ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 312

ตอนที่ 312 ความอ่อนโยนของเขามันใช้ไม่ได้ผล

เขาต้องการที่จะทอนเรื่องนี้ให้ดูเบาลง ต้องการทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวไม่ได้สลักสำคัญอะไร เขาไม่รู้ว่าจะทำให้เรื่องนี้ฟังดูเบาสำหรับเตชิตอย่างไร

เขายิ้มและฟัง Kevin พูดจนจบ จิบชาบนโต๊ะ ชาอู่หลงชั้นเลิศ ลิ้มรสความขมที่กลับกลายเป็นความหวาน ความหอมสดฟุ้งกระจายอยู่ในปาก

“คุณรู้ไหมทำไมผมถึงลงทุนกับบิต โอเอ็มแต่แรก” ทันใดนั้นเขาก็ยกหัวข้อที่ชวนงงขึ้นมา

Kevin จำได้ว่าครั้งแรกที่เขาเห็นเตชิต ในเวลานั้นเขาประสบความสำเร็จมากกว่าตัวเขาเองมาก เขากำลังเดือนร้อนจ่ากการขาดเงินหมุนเวียน เห็นนักลงทุนมากมาย แต่มีเพียงเตชิตเท่านั้นที่ลุงทุนกับเขา

เขายังจำได้ว่าเตชิตสวมสูทสีดำ ใส่นาฬิกาข้อมือที่เขาอยากได้ ผู้ช่วยของเขาที่อยู่ทางด้านหลังบอกว่ามีประชุม ให้เวลาเขาได้แค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น

ยี่สิบนาทีนี้ เขาพูดตลอดว่า ตั้งแต่ต้นจนจบเตชิตแทบไม่ได้พูดอะไร เพียงแแต่ตอบหรือถามคำถามเป็นครั้งคราวแค่หนึ่งหรือสองคำถามเท่านั้น

Kevin คิดว่าเขาแย่แน่ๆแล้ว ไม่คิดว่าหลังจากนั้นหนึ่งวันจะได้รับการลงทุนจากผู้ชายคนนี้

เขาโล่งใจ ทั้งบริษัทเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากด้วยเงินก้อนนี้

ในเวลานี้เขาถามว่าทำไมเขาถึงลงทุนกับบิต

Kevin คิดทบทวนดู พวกเขาไม่ได้มีข้อได้เปรียบอะไรที่ชัดเจน สิ่งเดียวที่เป็นข้อได้เปรียบของอุตสาหกรรมนี้มีข้อดีและความฉลาดของเขา ดังนั้นเขาจึงเลือกตอบอย่างปลอดภัย “เพราะวัฒนธรรมและค่านิยมของบริษัทครับ”

แม้ว่าคำตอบนี้จะเหมือนไม่มีค่าอะไร แต่มันสำคัญมากสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่

เตชิตยิ้ม ในเวลาอันสั้นก็ทำให้คนรู้สึกตื่นเต้นกับรอยยิ้มนั้น “ไม่ใช่ เป็นเพราะบริษัทคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นที่จะก่อให้เกิดผลที่ดี”

Kevin ตกตะลึง แต่ไม่นานเขาก็อยากที่จะเข้าใจ นี่เป็นเรื่องของความคาดหวัง ก่อนตัดสินใจลงทุน เตชิตทำงานการกุศลตลอด ไม่เคยมีความขัดแย้ง

“ผมลงทุนกับบิต โอเอ็มไม่ใช่เพราะศักยภาพของคุณเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นคือบิต โอเอ็มเป็นบริษัทที่สมควรดำรงค์อยู่ต่อไป” เตชิตไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ต้องพูด “ดังนั้นตอนนี้แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคุณ สำหรับผมก็อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เช่นกัน แต่มันขัดกับความตั้งใจเดิมของผมตั้งแต่ต้น”

สิ่งนี้ขัดแย้งกับหลักการณ์ที่เขาเลือกตั้งแต่แรก ความรู้สึกนี้จึงไม่เป็นมิตรนัก

Kevin ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็รู้ว่าเขาเอาจริงจึงจริงจังขึ้นมา “เต เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จัดการไม่ได้ คุณก็รู้ว่าตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาจนถึงตอนนี้ มีเพียงสิบกว่าต้นๆเท่านั้น นอกนั้นก็ได้รับการแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

เขาอธิบายถึงการบาดเจ็บจากการทำงานอย่างดี

หลังจากได้ฟังเตชิตก็ยิ้มและพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นคุณวางแผนที่จะจัดการ “อย่างสมบูรณ์แบบ” กับเรื่องนี้อย่างไร”

เขาเน้นคำนี้โดยเจตนา น้ำเสียงฟังดูไร้สาระมาก

Kevin อึ้งอยู่นานและก็ไม่พูดอะไร “เราสามารถให้ค่าชดเชยได้เท่าที่พวกเขาต้องการ ให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบากโดยที่ไม่ต้องทำงานตลอดชีวิต หรือว่าให้พวกเขาได้กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมจนกว่าจะเกษียณ”

สำหรับเวลานี้ เตชิตวางถ้วยน้ำชาในมือของเขาลง นัยน์ตาดำขลับของเขาจ้องมองนัยน์ตาสีฟ้าของชาวอังกฤษคนนั้น ช่างแตกต่างกันระหว่างท้องทะเลใต้ก้อนเมฆกับสระน้ำลึกในเวลากลางคืนอย่างนั้น

“Kevin คุณก็รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคือคำขอโทษไม่ใช่ค่าชดเชย” เขาชี้ให้เห็นจุดสำคัญในการที่จะคลี่คลายเรื่องนี้อย่างไม่เปิดโอกาสให้ดิ้นหลุดได้

ในที่สุดใบหน้าของ Kevin ก็เปลี่ยนสี รู้สึกถึงความยากลำบาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเตชิตกลับทำเพื่อพนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่งแล้วต่อต้านเขา “ถ้าหากเกิดปัญหาใหญ่โต จะมีผลกระทบไม่ดีต่อบริษัท”

“ดังนั้นเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นก็ควรจะรีบแก้ไขไม่ใช่ปล่อยเอาไว้อย่างนี้”

Kevin ไม่มีอะไรจะพูดเพราะนี่คือเรื่องจริง

“ออกแถลงการณ์ขอโทษซะ” เตชิตไม่รอให้เขาตอบก็สรุปให้

Kevin ด้วยจำนวนการลงทุนและผลการการลงทุนที่ไม่ดี ได้แต่อดทนไว้ อยากหลบไปทำสมาธิ “เต คุณรู้ไหมตอนนี้บิต โอเอ็มกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าหากตอนนี้…”

“ถ้าหากบิต โอเอ็มอยากจะเติบโตต่อไปอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ต้องขอโทษ” เขาหันไปมองคนที่อยู่ด้านข้าง “คุณรู้ไหมว่าระเบิดแฝงคืออะไร คุณต้องการที่จะถูกแค่สะเก็ดระเบิดหรือว่าต้องการที่จะโดนระเบิดทั้งลูกล่ะ”

Kevin ถูกบี้ถาม เขามักจะรู้สึกว่าเรื่องนี้สามารถจัดการได้ในระดับที่ต่ำกว่านี้

“คุณควรดีใจที่คนที่ค้นพบเรื่องนี้คือผมไม่ใช่คู่แข่ง ในธุรกิจมักจะมีคนพยายามดึงหางเพื่อขัดขวางเสมอ อย่าให้โอกาสนี้กับใคร” เตชิตพูดไปถึงใจของผู้คน

หลังจากฟังประโยคนี้ Kevin ก็ไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก ได้แต่ถาม “ให้ออกคำแถลงการณ์ขอโทษเมื่อไหร่”

เตชิตลุกขึ้นและมองดูที่นาฬิกา “คำขอโทษแน่นอนต้องออกมา แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เรื่องเวลาผมจะแจ้งให้คุณทราบภายหลัง”

หลังจากออกจากบริษัทบิต โอเอ็ม เตชิตก็ปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บริหาร กลับไปที่โรงแรม บ้านพักจริงๆเป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศสำหรับครอบครัวเดี่ยวระดับไฮโซที่ตั้งอยู่ริมเมือง สามชั้น มีระเบียง และสวนขนาดเล็ก นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำอุ่น สถาปัตยกรรมโดยรวมเป็นสีขาวและน้ำตาลเข้ม เห็นแว๊บแรกมันดูทันสมัยมาก

ประรมเดินตามเขาไป เขามีท่าทางที่รอบคอบ แต่เมื่อจอดรถที่ชั้นใต้ดินแล้วดูเหมือนมีบางอย่างทำให้เขาไขว้เขว เมื่อเตชิตกำลังรอลิฟต์ เขาถามโดยไม่ได้หันศีรษะกลับไป “มีอะไรจะพูด ว่ามา”

ประรนถูกจับได้ รู้สึกประหลาดใจ เขาสังเกตเห็นแล้ว เขาจึงไอแห้งๆและพูดอย่างผิดวิสัยว่า “คุณเตชิต ทำไมเมื่อสักครู่คุณไม่ให้ Kevin ทำแถลงการณ์ออกมาทันทีเลยล่ะครับ ยังมีเรื่องที่กังวลอยู่รึเปล่าครับ”

กังวลรึ

ร่างของชายหนุ่มขยับเล็กน้อย “ไม่ได้มีอะไรเป็นทางการ เป็นเรื่องส่วนตัว”

“ส่วนตัวรึ” เมื่อเขาพูดอย่างนั้นประรมยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก ปรกติเตชิตไม่เคยทำเรื่องอะไรเป็นการส่วนตัว การชะลอความคืบหน้าของธุรกิจด้วยเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่สไตล์ของผู้ชายคนนี้

“คดีนี้เป็นความรับผิดชอบของนัชชา ตอนนี้ผมมีความสามารถที่จะจัดการมันได้ เธอต้องขอร้องผม” ในไม่กี่คำ เขาก็วางเดิมพันเอาไว้บนโต๊ะแล้ว

ประรนรู้ได้ทันที เป็นเพราะคุณนัชชา แต่ว่าถ้าทำอย่างนี้จะรุนแรงเกินไปหรือไม่

เตชิตดูของว่าเขากังวล เป็นการยากที่จะพูดกับเขาในเรื่องส่วนตัว “ผมรู้ว่ามันผิดปกติในการทำเช่นนี้ แต่ว่าผมไม่มีทางอื่น” ชายหนุ่มยิ้มอย่างขมขื่นและทำอะไรไม่ถูก “เมื่อผมพูดดีๆเธอไม่ยอมฟัง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำเช่นนี้”

เธอปากแข็งเช่นนั้น ความอ่อนโยนของเขามันใช้ไม่ได้ผล

เขาเข้าใจนัชชา ถ้าหากย้อนเวลากลับไป ถ้าเขาและเธอไม่มีอนาคต ถ้าเขาได้ทำเรื่องที่ควรทำทั้งหมดแล้ว เธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจ เขายอมรับได้

แต่ถ้าไม่ให้เขาทำอะไร เพียงแค่ปล่อยไปและถอนตัว เขาทำไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ต่างอะไรกับการยอมเห็นด้วยกับผู้หญิง

เขาเจ็บ เขาก็ต้องให้เธอเจ็บด้วย ตราบใดที่ความเจ็บสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่ายังรักอยู่ ถ้าหากไม่เจ็บ ชายคนนั้นปิดตาลงเล็กน้อย ถ้าอย่างนั้นเขาจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด