ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 351

หรือว่าเธอจะมีชายอื่น

รถแล่นมาตลอดทาง ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถถูกจอดอยู่หน้าโรงแรมห้าดาวสุดหรู

ทั้งสองลงจากรถ ก็มีคนเปิดประตูให้ทันที แม้กระทั่งพนักงานก็ใส่ชุดสูทเทลโคทสีดำ ผูกเนคไทหูกระต่าย

สถานที่จัดงานอยู่บนดาดฟ้าชั้น42 พื้นที่ไม่แคบมาก เหมาะแก่อากาศที่ไม่หนาวไม่ร้อนแบบนี้ พนักงานเดินนำไปถึงห้องหน้างาน หลังจากพนักงานตรวจสอบบัตรเชิญเสร็จ ชนุดมตั้งใจงอแขน เป็นสัญญาณให้เธอคล้องแขนเขา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นัชชาออกงานกับเขา แต่กลับเป็นครั้งที่เธอรู้สึกตื่นเต้นที่สุด

เธอสูดหายใจเข้ายกมือไปคล้องแขนเขา วันนี้เธอใส่รองเท้าส้นสูง เธอเดินเข้าไปพร้อมเขาด้วยความระมัดระวัง

พอเดินเข้าไป เธอรู้สึกเหมือนมีสายตามากมายจ้องมาที่เธอ มีทุกสายตาทุกอารมณ์

ชนุดมหยิมแชมเปญมาสองแก้ว ส่งมันมาให้เธอแล้วแอบเอียงไปกระซิบข้างหูเธอ “วันนี้เธอสวยเป็นพิเศษ”

เขาชมเธอตรงๆแบบนี้ นัชชาหน้าร้อน เอียงหัวหลบแล้วมองแรงเขา “ก็คุณบอกให้ฉันใส่หนิ”

ชนุดมมองด้วยสายตาล้อเลียน “อืม ฉันบอกให้เธอใส่”

“……………” นัชชาหันหน้าหลบ ถึงเธอจะกำลังยิ้มแต่ในใจก็แอบรู้สึกโมโหเล็กน้อย

ที่ใส่แบบนี้เธอก็รู้สึกอายพอแล้ว เขายังจะมาพูดแซวเธออีก

และแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างข้างๆเธอมองไปที่โต๊ะกลม เห็นผู้ชายที่กำลังถือแก้วในมือ มืออีกครั้งสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง

เขาเซทผมไว้ข้างหลังเป็นอย่างดี ทำให้เห็นหน้าและหน้าผากชัดเจน ใส่สูทสีแดงเข้มและมืดมาก ไม่ได้เด่น แต่มีความรู้สึกหนักแน่นมีเสน่ห์ เป็นสีที่เขาไม่ค่อยได้ใส่ แต่ต้องยอมรับว่าเขายังดูดีเหมือนเดิม

คนที่ยืนอยู่หน้าเธอยังมีคุณชายชนัย ห้าปีผ่านมา เขาค่อนข้างน้อยลง โดยเฉพาะการแต่งตัว

รู้ตั้งแต่แรกว่าเขาต้องร่วมงานนี้ เธอก็เลยมา แต่นัชชาก็รู้สึกตื่นเต้นเธอเลยหันหน้ากลับมา หัวใจเต้นแรง

ตื่นเต้นจนควบคุมไม่อยู่ พอเห็นใบหน้า และดวงตาคู่นั้น ถึงแม้เขาจะไม่เอ่ยปากพูดอะไรก็ตาม

เตชิต สองคำนี้ก็สามารถส่งผลทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ได้

รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอ สายตาของชนุดมก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เขาเอื้อมมือไปดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ “เก็บอาการหน่อย”

นัชชาไม่ได้ตอบกลับ เธอเพียงถอดหายใจ หวังว่าตัวเองจะจัดการกับอารมณ์ได้เร็วๆ

ไม่นานพิธีกรก็เดินมาอยู่กลางเวที พูดเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ขึ้น และประกาศชื่อผู้ที่สำคัญๆ หนึ่งในนั้นมีเตชิตและชนุดม

ทั้งสองคนมีบทบาทสำคัญในธุรกิจ เป็นเรื่องปกติที่คนต้องจับจ้อง

นัชชารู้สึกไม่เป็นตัวเอง แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ปิดบังความตื่นเต้นข้างใน

อีกฝั่ง ชนัยเพิ่งรู้สึกตัว เขากลืนน้ำลายลงคอ กระซิบข้างหูเตชิต “พี่เต ห้าปีผ่านไปไม่นึกว่าพี่สะใภ้จะยังสวยเหมือนเดิม”

ห้าปีที่แล้วนัชชาอายุ24 ห้าปีต่อมาเธออายุ29 แต่ไม่ได้ดูแก่ ผิวยังดีเหมือนเดิม หน้าที่การงานยิ่งไม่ต้องพูดถึง เมื่อห้าปีที่แล้วเทียบอะไรไม่ได้เลยกับตอนนี้

สายตาชนัยสะดุดเข้ากับผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เก่ง ดูดี มีเสน่ห์ ดูก็รู้ว่าไม่ได้มาดี ยังทำท่าทางเหมือนสนิทสนมกับนัชชา

ชนัยรู้สึกว่าการที่ ที่ผ่านมาพวกเขาคอยเป็นห่วงเธอเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น นัชชาไม่เพียงแต่ยังมีชีวิตอยู่ และยังได้ใช้ชีวิตที่ผู้หญิงทุกคนฝันอยากจะมี

เพียงแต่...............

ชนัยเหล่มองเตชิตที่ยืนอยู่ข้างๆ ตอนนี้สีหน้าของเขาบูดเบี้ยว โกรธหน้ามืดจนเป็นแหล่งผลิตถ่านได้เลย

เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ หรือว่าห้าปีมานี้พี่สำใภ้จะมีผู้ชายใหม่หรอ

เตชิตเห็นตั้งแต่นัชชาเดินเข้ามาในงานกับชนุดม เธอเด่นมาก ตั้งแต่เข้ามาก็ทำให้สายตามากมายจับจ้อง และผู้ชายที่อยู่ข้างกายก็ดูเด่น แล้วยังมคนพูดว่าพวกเขาเป็นแฟนกันรึเปล่า

เป็นแฟนหรอ

เขายกยิ้ม ดี บอกให้เขารอ รอให้เวลากับเด็ก สุดท้ายได้ชนุดมเป็นคำตอบกลับมา เยี่ยมไปเลย

แก้วแชมเปญที่ถืออยู่ในมือ เขาดื่มไปเพียงแค่เล็กน้อย มีคนมาขอชนแก้วเขาเพียงแค่จิบเล็กน้อย แต่ตอนนี้เขากลับยกมันดื่มจนหมดแก้ว

ชนัยแอบกลืนน้ำลาย “พี่เต ใจเย็นๆ อาจจะเป็นแค่หุ้นส่วนก็ได้นะครับ”

ถึงแม้ว่าข้อสันนิษฐานนี้จะไม่มีความเป็นไปได้ก็ตาม

“ไม่เป็นไร ฉันอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรต่อ” คล้องแขนผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาเขา เธอช่างกล้ามากจริงๆ

ถึงนัชชาจะไม่ได้หันหลังกลับไปมอง แต่เธอรู้สึกได้ถึงสายตาร้อนเป็นไฟของเขาที่จ้องมองเธอถึงจะมองไม่เห็นเขาแต่เธอรู้สึกได้ว่าเขาจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา

เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ไม่ขยับไปไหน ไม่เหมือนกับผู้ชายที่ยืนชิวอยู่ข้างๆ

ไม่รู้เป็นเพราะว่าเธอที่ยืนอยู่ข้างๆค่อนข้างตึงเครียด จู่ๆแขนที่เธอคล้องไว้ก็ขยับออก แล้วเปลี่ยนเป็นโอบแขนมาแตะไว้ที่เอวเธอ เขาไม่ได้วางมือโดนเอวเธอแต่ดูจากไกลมันดูเหมือนเขากำลังโอบเอวเธอ

นัชชาตกใจ เอียงหน้าหลบ “คุณ........”

“ผ่อนคลาย relax” เขาพูดขัดขึ้น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ “เธอไม่ได้มาเพื่อให้ตัวเองขายหน้า”

นัชชารู้สึกตัวขึ้นมา

ใช่ เธอมาเพื่อที่จะคุยซึ่งๆหน้ากับเตชิต ไม่อยากเสียเวลา หวังอยากให้เขาฟังและยอมรับในการตัดสินใจของเธอ แต่ตอนนี้เธอทำตัวเหมือนเป็นคนผิด เธอไม่รู้ว่าเธอเอาความรู้สึกแบบนี้มาจากไหน

นัชชาก้มมองเท้าตัวเอง ชนุดมพูดถูก เธอต้องยืนตัวตรง ทำให้ตัวเองดูมั่นใจและไม่ทำให้ตัวเองอับอายขายหน้า

เธอบังคับให้ตัวเองเงยหน้าตัวตรงมีความมั่นใจ แต่การกระทำพวกนี้ในสายตาของเตชิตคือการเอาน้ำมันราดบนกองไฟ

หลังจากนั้นพิธีกรพูดอะไรต่อ กิจกรรมดำเนินไปถึงไหน เตชิตไม่ได้สนใจ สายตาเขามองไปที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ มองดูร่างบาง เขาอยากจะดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมอกแล้วสั่งสอนเธอ

มือที่วางไว้ตรงเอวของเธอ แตะตามาก

พิธีกรพูดดำเนินงานไปสักพัก หลังจากนี้ก็เป็นเวลาอัธยาศัย ทุกคนที่อยู่ในงานเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจการลงทุน เป็นคนที่บ้านรวยอยากทำงานลงทุน พูดรวมก็คือเป็นคนที่มีหน้าที่การงานที่ดีในสังคม เป็นคนรวยที่คุณไม่สามารถจินตนาการถึง

นัชชารู้ว่าเตชิตมีเงินเยอะ แต่ที่นึกไม่ถึงคือหลังจากที่เขาเลิกเป็นทนายแล้ว เขายังสามารถทำเงินได้เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่า

ผู้ชายคนนี้เหมือนจะทำอะไรก็สำเร็จไปหมด

ชนุดมทักทายกับคนข้างๆเสร็จ ก็พาเธอเดินมาทางเตชิต

อะไรที่จะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่มีใครหลบมันพ้น