ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 371

ตอนที่371อ่อนให้ก็จบแล้ว

นัชชาได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็รู้สึกบาดตามากมือที่วางอยู่บนเข่าเริ่มกำแน่นพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้มีอาการที่อยากร้องไห้แสดงออกมา

“ในปีนั้นที่เธอเกิดเรื่องทางตำรวจแน่นอนแล้วว่าเธอเสียชีวิตคนที่ทรมานที่สุดก็คือเตชิตมีช่วงเวลานึงที่เค้าแทบจะเหมือนศพไร้วิญญาณไม่สนใจอะไรทั้งนั้นงานการก็ไม่ทำเมาและทรมานร่างกายตัวเองทุกวันใครพูดอะไรก็ไม่ฟังเหมือนไม่อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองอีก”

“เธออย่าดูตอนนี้เลยเขาสภาพเป็นแบบนี้สงสัยไม่อยากสนใจใครจริงๆแล้ว5ปีนี้นิสัยของเขาเปลี่ยนไปมากในตาของเขาเหมือนว่างเปล่าไม่มีอารมณ์ไม่มีความสนใจใดๆรู้แค่ว่าอยากจะหาเธอคิดถึงเธอแล้วทรมานตัวเองเขาไปที่ที่เกิดอุบัติเหตุทุกวันบอกว่าแบบนี้ถึงจะอยู่เป็นเพื่อนเธอได้กลัวเธอจะเหงาและหวาดกลัว”

พูดถึงตรงนี้ปรัณก็นึกถึงอาการของเตชิตในช่วงนั้น“ฉันรู้ว่าเรื่องในตอนนั้นทำให้เธอเสียใจมากและไม่มีวันหลงลืมตั้งแต่ปีที่เธอจากไปเขาก็ไม่ได้อยู่สุขสบายฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะเปรียบเทียบแค่อยากให้เธอรู้ความจริงใจที่เขามีต่อเธอ”

ที่จริงแล้วนัชชาเข้าใจนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยินแบบนี้ทุกครั้งที่ได้ยินก็จะเจ็บปวดหัวใจแต่พอไปพบกับผู้ชายคนนั้นเธอรู้สึกตลอดว่าทั้ง2ห่างกันไกลเกินไปมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่อยากทำให้เข้าใจกันได้ไม่มากก็น้อยแต่ก็ไม่สามารถที่จะมองข้ามได้

เธอตาตกแล้วมองไปทางที่ที่นึงของโต๊ะ“แต่สำหรับฉันแล้วนี่คือการกระทำที่ไม่เต็มใจ”

“เพราะความรักหรือเพราะลูก?”

ปรัณพูดปัญหาได้ชัดเจนเกินไปนัชชาไม่รู้จะตอบเขายังไงเหมือนตัวเธอนั้นโปร่งใสเขาแค่มองหน้าแค่แว๊บเดียวก็รู้ว่าเธอคิดอะไรและไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถปกปิดเธอได้เลย

ปรัณก็ไม่บังคับเธอพูดน้ำเสียงนุ่มๆว่า“เรื่องความรักพวกเธอสองคนต้องปรึกษากันฉันไม่พูดมากแต่เรื่องของเด็กฉันรู้ว่าตั้งแต่เกิดสิทธิการเลี้ยงเด็กก็เป็นของเธอคนเดียวฉันรู้ว่าเธอลำบากมากความสัมพันธ์ก็ซับซ้อนแต่ไม่ว่ายังไงเตชิตก็คือพ่อของลูกนี่คือสิ่งที่ตัดขาดไม่ได้เธอให้เขาไม่เอาลูกเธอลองคิดดูในมุมมองของเขาถ้าเป็นเธอเธอจะตกลงไหม?”

การสมมุติแบบนี้อย่าว่าแต่นัชชาไม่โอเคเลยแค่คิดเธอก็ไม่กล้าคิดแล้ว

ตอนนี้ชีวิตของเธอกลายเป็นแบบนี้ลูกนั้นคือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ

“พี่ปรัณหลังจากที่เตชิตแยกจากฉันก็ไม่เคยคิดที่จะหาใครสักคนมาใช้ชีวิตที่เหลือเลยหรอฉันไม่เอาอะไรก็ได้แต่ยกเว้นเด็กเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้”ในโลกความรักของเธอนั้นไม่ใช่สภาพที่ดีแล้วไปรักใครอีกคนหนึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเธอ

ปรัณมองไปทางผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า5ปีผ่านไปแล้วเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่อายุ24เธอมีชีวิตของตัวเองสายตาของเธอนั้นมีความมั่นใจมากกว่าเดิมและเธอก็มีสิ่งที่ตัวเองอยากปกป้องแล้ว

นัชชาที่เป็นแบบนี้Perfectมากและทำให้น่าเอ็นดูเช่นกัน

ปรัณมองเธอเหมือนมองน้องสาวของตัวเองเขาอยากจะให้เธอมีชีวิตที่ดีจริงๆ“นัชชาในฐานะที่เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เพื่อนของเตชิตฉันอยากให้เธอใจกว้างหน่อยสิ่งที่ผ่านไปนั้นผ่านไปแล้วเรื่องที่ไม่ดีกับคนที่ไม่ดีก็จบลงแล้วถ้าเธอไม่รักจริงฉันก็ไม่พูดอะไรมากอวยพรให้เธอมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมฉันดูออกว่าเธอยังรักเตชิตอยู่เธออย่าหลอกตัวเองจนลืมความรู้สึกของตัวเองไปเพราะท้ายที่สุดแล้วเธอเองจะเสียใจเอง”

ทุกคำพูดของเขาพูดตรงเข้าไปในใจของเธอเธอฟังเข้าหูแล้วและลังเลมากกว่าเดิมด้วย

ทุกคนบอกกับเธอว่าเธอนั้นยังรักผู้ชายคนนั้นอยู่มีแต่เธอคนเดียวที่พยายามจะปฏิเสธหรือว่าเธอนั้นจะผิดไปแล้วจริงๆ

เรื่อง5ปีก่อนเขาเคยขอโทษแต่ไม่เคยคิดที่จะอธิบายเธอยอมรับว่าตัวเองยังวางใจเรื่องนี้ไม่ได้บางทีก็จะนึกถึงเรื่องนี้และคนในตระกูลของเขาก็เกี่ยวกับเรื่องนี้คนทางบ้านเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและไม่สบายใจ

เธอไม่วางใจให้ตัวเองอยู่กับครอบครัวแบบนี้และยิ่งไม่ยอมพาเด็กไปใช้ชีวิตอย่างนี้แน่นอน

“มีปัญหาอะไรก็พูดคุยกันได้พูดให้เข้าใจกันก็ดีแล้ว”ปรัณก็หวังให้พวกเขาทั้งสองคืนดีกันจะความคิดส่วนตัวหรือส่วนรวมเขาก็อยากให้ทั้งสองมีความสุข

พอได้ยินแบบนี้นัชชาก็ส่ายหัว“ฉันติดต่อเขาไม่ได้และเช้านี้ก็ได้รับซองจดหมายจากทนาย”

ถ้าเป็นเรื่องที่ยื่นเอกสารไปที่จริงปรัณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่บางทีก็ต้องใช้คำโกหกที่มีเจตนาดีในใจเธอนั้นรู้สึกผิดมากแต่ก็ต้องทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและหยิบขึ้นมาดู

เขายิ่งดูก็ยิ่งโมโหก็ว่าทำไมถึงง้อไม่เสร็จสักที!เขาทำแบบนั้นจริงๆไม่ใช่แฟนทำแทนยังจริงจังขนาดนั้น!

ปรัณอยากจะตะโกนบอกนัชชาว่านี่เป็นแค่ฝีมือเล็กน้อยที่ผู้ชายคนนั้นทำเพื่ออยากจะขู่เธอตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะไม่ให้เด็กนั้นมีแม่แต่พอนึกถึงคำที่จะใช้พูดก่อนจะไปเขาก็คิดไปสักแป๊บแล้วพูดด้วยความยากลำบาก“จากที่ฉันรู้จักเขาแล้วถ้าไม่ใช่เพราะโดนเบียดเบียนหรือบังคับเขาคงไม่ทำแบบนี้หรอก”

พูดจบก็นึกถึงเรื่องที่เตชิตขอเขายืมเสื้อในตอนนั้นปรัณคิดไปสักแปปก็พูดต่อว่า“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอหรือเปล่าถึงทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้?”

พอเขาถามแบบนี้นัชชาก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องพักสีหน้าของเธอเดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดีในใจของเธอรู้ดีแต่ไม่รู้ว่าจะพูดกับปรัณยังไงก็เลยตอบไปว่า“เมื่อวานตอนที่ไปโรงพยาบาลเกิดเรื่องไม่ค่อยโอเคขึ้นนิดหน่อย”

“งั้นก็คงจะใช่แบบนั้นแหละ”ปรัณทำหน้าเหมือนไม่เป็นไร“เขาคงจะโมโหอยู่เธออ่อนให้ก็จบแล้วถ้าเขาจะจริงจังขึ้นมาจะให้เธอไปดูเด็กที่โรงพยาบาลได้ไง”

นัชชาคิดก็ใช่แบบนั้นจริงๆตอนนั้นเขาโมโหก็เลยออกไปด้านนอกไม่ได้คิดทบทวนเรื่องนี้อยู่แล้วแต่ว่า……

เธอกดไปที่ประวัติการสนทนา“เขาไม่รับสายของฉันแล้วไม่พบหน้าฉันเรื่องลูกนี่อย่าหวังเลย”

ปรัณรอคอยเธอพูดคำนี้มาตั้งนานก็เลยรีบตอบไปว่า“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันโทรเอง”

พูดจบเขาก็หาเบอร์ของเตชิตแล้วโทรออกไปโทรศัพท์ดังไปซักแป๊บถึงจะรับสายในใจของนัชชารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจแต่เตชิตกลับทำตัวสบายรู้ว่าเขานั้นอยู่กับนัชชาก็เลยรับสายช้าๆ

“ตอนนี้นายอยู่ไหน?”เขาทำเสียงทุ้มทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อหน้านัชชาเขาก็รู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูก

“อยู่บ้านไงไม่งั้นจะอยู่ไหนล่ะ?”

“นัชชาอยากจะพบนายนายมีอะไรก็พูดต่อหน้าให้ชัดเจนโตขนาดนี้แล้วยังจะมาเล่นแบบนี้”ยากที่ปรัณจะมีโอกาสมาว่าร้ายเขาแบบนี้แถมยังคิดถึงจิตใจของนัชชาแล้วต่อว่าเตชิต

แต่เตชิตไม่สนใจอะไรเลย“ไม่เจอ”

เขาจะให้เธอรีบร้อน!

“เฮ้ยอย่าทำเกินไปนะ”ปรัณไม่อยากจะเถียงกับเขาต่อก็เลยถามไปตรงๆว่า“ไม่งั้นนายก็มาไม่งั้นก็ฉันพานัชชาไปหานายเองนายเลือกเลย”

เตชิตยืนอยู่ที่หน้าต่างมองไปทางวิวที่อยู่ด้านนอกนิ้วชี้และนิ้วโป้งสองสลับกันจากนั้นก็พูดว่า“คืนนี้ฉันจะไปMD-CLUBถ้าอยากเจอฉันก็ไปตรงนั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด