ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 386

ตอนที่386กลับสู่ไวโรจน์วิลล่าอีกครั้ง

รถขับตรงไปทางไวโรจน์วิลล่าถนนเส้นนี้นัชชาคุ้นเคยดียิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งชัดเจนคำพูดที่ชนุดมถูกจริงตั้งแต่ต้นจนจบเธอไม่เคยวางและลืมเรื่องที่ผ่านมา

คนขับรถขับรถดีมากระหว่างทางไม่มีสะดุดเลยแม้แต่น้อยทั้งสองคนนั่งด้านหลังไม่มีการสนทนานัชชาหันหน้ามองไปทางวิวข้างถนนและคนข้างๆนั้นหันมามองเธอ

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงรถก็ขับเข้าไปในประตูวิลล่าเรื่องราวต่างๆได้กลับมาในความทรงจำที่ดีอีกครั้งในใจของนัชชาเริ่มไม่รู้จะทำยังไงแต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือตัวแข็งทื่อเหมือนมีตาข่ายมาพันตัวเธอไว้จนเถอะตัดทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย

อีกทางนึงน้ารินได้ยินเสียงรถที่ดังขึ้นทีแรกกำลังดูเด็กวาดรูปอยู่ก็รีบพาเด็กเดินไปต้อนรับที่ประตูเธอคิดว่าจะเจอแต่เตชิตกลับมาคนเดียวแต่ไม่คิดว่าจะได้เจอหน้าที่คิดถึงและคุ้นเคย

มองไปทางนัชชาที่กำลังเดินมาคนคนนี้ที่อายุครึ่งร้อยปีตาแดงไปหมด“นี่นี่คือ”……

ไม่รู้ว่าอายุเยอะแล้วหรือตื่นเต้นเธอพูดไม่ออก

นัชชามองไปทางใบหน้าที่ใจดีสำหรับเธอแล้วการกลับมาของเธอนั้นคือความยินดีและมีความสุขเธอสามารถมองเห็นผ่านตาของผู้ใหญ่ท่านนี้ได้เธออ้าแขนกว้างแล้วไปกอดเธอ“น้ารินไม่เจอกันตั้งนานนะคะ”

น้ารินไม่รู้จะทำตัวยังไงแอบเช็ดน้ำตา“นานมากแล้วจริงๆน้าคิดว่า……เฮ้อไม่พูดแล้วไม่พูดแล้วกลับมาก็ดีแล้วค่ะ”

“แม่!”ธีมนต์ที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกว่าตัวเองโดนเมินก็เลยตะโกนเรียก

นัชชาถึงจะปล่อยตัวน้ารินย่อตัวลงไปแล้วกอดเด็กน้อยเข้าไปในอ้อมกอดอ้อมกอดของเธอเต็มไปด้วยร่างเล็กๆของเด็ก“ธีมนต์คิดถึงแม่ไหมครับ?”

“คิดถึงคิดถึงมากๆด้วยครับ!”หลังจากที่พูดจบธีมนต์ก็เริ่มร้องไห้“เมื่อคืนผมฝันถึงแม่ด้วยครับ”

นัชชากอดเขาแน่นกว่าเดิมอยากจะจูบเขาแต่ก็ไม่กล้ากลัวว่าลูกจะติดหวัดของตัวเอง“เด็กดีแม่ก็คิดถึงลูกคิดถึงมากๆเลยเหมือนกัน”

มองไปทางภาพที่อยู่ตรงหน้าน้ารินก็น้ำตาไหลออกมาแต่เธอใช้มือปิดปากกลั้นไว้

เตชิตมองไปทางภาพที่แม่และลูกกอดกันนี่คือภาพที่เขาเคยฝันในวันที่หมดหวังแต่ตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเป็นจริงแล้ว

วันนี้เขารอมานาน5ปีในตอนที่ไม่รู้เป็นหรือตายภาพที่เธอกลับมาที่บ้านหลังนี้เป็นเพียงความฝันแต่ตอนนี้ภาพเหล่านั้นเป็นจริงแล้วความตกตะลึงในใจมีแต่เขาเองที่รู้

เสียงของผู้ชายสั่นเล็กน้อย“เข้าไปข้างในแล้วค่อยคุยกัน”

นัชชาจูงมือเด็กน้อยและน้ารินก้าวขาเดินเข้าไปในบ้านในวินาทีนั้นใจของเธอเต้นแรงมากหลังจากที่เดินเข้าไปในห้องโถงเธอก็อึ้งไปเลย

การจัดวางตกแต่งอุปกรณ์ในบ้านเหมือนกับ5ปีที่แล้วทั้งหมดตำแหน่งของทีวีแจกันที่บนโต๊ะทั้งหมดเหมือนเดิมทุกอย่างไม่มีที่แตกต่างจากในความทรงจำเลย

แม้กระทั่งก้าวที่เธอเดินเข้ามาในประตูก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยตอนนั้นเธออายุ24เป็นช่วงเวลาที่เด็กเข้าสู่วัยเติบโตปีนั้นเธอได้พบกับเขาจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป

ที่นี้เธอใช้ชีวิตมา1ปีทุกซอกทุกมุมเต็มไปด้วยภาพความทรงจำเยอะจนเธอไม่จำเป็นต้องนึกเยอะก็จำเรื่องราวต่างๆได้

“คุณนัชชาคะเปลี่ยนรองเท้าก่อนเถอะค่ะเท้าจะได้สบาย”น้ารินเปิดตู้รองเท้าและเอารองเท้าผู้หญิงที่มีเพียงคู่เดียวในตู้เอาไว้ข้างเท้าเธอ

วินาทีที่นัชชามองไปทางรองเท้าตัวของเธอแข็งทื่อไปหมดรองเท้าสีชมพูคู่นี้เธอเป็นคนซื้อมาเมื่อ5ปีก่อน5ปีผ่านไปสีเดิมของรองเท้าจางลงแต่สภาพก็ยังเหมือนเดิม

ดูออกได้ว่ารองเท้านี้ถูกซักมาหลายครั้งก็เลยทำให้สีจางลงแต่ก็สะอาดมากถึงแม้ไม่มีคนใส่เขาก็ยังเก็บไว้เหมือนเดิมและยังซักให้สะอาดเหมือนกำลังรอคอยเธอกลับมา

นัชชาน้ำตาคลอแล้วรีบไปทางอื่นไม่อยากจะคิดเยอะกว่านี้แล้วเธอจึงรีบเปลี่ยนรองเท้า

“เมื่อสักครู่ก่อนจะกลับมาคุณเตชิตได้สั่งให้ฉันทำแกงไว้น้าต้มแกงไก่ไปประมาณ3ชั่วโมงตอนนี้ยังเปิดไฟไว้อ่อนๆเดี๋ยวน้าใส่ถ้วยมาให้ทานนะคะ”น้ารินพูดแล้วก็เดินเข้าไปในห้องครัว

นัชชาไม่คิดว่าเขาจะละเอียดอ่อนขนาดนี้เรื่องแค่นี้ก็สั่งไว้แล้วก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่อเดินไปแล้วไปนั่งบนโต๊ะอาหาร

ธีมนต์ไม่ได้เจอแม่มาหลายวันก็เลยตัวติดแม่ตลอดไม่ยอมไปไหน

พอเตชิตเห็นแบบนี้ก็เลยตัดสินใจให้เวลาสองแม่ลูกอยู่ด้วยกันส่วนเขาขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันหลังจากที่อยู่โรงพยาบาลมา2วัน1คืนก็ควรจะอาบน้ำดีๆแล้ว

นัชชาก้มหน้ามองไปทางเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดตัวเอง“หลายวันมานี้เป็นไงบ้างมีที่ไหนสบายหรือเปล่าครับ?”

“ตอนแรกก็มีนิดหน่อยครับแต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”ธีมนต์ไปจับนิ้วมือของนัชชาเล่นแล้วพูดเบาๆว่า“คุณลุงดีกับผมมากเลยครับยายรินก็เหมือนกันทำของอร่อยให้ผมกินเยอะมากเลยครับแต่ว่าแต่ว่า”……

เด็กพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดนัชชาเลยถามขึ้น“แต่ว่าอะไรครับ?”

ธีมนต์รู้สึกอายแล้วไปเกาผม“แต่ว่าตอนที่นอนตอนกลางคืนแล้วจะคิดถึงแม่มากๆครับ”

“ไม่เป็นไรครับแม่มารับลูกแล้วไงเดี๋ยวพวกเราก็กลับบ้านแล้ว”

“ห้ะ?พวกเราจะกลับแล้วหรอครับ?”เหมือนเพิ่งเข้าใจที่นัชชาพูดธีมนต์รู้สึกตกใจ

ตาของนัชชาไปสบกับตาของเขาที่กำลังมึนงงจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า“ใช่ไงครับแม่มารับลูกกลับบ้านพาลูกกลับไปลูกอยากจะกลับหาลุงชนุดมหรือแม่บุญธรรมครับ?หรือไปที่บ้านตายายก็ได้แล้วแต่ลูกเลย”

ทีแรกอยากจะทำตามที่ลูกคิดแต่ไม่คิดว่าหลังจากที่เด็กได้ยินก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก“แต่ว่าผมผม”..........

เขาพูดผมมาตั้งนานก็พูดไม่จบ

นัชชาไปจับที่ศีรษะเขาแล้วพูดว่า“ลูกอยากพูดอะไรค่อยๆพูดนะครับ”

ธีมนต์ตะกุกตะกักทั้งวันถึงจะพูดมาได้ในตาของเขาก็เต็มไปด้วยความระมัดระวัง“ผมตกลงกับลุงไว้ว่าพรุ่งนี้จะไปกินข้าวด้วยกันเขาบอกว่าสองสามวันมานี้ไม่ค่อยได้อยู่กับผมพรุ่งนี้ก็เลยจะพาผมไปครับ”

นี่คือคำให้สัญญาของเตชิตที่ให้กับเด็กเมื่อคืนเด็กยังคงรอคอยการมาถึงอยู่

นัชชาไม่คิดว่าเด็กจะมีปฏิกิริยาแบบนี้เธอคิดว่าถ้าได้ยินคำว่ากลับบ้านเด็กต้องดีใจมากๆแต่อาการของเขาในตอนนี้รู้สึกเศร้านิดนึง

ใช่เศร้า

เขาไม่อยากไป

พอได้คำตอบแบบนี้มานัชชาไม่รู้ว่าควรดีใจหรือไม่ควรดีใจปกติแล้วทุกคนจะดีใจอีกมุมมองหนึ่งกำลังบ่งบอกว่าเด็กคิดดีกับเขามากแต่ถ้าพูดตามความในใจของตัวเองเธอไม่ควรดีใจเพราะเด็กกำลังเชื่อใจผู้ชายคนนั้น

นี่คือสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงไม่เคยคิดว่าธีมนต์จะมีผูกพันกับเตชิตได้มากขนาดนั้น

“ลูกไม่อยากไปใช่ไหม?”นัชชาถามความคิดเห็นของเด็กอีกครั้ง“ถ้าแม่มีธุระต้องไปทำลูกก็จะอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด