ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 212

สรุปบท ตอนที่ 212 เรื่องซุบซิป: ยั่วรักทนายคนโหด

ตอนที่ 212 เรื่องซุบซิป – ตอนที่ต้องอ่านของ ยั่วรักทนายคนโหด

ตอนนี้ของ ยั่วรักทนายคนโหด โดย สายฝน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 212 เรื่องซุบซิป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 212 เรื่องซุบซิป

ทีนาร์ไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกจากห้องนอนได้อย่างไร เธอรู้แต่เพียงความอัปยศของเธอตอนนี้เท่านั้น เธอถูกเตชิตไล่ออกมา ใช่ ไล่ เธอเห็นและได้ยินสายตาและคำพูดที่รังเกียจจากผู้ชายคนนั้น

เขารังเกียจที่จะนอนกับเธอ

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นลูกเห็บ ดูเหมือนว่าขณะนี้เธอรู้ชัดแล้วว่าตัวเองแตกต่างจากนัชชาเช่นไรในสายตาของเตชิต

มองเห็นเธอเพียงคนเดียวอย่างนั้นรึ

ทีนาร์หัวเราะ เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็คอยดู ถ้าหากเธอไม่สามารถทำให้เขาเปลี่ยนความคิดได้ล่ะก็ อย่าหาว่าเธอใจร้ายก็แล้วกัน!

………

นอนที่บ้านหนึ่งคืน

วันรุ่งขึ้นเมื่อนัชชาตื่นขึ้นมาก็รู้สึกแปลกตาอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้กลับมานานแค่ไหนแล้ว เตียงเคยนอนมาเป็นเวลาสิบ กว่าปีกลับมานอนตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่คุ้นเคย

เตียงที่ไวโรจน์วิลล่านุ่มกว่าที่บ้านของเธอนิดหน่อย เธออาศัยอยู่ที่นั่นครึ่งปีจนเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับเตียงที่นั่น

วันนี้เป็นวันสิ้นปี ตอนเย็นที่บ้านจึงรับประทานอาหารร่วมกัน นอกจากครอบครัวของเมทนีแล้ว ก็ยังมีลุงกับป้า คุณยายมีลูก ทั้งหมดสามคน เมทนีเป็นลูกคนที่สอง ญาติๆทั้งหมดในครอบครัวปีหนึ่งจะมารวมตัวกันทานข้าวด้วยกันพร้อมหน้า

อาหารเย็นในปีนี้จะไปรับประทานกันที่โรงแรมซึ่งไม่ไกลจากบ้าน ไม่ใหญ่โตแต่ก็ไม่กระจอก พวกเขาอยู่ใกล้จึงแวะไปสั่งเค้ก

“ปีนี้ลูกชายของคุณป้ากลับมาแล้ว เมื่อสองวันก่อนเพิ่งพูดกับฉันว่าไปอยู่ที่อังกฤษสองปีไม่ยอมกลับมาเสียที คราวนี้กลับมา แล้วก็อย่าพูดถึงเรื่องความหลังเลย ได้ยินว่าเรียนปริญญาโทด้านเศรฐศาสตร์มาด้วย” ณัชชนม์ส่ายหัวเมื่อเขานึกถึงบางอย่าง เสียงของเขาฟังดูเบื่อหน่าย “คุณยายชอบคุยถึงลุงใหญ่เสมอ ลูกชายคนโต หลานชายคนโต ปีนี้หัวใจคงจะเบิกบานแล้วล่ะ”

นัชชารู้ว่าสถานการณ์ในบ้านของณัชชนม์ในหลายปีมานี้ ตอนที่ยังเด็กได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจไม่น้อย ได้ยินว่าตอนที่คลอด เธอ คุณยายก็มาดูครั้งหนึ่ง และดึงมือที่กร้านของแม่ไปปลอบใจ “แม่ ไม่ได้มีหนูอยู่เป็นเพื่อนแม่หรอกรึคะ”

“เฮ่อ” ณัชชนม์ถอนหายใจ เธอไม่อยากให้เธอเห็นอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของตัวเองจึงหันไปมองที่นอกหน้าต่าง “ฉันกับ พ่อของเธอเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว”

นัชชาไม่รู้จะพูดอะไรถึงจะสามารถปลอบใจเธอได้ เธอได้แต่จับมือของเธอเอาไว้

……

ตอนหนึ่งทุ่ม ผู้คนเริ่มทยอยมาถึงโรงแรม นัชชารออยู่ที่ประตูทางเข้าถ้าหาว่ามีคนในครอบครัวมาจะได้ต้อนรับ

ครอบครัวของลุงมาถึงเป็นบ้านสุดท้าย นอกจากบ้านละสามคนแล้ว ลูกพี่ลูกน้องพรยศยังพาแฟนสาวของเขามาด้วย

หญิงสาวตัวเล็กมาก สูงประมาณร้อยหกสิบเซนติเมตรน่าจะได้ แม้ว่าจะไม่ได้สวยโดดเด่นมาก แต่เธอมีผิวขาวมาก ดูเรียบและหวาน แลดูน่ามอง

ใครจะรู้ว่าป้าไม่เคยยอมแพ้เรื่องพวกนี้ เธอกลับพูดจาประชดประชันขึ้นมา “ดูเหมือนจะไม่ใช่เพื่อนธรรมดานะ นัชชาบ้านเธอนี่ช่างเก่งนัก หน้าตาก็สะสวย หย่าแล้วก็สามารถหาลูกเขยให้เธอได้ใหม่อย่างรวดเร็วทันใจ...”

นัชชาไม่รู้ว่าที่เธอพูดประโยคนี้มีวัตถุประสงค์อะไร หรืออาจจะแค่ปากไวคิดแล้วพูดออกมาเลยเท่านั้น ไม่ได้ผ่านการกลั่น กรองที่สมองก่อน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เมื่อฟังแล้วก็ทำให้คนฟังรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่เธอเดินเข้าประตูมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องการหย่า ทุกคนจงใจที่จะหลีกเลี่ยงหัวข้อที่ละเอียดอ่อนนี้ จะโดย เจตนาหรือไม่ก็ตาม เธอได้แสดงความคิดเห็นในด้านของเธอและดูไม่ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร

ถ้าเป็นเวลาปกติคงจะอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อต่อหน้าณัชชนม์ นัชชาทนไม่ได้จึงสวนกลับไป “ป้าชนะแล้วล่ะ หนูจะวิเศษยังไงก็ ไม่ดีไปกว่าพี่ชายหรอกค่ะ จบปริญญาแล้ว แถมปีนี้ยังมีแฟนอีก ปีหน้าคงได้จัดงานแต่งงานแน่นอนค่ะ”

เมื่อฟังแล้ว ป้าสะใภ้ก็เบ้ปากและพูดแค่ไม่กี่คำ “ไม่เร็วอย่างนั้นหรอก ต้องดูว่าที่เมืองนอกเขาเรียนเป็นอย่างไร”

ไม่เร็วขนาดนั้นแล้วพาคนกลับมาที่บ้านแล้วหรอ

เธอหมายความว่ายังไงกัน ณัชชนม์เข้าใจมาตั้งแต่ต้น เธอกวาดตามองไปที่เด็กวัยรุ่นทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว “พรยศก็อายุไม่ น้อยแล้วน่าจะแต่งงานได้แล้วนะ”

“ไม่ต้องรีบร้อน” ป้าสะใภ้มองไปที่นัชชาอย่างมีนัยยะ “สมัยนี้วัยรุ่นแต่งงานกันเร็วเลิกกันเร็ว ค่อยๆศึกษาดูใจกันไป ไม่รีบร้อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจ เธอดูอย่างนัชชาเป็นตัวอย่างสิทำเอาทั้งบ้านแย่ไปกันหมด”

หัวใจที่ดื้อรั้นของณัชชนม์ในที่สุดก็ถูกแผดเผาด้วยประโยคนี้ ลูกของเธอ ลูกสาวที่รักของเธอ ถ้าลูกเธอจะแย่แค่ไหนเธอว่า กล่าวเองได้ คนอื่นมีสิทธิ์อะไรมาต่อว่าเช่นนี้

“พี่สะใภ้ คำพูดประโยคนี้ฉันทนฟังไม่ได้ จะบอกว่าบ้านเราแย่ได้อย่างไร สมัยนี้หย่ากันก็เป็นเรื่องธรรมดา เด็กๆเขาเป็นคน ตัดสินใจเลือกของเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นัชชาก็เริ่มต้นใหม่แล้ว จะไปพูดให้เด็กมันท้อใจเรื่องอะไรกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด