ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 379

ตอนที่379การดูแล

นัชชานอนถึงตอนเย็นถึงจะตื่นมาน้ำเกลือนั้นเติมเสร็จหมดแล้วตอนที่ลืมตายยังมึนๆอยู่เธอแค่หันหน้านิดนึงก็เห็นจินต์ที่นั่งอยู่ข้างๆ

“จินต์…..”เสียงของเธอเบามากเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

จินต์เห็นมือของเธอขยับถึงจะรู้ว่าเธอนั้นฟื้นแล้ว“ตื่นแล้วหรอเป็นไงบ้างมีที่ไหนที่รู้สึกไม่สบายไหม?”

นัชชาคิดไปคิดมารู้สึกว่าไม่สบายทุกที่แต่เธอก็ทนได้อยู่“ไม่เป็นไรฉันอยากดื่มน้ำ”

“น้ำเย็นแล้วแต่ชิดเพิ่งไปเอาเธอรอแป๊บนึงนะ”

เตชิต?

พอได้ยินชื่อนี้นัชชาก็ขมวดคิ้วแน่นยังไม่ทันพูดอะไรก็เห็นเขาเดินเข้ามาจากประตูที่มือมีขวดเก็บน้ำอุ่นสีชมพูอยู่ไม่ค่อยเหมาะกับเขาเลย

เห็นเธอตื่นแล้วผู้ชายอึ้งไปสักแป๊บแล้วรีบเดินไปที่ข้างเตียงไปสบกับตาคู่นั้นที่น้ำตาคลอก้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปาก“เธอทำให้ฉันตกใจหมดเลย”

จินต์จะเลี่ยนตายอยู่แล้วเธอรีบมองไปทางอื่นจะได้ไม่ต้องดูจูบของทั้งสอง

นัชชาหลบไม่ทันเพราะเธอก็เพิ่งตื่นยังเบลอๆอยู่“นายมาอยู่นี่ได้ไง?”

“ตอนเช้าโทรหาเธอไม่มีคนรับสายพอถามจินต์ถึงจะรู้ว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล”เขาเหมือนมีอะไรจะพูดมากมายในตาเขากำลังลังเลอยู่สุดท้ายแค่ถามไปว่า“ร่างกายไม่สบายเมื่อคืนทำไมไม่บอก?”

นัชชาตาตกนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเขา

จินต์เห็นเธอไม่อยากพูดกลัวว่าทั้งสองจะทะเลาะกันอีกแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือเตชิตไม่ได้ใจร้อนกลับพูดถึงเรื่องของเด็ก

“2วันก่อนฉันเรียกน้ารินกลับมาแล้วตอนที่เด็กอยู่น้าจะได้ดูด้วยน้าอายุเยอะแล้วมีประสบการณ์ด้านนี้ด้วยเธอไม่ต้องเป็นห่วง”

พอได้ยินเขาพูดถึงเด็กสายตาของนัชชาก็มองไปที่ตาของเขาไม่คิดว่าเขาจะเรียกน้ารินกลับมาความเป็นห่วงในใจก็ลดลงนิดนึงแค่รู้สึกผิดกับเด็กมากๆ“ธีมนต์คิดถึงฉันไหม?”

“คิดถึงสิ”เขารีบตอบกลับโดยไม่ได้คิด“ถามถึงเธอตั้งหลายครั้งแหนะ”

หลังนัชชาได้ยินในใจก็รู้สึกแปลกๆอีกครั้งดีใจที่เด็กคิดถึงเธออีกทางหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีบ้านเป็นหลักเป็นแหล่งทำให้ธีมนต์ลำบากไปด้วย

เตชิตรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่มือหนาไปจับที่หน้าของเธอรับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอซ่อนไว้ก็เลยรีบพูดว่า“ถ้าเธอหายดีแล้วร่างกายไม่มีปัญหาฉันจะพาเธอไปเจอลูก”

นัชชาที่กำลังจะขัดขืนก็นิ่งไปเธอตกใจเกินไปคิดว่าตัวเองฟังผิด“นายพูดอะไรนะ?”

“อยากเจอลูกไม่ใช่หรือไง”

ใช่อยากเจอมากๆแต่ทำไมอยู่ดีๆเขาก็เปลี่ยนใจ

นัชชาทำตาโตค้างไม่รู้จะต้องตอบยังไงเสียงของเธอสูงขึ้นมาทันที“นายนายยอมหรอ?”

สายตาที่ไม่เชื่อถือของเธอทำให้เตชิตรู้สึกเจ็บชายเล็กน้อยก่อนหน้านี้เขาแสดงต่อต้านเยอะเกินไปถึงทำให้เธอไม่เชื่อใจในตัวเขามั้ง

“เธอเป็นแม่ของเด็กนิอะไรคือยอมไม่ยอม”

นัชชามองไปทางตาของเตชิตทั้งสองสบตากันเขาไม่กล้าเชื่อว่าคำนี้จะออกจากปากของเตชิตเริ่มตั้งแต่วันนั้นที่กลับมาในประเทศพวกเขาทะเลาะกันตลอดเพราะเรื่องเด็กเธอไม่เคยคิดว่าเขานั้นจะยอม

เตชิตหยิบแก้วน้ำมาแล้วเอาหลอดใส่เข้าไปจากนั้นยื่นไปข้างปากเธอจิตใต้สำนึกของนัชชาอยากจะซ่อนเขาจึงรีบพูดไปว่า“ดื่มน้ำน้อยจะทำให้ฉันโมโหนะ”

คำพูดของเขาเหมือนกำลังขู่แต่น้ำเสียงไม่หนักเลยสักนิดฟังแล้วไม่มีความรู้สึกว่าสั่งแต่เหมือนน้ำเสียงที่กำลังง้อเธออยู่

นัชชานึกถึงเรื่องของเด็กและไม่อยากจะทะเลาะกับเขาต่อเธอก็หิวก็เลยดื่มน้ำไปครึ่งแก้ว

จินต์ดูอยู่ข้างๆเธอรู้สึกดีใจจริงๆแบบนี้ก็ดีแล้วไงทั้ง2คนถอยคนละก้าวพูดให้ชัดเจนยังไงก็เป็นคนที่รักกันมีอะไรก็คุยกันดีๆ

ลูกคือสะพานที่ทำให้ทั้งสองเชื่อมกัน

เตชิตเรียกหมอมาดูอาการอุณหภูมิในร่างกายของเธอตอนนี้มี38องศายังมีไข้อยู่นิดๆ“หมอแนะนำให้อยู่ดูอาการในโรงพยาบาลอีกวันนะคะกลัวว่าไข้จะขึ้นอีกเพราะก่อนหน้านี้ไข้ขึ้นสูงเกินไปพรุ่งนี้จะทำการตรวจร่างกายทั้งหมดอวัยวะภายในทั้งหมดปกติถึงจะกลับได้ค่ะ”

เตชิตไม่มีปัญหาก็เลยเอาเอกสารไปทำการอยู่ต่อที่โรงพยาบาล

ผู้ชายเพิ่งเดินออกจากห้องจินต์ก็รีบเดินเข้าไปแล้วพูดเบาๆข้างหูเธอว่า“ครั้งนี้ที่เธอไม่สบายทำให้เตชิตเปลี่ยนไปเลยนะ”

ในใจของนัชชาก็รู้สึกประหลาดใจทำไมเขาเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้หรือเป็นเพราะเห็นเธอไม่สบายก็เลยเปลี่ยนใจ

ไม่แน่ใจ

“ใครจะรู้ว่าครั้งนี้จะดีกี่วันอาจจะดีแค่แป๊บเดียวแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้”

พอได้ยินแบบนี้จินต์ก็อึ้งไปเลย“เธออย่ามองโลกในแง่ร้ายได้ไหมถึงแม้เตชิตจะนิสัยไม่ค่อยดีแต่ก็ไม่ใช่คนที่ชอบกลับคำคงไม่เป็นอย่างนั้นมั้ง”

นัชชาถอนหายใจออกมา“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ”

น้าที่อยู่เตียงข้างๆเห็นทั้งสองกำลังซุบซิบกันอยู่ก็เลยพูดแทรกมาว่า“สาวน้อยคนเมื่อกี้เป็นแฟนเธอหรอ?”

หน้าของนัชชาเริ่มแดงถ้าบอกว่าไม่ใช่พอนึกถึงการกระทำของเขาที่ทำกับเธอถ้าบอกไม่ใช่ก็ไม่ดี

เห็นเธอเป็นแบบนี้นะยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่คิดว่าเธออาย“พวกเธอกำลังคบหากันหรอเด็กสมัยนี้มีน้อยที่จะดูแลและเป็นห่วงแบบนี้แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กดี!”

เตชิตมาเฝ้าอยู่ข้างเตียงเธอตลอดภาพทุกอย่างอยู่ในสายตาของเธอก็เลยอดจะพูดตอบไม่ได้ว่า“เมื่อกี้ตอนที่เธอเป็นไข้นอนอยู่แฟนเธอเป็นห่วงจนจะบ้าอยู่แล้วฉันเห็นตาของเขาแดงด้วยนะคงจะเป็นเพราะเป็นห่วงเธอแน่ๆเลย!”

นัชชารู้สึกบังเอิญก็เลยหันหน้ามองไปทางจินต์ในสายตาเต็มไปด้วยสงสัย

จินต์ปฏิเสธ“ฉันไม่รู้เมื่อกี้ฉันออกไปข้างนอก”

“ผู้ชายแบบนี้เธอต้องรักษาไว้ดีๆนะเด็กคนนั้นหน้าตาก็ดีบุคลิกก็ดีตอนที่เธอนอนอยู่ก็เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยๆดูแลเธอตลอดเขารักเธอมากๆเลยนะ!”

นัชชาไม่รู้จะตอบยังไงก็เลยยิ้มให้

แต่ในใจของเธอไม่ได้นิ่งเหมือนหน้าตาเธอเลย

เธอคิดมาตลอดว่าเรื่องเมื่อคืนเขานั้นโทษเธอและไม่เคยคิดในมุมมองของเธอเลยแต่พอตอนนี้ได้ยินคำพวกนี้ก็รู้สึกว่าไม่ใช่แบบที่เธอคิด

ผู้ชายคนนี้ต้องควบคุมอารมณ์มากมายไว้ภายใต้หน้าที่นิ่งแบบนี้ขนาดไหน?

หลังจากที่เตชิตทำทุกอย่างเสร็จก็ผ่านไปแล้ว40นาทีแล้วโรงพยาบาลรัฐบาลมีคนเยอะเขาต่อแถวไป2แถวยาวถึงจะเสร็จ

หลังจากที่กลับถึงห้องผู้ป่วยเขาก็รีบถามเธอว่า“หิวไหมจะกินอะไรไหม?”

นัชชาไม่มีความอยากอาหารเลย“ไม่อยาก”

“งั้นก็กินโจ๊กหน่อยไหม”

“……”

เมื่อกี้เธอพึ่งบอกไปไม่ใช่หรอว่าไม่อยากกินโจ๊กไม่ถือว่ากินหรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด