ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 347

ตอนที่347ผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน

หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ระหว่างทางนัชชาโทรหาเมทนีและณัชชนม์ว่าหล่อนสบายดีไม่ต้องเป็นห่วงคนขับรถพาสองแม่ลูกมาส่งที่คฤหาสน์ของจินต์

ตอนที่นัชชากำลังเดินเข้าประตูไปนั้นใบหน้าขาวซีดทำให้จินต์ตกใจมาก"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า"

นัชชาปิดประตูแล้วเดินไปที่โซฟาดึงลูกเข้ากอดแล้วพูดข้างหูเด็กน้อยว่า"ธีมนต์เด็กดีของแม่เราถึงบ้านแล้วไม่มีอะไรแล้วนะลูก"

จินต์เองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในใจกระวนกระวายแต่เด็กน้อยยังอยู่ตรงนี้จึงไม่อยากจะถามอะไรมากจึงได้แต่ปลอบเขาว่า"ธีมนต์คงจะเหนื่อยแย่เลยเดี๋ยวน้าพาไปนอนพักที่ห้องนอนดีมั้ยพอตื่นแล้วเดี๋ยวเราไปกินอะไรอร่อยๆกันนะ"

ธีมนต์โดนปลุกไปแต่เช้าคงจะเหนื่อยและตกใจมาก"ได้ครับ"

"ธีมนน์เก่งจริงๆ"จินต์พาเด็กน้อยไปล้างมือล้างเท้าเด็กน้อยวัยสี่ขวบกว่าสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีไม่ว่าจะเป็นล้างหน้าแปรงฟันถือว่าเก่งกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

จินต์เป็นห่วงว่าธีมนต์จะตื่นตระหนกหวาดกลัวจึงเอาเจ้าตุ๊กตากระต่ายขนฟูมาให้เขาบีบเล่นมองเด็กน้อยที่นอนห่มผ้าบนเตียงเรียบร้อยจึงวางใจถอยออกมาจากห้อง

นัชชายังคงนั่งอยู่ที่โซฟาสองแขนรัดอยู่ที่เข่าฝ่ามือแนบอยู่ที่ใบหน้าท่าทางไม่สู้ดีนัก

จินต์เดินไปข้างๆหล่อนยกมือขึ้นลูกที่หลังหล่อนแล้วพูดอย่างเป็นห่วงว่า"ตกลงว่ามันเกิดเรื่องอะไร"

นัชชาจับคอมพิวเตอร์แน่นผ่านไปสักพักจึงยันตัวขึ้นแล้วตอบว่า"คนบ้านจิวะพงษ์พาธีมนต์ไปตรวจดีเอ็นเอ"

จินต์เองก็ทำใจเตรียมรับฟังไว้แล้วว่าคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนแต่คำตอบที่ได้รับก็ยังทำให้หล่อนตกใจ"อะไรนะถ้าอย่างนั้น.."

"อืมธีมนต์รู้หมดแล้ว"

จินต์ถลึงตาโตแบบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน"ห๊ะพระเจ้าช่วย"

นัชชายิ้มเจื่อน"เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยใช่มั้ยล่ะ"

สำหรับคนปกติทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจแต่พอกลายเป็นสองผู้เฒ่าแห่งตระกูลจิวะพงษ์แล้วกลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้พวกเขายังกล้าพูดที่จะรับเด็กกลับไปช่างตลกเสียจริง

"ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ถึงแม้ว่าจะไม่สนว่าแกจะรู้สึกยังไงแต่ก็น่าจะคิดถึงเด็กบ้างทำไม่ถึงไม่บอกกันสักนิดก่อนจะ.."พูดถึงตรงนี้จินต์เองก็ตกใจจนไม่รู้จะพูดอะไรต่อสักพัดจึงถามต่อว่า"แล้วตอนนี้พวกเขาจะเอายังไงยังสงสัยว่าธีมนต์ไม่ใช่ลูกของเตชิตอยู่มั้ย"

"ตอนแรกสงสัยแต่ตอนนี้แน่ใจแล้วอยากจะรับธีมนต์กลับไปบ้านจิวะพงษ์แค่ฉันปฏิเสธไปแล้ว"

"ทำดีมาก"จินต์พูดอย่างสะใจ"มีอย่างที่ไหนทำแบบนี้เท่ากับไม่เห็นเราอยู่ในสายตา"

จินต์โกรธแทนนัชชาด่าจบก็หันมาถามนัชชาอย่างเป็นห่วงว่า"แล้วแกจะทำยังไงต่อล่ะ"

นัชชาจ้องมองโต๊ะที่วางอยู่ตรงหน้ามองเหม่อไม่มีอะไรในสายตาสมองล่องลอยไปเรื่อยเปื่อยสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์เรื่องของลูกหล่อนต้องรอบคอบระมัดระวังให้มากที่สุด

"ฉันจะให้ชนุดมมาที่นี่"

จินต์ขมวดคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อผู้ชายคนนี้"แกแน่ใจเหรอเตชิตในสภาพนี้แล้วแกยังจะลากชนุดมเข้ามาอีกเขาจะต้องทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงแน่ๆ"

"ตอนแรกฉันก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้แต่ในเมื่อเหตุการณ์มันมาถึงขนาดนี้แล้ว"หล่อนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้ใจร้อนรนขึ้นมา"วันนี้คนตระกูลจิวะพงษ์เอาเด็กไปได้ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะทำเรื่องไม่คาดคิดอะไรอีกฉันจะไม่ยอมนั่งรอเฉยๆแน่"

"แล้วคุณเตชิตล่ะแกจะทำยังไงต่อไป"ที่จินต์ถามหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับเขาเป็นเพื่อนกับหล่อนมาหลายปีจินต์เข้าใจหล่อนดีและสัมผัสได้ว่านัชชายังคงรักเตชิตอยู่และความรักนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในใจยากจะลบเลือน

มองเห็นทั้งสองที่ต่างก็รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ต่างฝ่ายต่างทรมานซึ่งกันและกันหล่อนเองอยู่ข้างๆก็รู้สึกเจ็บปวด

นัชชาฟังแล้วได้แต่หัวเราะกับตัวเองดวงตาคู่สวยเหมือนถูกเขียนเต็มไปด้วยคำว่าอ้างว้างโดดเดี่ยวและหมดหนทาง"จินต์เรื่องนี้สำหรับฉันมันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปแล้วฉันคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว"

ตอนที่ชนุดมรับสายของนัชชานั้นเขากำลังประชุมอยู่ตอนที่ผู้ช่วยของเขาส่งโทรศัพท์มือถือให้เขานั้นเขามองที่หน้าจอเห็นชื่อที่ปรากฏขึ้นทำให้เขาอึ้งไปสองวินาทีถึงจะมีสติกลับมา

หลังจากกลับไปหลายวันหล่อนเป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อนครั้งแรกชนุดมเองก็พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ไปรบกวนหล่อนเขารอให้หล่อนโทรมารอมานานแล้ว

ในขณะที่พนักงานระดับสูงกำลังมองเจ้านายใหญ่ของพวกเขาถือโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นเขาก็รีบพุ่งตัวออกไปนอกห้องเร็วอย่างกับสายลม

ปกติเวลาประชุมชนุดมจะไม่รับโทรศัพท์แต่พฤติกรรมของเขาครั้งนี้ทำให้ทุกคนในที่ประชุมต่างแปลกใจ

ผู้ช่วยของเขาได้แต่กระแอมแล้วประกาศในที่ประชุมเป็นภาษาอังกฤษว่า"ท่านทำธุระกรุณารอสักครู่"

ชนุดมเดินเข้าไปที่ห้องทำงานปิดล็อกประตูพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู"นัชชา"

"ฉันเอง"เสียงอ่อนโยนที่คุ้นหูของหญิงสาวปลายสายทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มอึมครึมหลายวันมานี้กลับสว่างไสวขึ้นมา

"ตอนนี้คุณสะดวกคุยมั้ย"

ชนุดมเดินไปที่ขอบหน้าต่างเรื่องที่จะประชุมเก็บเอาไว้ก่อน"สะดวกคุณพูดได้เลย"

นัชชายืนอยู่ในห้องเงียบๆหันหลังชนผนังเย็นเยียบในกายหล่อนเองก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บมีความเศร้าหมองปกคลุมดวงตา"คุณพูดถูกฉันอาจจะไม่ควรจะกลับมาจริงๆ"

ชนุดมที่กำลังอารมณ์ดีก็กลับต้องสะดุดเพราะประโยคนี้ของหล่อนสีหน้าเปลี่ยนไปในชั่วพริบตาเขาคิดทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนัชชาแน่นอน

เสียงของเขาทุ้มต่ำลง"เกิดเรื่องอะไรขึ้น"

คนตระกูลจิวะพงษ์รู้เรื่องลูกแล้ววันนี้เขาแอบพาธีมนต์ไปตรวจดีเอ็นเอธีมนต์ก็เลยรู้เรื่องแล้วเช่นกัน"เมื่อพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกนัชชาก็เริ่มไม่สบายใจ

"พวกเขาต้องการตัวธีมนต์"

ชนุดมได้ยินหล่อนเล่าก็จินตนาการเหตุการณ์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างถึงแม้ธีมนต์จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาแต่เขาก็ดูแลเด็กน้อยมาตั้งแต่เกิดจนโตมาถึงทุกวันนี้ก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกับนัชชา"คุณจะให้ผมทำอะไร"

เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความก็ถามหล่อนไปตรงๆ

ในใจนัชชารู้สึกผิดต่อเขา"ชนุดมฉันขอโทษ.."

"ไม่เป็นไร"เขารีบชิงตัดบทโดยไม่รอให้หญิงสาวพูดจบ"ผมเคยบอกแล้วไงระหว่างเราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนี้ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณแต่ผมทำเพื่อลูก"

เขาพูดแบบนี้ก็เพื่อที่นัชชาจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดต่อเขาแต่กลับไม่รู้เลยว่าแบบนี้หล่อนยิ่งรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมต่อเขา

"ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่เลวมากปากก็บอกปฏิเสธคุณแต่ก็กลับมาขอความช่วยเหลือจากคุณอีกฉันไม่ได้อยากจะลากคุณเข้ามาพัวพันด้วยเลยจริงๆแต่ฉันเหลือแค่ธีมนน์คนเดียวฉันจะอยู่เฉยๆปล่อยให้ลูก..."

"ผมรู้ผมเข้าใจ"ชนุดมได้ยินเสียงสะอื้นของหล่อนมือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงกำแน่นโกรธที่ตัวเองไม่สามารถไปอยู่ต่อหน้าหล่อนได้ตอนนี้

"ผมดีใจมากที่คุณเล่าทุกอย่างให้ผมฟังนัชชาไม่ต้องกลัวผมอยู่ตรงนี้ผมจะรีบจองเที่ยวบินที่เร็วที่สุดไปเมืองJรอผมนะได้มั้ย"

นัชชาทรุดตัวลงพิงผนังพยายามเค้นเสียงออกมา"ได้ค่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด