆ อย่าไปทำร้ายเพื่อนเธออีกเป็นอันขาด
อยู่ๆในหัวธนัทตอนนี้เหมือนกำลังฉายภาพเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวานซ้ำอีก หญิงสาวผิวขาวละเอียด บวกกับนัยตาที่หลงใหลฉ่ำรื้น รวมถึงภาพของรอยคราบเลือดสีแดงสดบนผ้าปูเตียงก่อนที่สะท้อนในแววตาก่อนจะจากไป
ภายในสำนักงานเข้าสู่สภาวะเงียบงันชั่วขณะ อากาศเหมือนจะกลั่นตัวเป็นน้ำ แม้แต่จะหายใจนัชชาก็ยังไม่กล้า อยู่ๆผู้ชายที่นั่งด้านข้างก็ขยับตัว เธอเลื่อนสายตาไปมองโดยไม่รู้ตัว เป็นเตชิตเองที่ขยับขา
ขาเรียวยาวสองข้างที่อยู่ภายใต้กางเกงนั้นแข็งแกร่ง เตชิตค่อยๆกางขาออก ยืดลำตัวขึ้น ริมฝีปากบางเริ่มขยับ เสียงที่เย็นเยียบไร้อารมณ์ "ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง ก็อย่ายุ่ง"
ประโยคนี้ของเตชิต อาจจะทำให้เธอโกรธแต่เขาก็พูดด้วยความจริงใจและเป็นห่วงเธออย่างแท้จริง แต่น่าเสียดายที่เมื่อวานนัชชาเองก็โกรธเขาอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงยิ่งทำให้เธอโกรธหนักขึ้น ไม่ว่าจะพูดยังไงเธอก็ไม่ฟัง มีแต่จะหาเหตุผลข้ออ้างขึ้นมาสู้ "ฉันบอกแล้วไง ว่าจินต์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน..."
เตชิตไม่รอให้เธอพูดจบ รีบขัดขึ้นมาว่า"เพื่อนเหรอ เรื่องก่อนหน้านี้คุณลืมไปแล้วเหรอ คุณอย่าคิดว่าคุณทำดีกับเขาแล้วเขาจะเห็นความดีของคุณ"
เรื่องที่เตชิตพูดถึง ก็คือเรื่องของเธอกับปณิตา สิ่งที่ปณิตาตอบแทนความเป็นเพื่อนของเธอ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจ
เรื่องที่ผ่านมาในอดีตก็เหมือนเป็นแผลในจิตใจของเธอ ประโยคนี้ที่เขาพูดก็เปรียบเหมือนเกลือที่ทาลงบนแผลของเธอ
ในความรู้สึกของเขา เธอคงน่าสมเพชมาก ทั้งหมดเป็นที่สิ่งที่เธอก่อขึ้นและเธอก็สมควรจะได้รับกรรม
นัชชากระพริบตาเร็วสองครั้ง ความรู้สึกในใจตอนนี้ถูกหล่อหลอมและแสดงออกมาจากรอบๆดวงตาสีแดงก่ำ
เธอพยายามจะฝืนยิ้มออกมา แต่ริมฝีปากก็รู้สึกหนักอึ้งจนยิ้มไม่ออก" ได้ เป็นเพราะฉันที่มันคิดเองเออเองอยู่คนเดียว พอใจหรือยัง"
พูดจบเธอก็หมุนตัววิ่งออกไปด้านนอกทันที เหมือนกับว่าหากอยู่ต่อไปนิดอีกเธออาจจะต้องจบชีวิตตรงนี้ก็เป็นได้
ธนัทมองแผ่นหลังของหญิงสาวค่อยๆลับสายตาไป แล้วหันมาพูดกับเตชิตว่า" นี่คือทะเลาะกันแล้วใช่มั้ย"
ชายหนุ่มยังคงมองไปที่ด้านหลังของหญิงสาว มองจนลับสายตาเขาถึงหันกลับมา" อืม ช่วงนี้มีแต่เรื่องยุ่งๆ เธอก็ไม่ค่อยพอใจอยู่แล้ว เมื่อคืนที่บาร์ก็ดื่มหนักไปหน่อย ยังไม่ทันได้ปรับความเข้าใจกัน เธอก็มาใส่อารมณ์กับกุซะก่อนเนี่ย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...