ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 246

ตอนที่ 246 ฆาตกรคือใคร

เมื่อเตชิตไปถึงห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่การแพทย์ทั้งหมดยืนอยู่ ยังไม่มีใครออกไป

ผู้ป่วยเสียชีวิตบนโต๊ะปฏิบัติการเนื่องจาก “อุบัติเหตุ” มันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาลมา ตามระบบการรักษาของโรงพยาบาลนับเป็นอุบัติเหตุระดับหนึ่ง

เป็นธรรมดาที่สีหน้าของปรัณไม่ค่อยดีนัก ที่น่ากลัวกว่าคือผู้ชายที่ติดตามเขามา ใบหน้าของคนตายดูบิดเบี้ยว สีหน้าราวกับจับต้องเหล็กยามที่มีลมหนาวพัดมา

เตชินเดินไปที่โต๊ะปฏิบัติการ เครื่องมือทั้งหมดยังคงติดอยู่บนตัวโศจิรัตน์ แต่ตัวเลขที่แสดงอยู่กลับไม่มีความผันผวนอีกต่อไป ทั้งหมดกลายเป็นเส้นตรง

คน ตายแล้ว

เจ้าของไข้คุณหมอบุรีมีหน้าที่ปิดเคส แล้วจึงจะสามารถลุกขึ้นได้ “ขอโทษครับผู้อำนวยการปรัณ ขอโทษครับคุณเตชิต ไม่สามารถรักษาผู้ป่วยเอาไว้ได้”

เขาโค้งตัวไปทางทั้งสอง หลังจากนั้นก็พูดต่อไปว่า “สาเหตุของการเสียชีวิตก็คือ…. การฉีดbarbiturate และ phenethylamine”

ใบหน้าของปรัณเปลี่ยนไปอย่างมาก การผสมสารทั้งสองเข้าด้วยกันเป็นสิ่งที่แปลก ถ้าหากเป็นผู้ที่มีความรู้ทางการแพทย์จะไม่ผสมสิ่งทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน barbiturate เป็นยาชาชนิดหนึ่ง สามารถทำให้คนหมดสติในเวลาอันสั้น แต่ phenethylamine มีคุณสมบัติทำให้เลือดแข็งตัว การผสมสิ่งทั้งสองเข้าด้วยกันสามารถฆ่าคนได้ทันทีและจะไม่มีปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ พร้อมที่จะสูญเสียสัญญาณชีพไปภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที

หากเพิ่มคลอไรด์เข้าไป…. มันก็คือการทำให้คนตายอย่างสงบ

การตายเช่นนี้ถูกวางไว้ให้โศจิรัตน์แล้ว แต่น่าแปลกใจและตกใจ ที่เปลี่ยนจากการรักษาทางการแพทย์เป็นการฆาตกรรม และยาเข็มนี้ก็ถูกฉีดด้วยมือของนัชชาเอง

เตชิตสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เขาไม่ได้จ้องมองที่ร่างของโศจิรัตน์อีกต่อไปแต่กลับหันกลับมาเพื่อถาม “เป็นการตายที่ผิดปกติรึ”

ปรัณพยักหน้า “อื้อ”

สีหน้าของชายคนนั้นไม่เปลี่ยน เขาแทบจะไม่มีอารมณ์ สายตาหันไปจ้องมองที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ นัยตาคมชัดราวกับจะเจาะให้ถึงหัวใจของคนได้ “เรื่องในวันนี้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากผม ห้ามแพร่งพรายออกไปโดยเด็ดขาด รวมถึงเรื่องการเสียชีวิตของผู้ป่วยก็ห้ามแจ้งออกไป”

ปรัณขมวดคิ้ว ต้องการหยุด “เตชิต นี่เป็นการละเมิด….”

“ผมรู้” เตชิตพูดแทรกแต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดขวางเขา เขากลับก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งและบอกคำขอร้อง “ผมต้องการไฟล์ของกล้องวงจรปิด”

ปรัณตกตะลึงเป็นครั้งที่สอง “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะคัดลอกไฟล์กล้องวงจรปิดในห้องผู้ป่วย มันเป็นเรื่องของความเป็นส่วนตัว….”

พอพูดถึงตรงนี้ ก็ไม่ได้พูดต่อไปอีก เหตุผลเหล่านี้ผู้ชายคนนี้เข้าใจดีอยู่แล้วทุกอย่าง

ตาทั้งสี่ประสานกัน ความรู้ใจในหลายปีมานี้ทำให้เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไร เป็นอันเข้าใจกัน

เตชิตไม่ได้พูดอะไร สายตากลับหนักแน่น “ปรัณ คุณเชื่อผมไหม”

เขารู้ว่าการเอาไฟล์กล้องวงจรปิดในห้องผู้ป่วยไอซียูของโรงพยาบาลเอกชนไปนั่นหมายความว่าอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นยังมี “อุบัติเหตุ” ใหญ่ที่เกิดขึ้นในห้องนั้นอีก หากว่าเขาไม่ได้ไว้วางใจอย่างหมดใจแล้วล่ะก็ ไม่มีใครกล้าที่ยอมรับคำขอนี้

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์กัน นี่มันก็คนละเรื่อง

ดังนั้นเมื่อตอนที่เขาถาม ในใจของเตชิตเองก็ไม่มีคำตอบ ในสายตาคนทั่วไป การไม่ให้เขาถึงจะเป็นเรื่องปกติ การที่ยอมให้เป็นเรื่องที่บ้ามาก

ปรัณมองไปในดวงตาของชายผู้นี้อยู่ครู่หนึ่ง มีความขมขื่น มีความวิตกกังวล….และยังมีอาการช็อคเช่นเดียวกันกับเขา นอกจากเรื่องพวกนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีความแน่วแน่และความมั่นใจ

เตชิตที่เป็นเช่นนี้และเขาก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า คดีใหญ่ที่ทำให้เขาโด่งดังเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่คดีตกถึงมือเขาในเวลานั้น เขาเป็นคนเดียวกันกับในเวลานี้

เขาไม่ต้องการจะทำอะไร เพียงแต่ต้องการตรวจหาความเป็นไปได้เพื่อนัชชา

ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตกลง “ได้”

คุณหมอบุรีที่ฟังอยู่ทางด้านข้างตกใจถึงขีดสุด ท้ายที่สุดเขาก็เป็นพยานครึ่งหนึ่งในที่เกิดเหตุ “ผู้อำนวยการปรัณ เรื่องนี้ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นไปตามกฎและข้อบังคับของทางโรงพยาบาล นอกจากนั้นผมยังเห็นผู้หญิงคนนั้น…”

“สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง” ปรัณโน้มตัวไปด้านหน้า “ดวงตาสามารถทำให้คุณเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็อาจจะทำให้คุณเข้าใจผิด”

“แต่ว่า…”

“เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุป พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเรื่องนี้กับบุคคลอื่นภายนอกห้อง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะก็ ไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะรับผิดชอบไหวแน่” ปรัณจริงจังและเข้มงวดเหมือนการประชุมระหว่างวัน มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเหงื่อในฝ่ามือของเขาเย็นเฉียบแค่ไหน “ไม่ใช่การขู่ แต่เป็นผลดีแก่พวกคุณเอง แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วก็จะต้องมีผลลัพธ์ของเรื่องนี้”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ในฐานะลูกจ้างใครจะสามารถพูดอะไรได้อีก

แม้ว่าหมอบุรีจะรู้สึกอับอาย แต่ว่าเพื่อปรัณแล้ว เขาก็ยอมปล่อยไปเพราะเชื่อถือในตัวเขา

อย่างไรก็ตามมีบางเรื่องที่ปกปิดได้ แต่บางเรื่องที่ไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้

เตชิตได้รับสำเนาของข้อมูลที่นี่แล้ว ในเวลาเดียวกันนั้นทีนาร์ก็ได้โทรแจ้งความแล้ว

เรื่องราวเริ่มใหญ่โต นอกจากการตายของโศจิรัตน์แล้ว เรื่องยังเกิดในโรงพยาบาลเอกชน ต้องทราบก่อนว่าโรงพยาบาลเอกชนที่อื่นอีกหลายที่ต้องการที่จะให้โรงพยาบาลของปรัณมีกำไรลดลง มีสายตามากมายที่จ้องมองอยู่เพื่อที่จะหา “โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ”ในครั้งนี้

ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว ไม่มีใครที่จะยอมอยู่นิ่ง

ในวันนั้นที่โรงพยาบาลวุ่นวายสับสน มีคนจำนวนมากอยู่ที่ด้านนอกโรงพยาบาล

หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นทีนาร์ก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องพักของตนเอง เมื่อเตชิตผลักประตูเข้าไป เธอนั่งอยู่บนเตียงกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

เมื่อได้ยินเสียง ครู่ใหญ่เธอถึงจะหันตัวกลับมา “พี่เตชิต มาแล้วหรอคะ…”

“เธอเป็นคนแจ้งความรึ” สีหน้าของเตชิตดูไม่ค่อยดี ผ่านไปไม่นานแต่ใบหน้าของชายผู้นี้กลับดูแก่ลงหลายปี

ทีนาร์ยอมรับด้วยใจที่เบิกบาน “ฉันเองค่ะ”

เขาจ้องไปที่ใบหน้าอันซีดเซียวของเธอ ในใจนั้นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรง “ทำอย่างนั้นทำไม”

“ทำไมรึ” ทีนาร์ไม่รอให้ถามเธอตอกกลับไปอย่างไม่รอช้า “นัชชาเธอฆ่าคุณยายของฉัน ฉันแจ้งความจับเธอเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างนั้นหรอคะ งั้นพี่บอกฉันหน่อย ฉันควรทำยังไงคะ หื๊อ?”

“เรื่องนี้กำลังถูกดำเนินการ เธอทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร”

“พี่จัดการได้หรอ พี่รักนัชชาขนาดนั้น อยากปกป้องหล่อนขนาดนั้น พี่แค่อยากจะหาทางแก้ตัวให้หล่อน แค่อยากจะปกปิดการตายของคุณยายฉันเท่านั้น! จริงๆแล้วไม่ได้คิดจะช่วยเหลือฉัน ความจริงแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย!” ทีนาร์ตะโกนพยายามหาทางออก คราวนี้เธอไม่ได้เล่นละครทั้งหมด ที่จริงแล้วเรื่องทั้งหมดก็เพราะเธอเป็นคนก่อขึ้น การตายของโศจิรัตน์ไม่ได้ทำให้เธอสะทกสะท้านอะไรเลย

หลังจากฟังเธอโหวกเหวกโวยวายเตชิตก็กลับหัวเราะ หัวเราะจนทำให้ทีนาร์ตกใจ

ขนตาเธอกระพือ มองเขาด้วยความกังวล “พี่ พี่หัวเราะอะไร”

เตชิตเพียงแต่หัวเราะเท่านั้น เขากำหมัดแน่น พุ่งออกไปที่ขอบหน้าต่างห่างจากที่ร่างกายเธอยืนอยู่เพียงน้อยนิด รอยยิ้มของเขาหายไปเขายกมือขึ้นและบีบคางเธอ “เธอพูดว่าไง ไหนพูดอีกรอบสิ”

ทีนาร์โดนเขาบีบคางจนบิดเบี้ยว เจ็บจนพูดออกมาไม่ชัด พูดออกมาได้เพียงไม่กี่คำ “...ใช่..นัชชามันเลว ฆ่าคุณยาย”

“เหอะ” เตชิตหัวเราะหนึ่งเสียง ปล่อยร่างของเธอ เห็นเธอเหลือบตาลงไปมองที่ด้านล่าง “ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปตอนเช้า หลังจากนั้นเธอโทรไปแจ้งความ ดีมาก ไหนเธอบอกฉันสิ เธอรู้ได้ยังไงว่าโศจิรัตน์ตายแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด