ตอนที่478 เป็นสามีภรรยากันจะอายอะไร
การฟื้นฟูร่างกายของเมทนีเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ปรัณนึกว่าต้องใช้เวลาสองสัปดาห์ ถึงสัปดาห์ครึ่งก็ไม่มีปัญหาพื้นฐานอะไร แต่เพื่อรับประกัน นัชชาไม่ได้ให้ออกจากโรงพยาบาลก่อน
เพียงพริบตาก็เป็นวันสุดท้ายที่อยู่โรงพยาบาล หลังจากตรวจสอบรับรบว่าไม่มีข้อผิดพลาด ณัชชนม์ก็ทำเรื่องดำเนินการออกจากโรงพยาบาล เมทนีสามารถลงจากเตียงเดินได้แล้ว แม้ว่าจะต้องมีไม้ค้ำแต่ถือว่าเดินได้อย่างมั่นคง
“หมอปรัณ ช่วงนี้ต้องรบกวนคุณมากเลย ได้ยินนัชชาบอกว่าต้องขอบคุณคุณและหมอปสันน์มากๆ” เมทนีขอบคุณปรัณอยู่ในห้องผู้ป่วย เขาชอบผู้ชายอย่างปรัณมาก ถึงแม้ดูแล้วจะไม่ได้โดดเด่นร่าเริง ส่วนใหญ่จะดูสุขุมและผู้ดี แต่หมอแบบนี้ถึงจะน่าเคารพนับถือ
ปรัณรีบส่ายหน้า “คุณพ่อไม่ต้องชมผมขนาดนี้หรอกครับ มันเป็นเรื่องที่ผมควรทำทั้งนั้น ไม่มีอะไรเลย”
เมทนียิ้ม เข้าใจอย่างมาก หลังจากเขาป่วยปรัณก็ทำตัวเป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาล มีการผ่าตัดมากมายรอเขาอยู่ เขาจัดการเรียบร้อยก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก แต่การที่มาคอยเยี่ยมดูอาการวันละสองสามหน มันคือมิตรภาพของคนในครอบครัว
“มีเวลาว่างก็มาเป็นแขกที่บ้านสิ ฉันกับคุณป้าจะทำอาหารให้คุณทานสักมื้อ” เมทนีตบบ่าเขาราวกับเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่น
ปรัณรับปากอย่างสุขใจ “มีเวลาจะไปเยี่ยมแน่นอนครับ!”
“คุณพ่อ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวหมอปรัณมีผ่าตัด พวกเราอย่าไปกวนเลย” นัชชาอยู่ข้างๆก็รู้สึกเกรงใจ จึงเอ่ยเสียงกระตุ้น
ณัชชนม์ประคองแขนเขาล่วงหน้า ข้างๆยังมีพยาบาลผู้เชี่ยวชาญของทางโรงพยาบาลหนึ่งคน จะพาไปที่บ้านด้วย
กลุ่มคนลงลิฟต์ไปชั้นหนึ่งทันที เตชิตกำลังรออยู่ ร่างกายเขาไม่ค่อยดี เพื่อให้คนขับรถขับไปอย่างปลอดภัย เลยให้ขับรถที่มีเนื้อที่กว้างอย่าง SUV มาในกรณีพิเศษ
ณัชชนม์กับเมทนีนั่งอยู่เบาะหลัง พยาบาลก็นั่งด้วยกัน นัชชากับเตชิตนั่งด้านหลังทั้งสอง
ระหว่างทาง เห็นกลุ่มคนมากมายข้างถนน เมทนีก็ถอนหายใจ “ในที่สุดก็ออกจากโรงพยาบาลเสียที นอนอยู่บนเตียงจนเวียนหัวไปหมดแล้ว”
มองดูเพดานขาวๆทุกวัน มีโอกาสได้ลงจากเตียงก็เดินไปไกลไม่ได้ สำหรับเมทนีที่ทั้งชีวิตนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อนมันคือการทรมาณที่ซ่อนอยู่อย่างหนึ่ง
“คุณยังเวียนหัว เพื่อดูแลคุณ พวกเราก็เวียนหัวจริงๆ ต่อจากนี้ไปห้ามสะเพร่าเด็ดขาด ควรทำการตรวจสุขภาพสักหน่อย สิ่งที่ควรระวังก็ต้องระวัง!” ณัชชนม์อดว่ากล่าวไม่ได้ การป่วยฉับพลันครั้งนี้ทำให้เธอกลัวแทบทนไม่ไหว “คุณก็ดูแลตัวเองดีๆเพื่อลูกด้วย ไม่ต้องไปรบกวนพวกเขาล่ะ ครั้งนี้เจ้าเตชิตก็ยุ่งเหมือนกัน ร่างกายเขาก็ยังไม่ได้ฟื้นฟูดี......”
“ผมไม่เป็นไรครับ ดีขึ้นมาแล้วครับ” เตชิตพูดทันที อบอุ่นในใจที่มีคนห่วงตน
ได้ยินดังนั้น นัชชาก็ยกมือขึ้นจับฝ่ามือใหญ่ที่วางอยู่บนขา เพียงแตะก็ถูกเขากุมมือไว้ทันที ทั้งสองสบสายตากัน สายตาทั้งสองนั้นคือความรักใคร่ที่ไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นการเดินทางที่ราบรื่น รถจอดที่หมู่บ้านมีสุขชั้นล่าง นัชชาอยากชวนให้ทั้งสองเข้ามาชมสวนด้วยกัน แต่ณัชชนม์และเมทนีไม่เห็นด้วย เห็นว่าพวกเขายืนกรานจึงย้อมแพ้
ที่อยู่สไตล์เก่านั้นไม่มีลิฟต์ อยากจะประคองเมทนีเดินเล่น เตชิตเดินไปที่ด้านหน้าของเมทนีแล้วหยุดลงเล็กน้อย แล้วตบเข้าที่ด้านหลังของตัวเอง “ผมจะแบกท่านขึ้นไป”
ใครจะไปคิดว่าเขาจะทำแบบนี้ ณัชชนม์ราวกับถูกขนนกพัดไปในใจ มองดูเตชิตด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมทันที
นัชชาอึ้งสักพัก ก่อนโต้ตอบเข้าไปใกล้ด้วยความกังวล “ร่างกายคุณไหวหรอ? ชั้นสี่ไม่ใกล้เลยนะ”
“ไม่มีปัญหา” เตชิตยืนกรานว่าจะแบกเมทนีขึ้นไป ที่จริงเขาไม่ต้องทำด้วยตัวเองเลย คนขับรถก็สามารถช่วยได้ แต่เขาไม่วางใจ
เมทนีรู้สึกกระอักกระอ่วน ความสัมพันธ์กับเตชิตนั้นพูดไม่ได้ว่าสนิทกันมาโดยตลอด แต่ก่อนครั้งหนึ่งก็เคยเข้าใจผิดกันมาก่อน แต่ตอนนี้......
มองแผ่นหลังยาวดูน่ายินดี เขาก็ลังเลสักพักก่อนเข้าไปใกล้แล้วขึ้นไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...