สิบนาทีต่อมาพอทุกคนรวมถึงเชียนหยวนล๋ายเย่กลับไปแล้ว ที่ประตูตึกหิรัญชากรุ๊ปเหลือเพียงแสงดาวและคณาธิปเท่านั้นที่ยืนอยู่
"นาย...อยากพักสักหน่อยไหม? ไปญี่ปุ่นไหม?"
"ไม่ไป"
ชายที่กำลังจะขึ้นรถปฏิเสธอย่างเย็นชา
แสงดาว "..."
ทำได้เพียงมองดูเขาจากไปอย่างไม่สามารถทำอะไรได้เลย
สองนาทีต่อมา เมื่อเธอก็ขึ้นรถของตัวเองเสร็จ เธอก็โทรติดต่อกับน้องชายอีกคนที่อยู่ห่างไกลในญี่ปุ่น
[แสงดาว : ฉันมาแล้ว หลังจากที่หมอนุชนาถมาอาการของเขาก็ดีขึ้น ฉันแนะนำให้เขาพัก แต่เขาปฏิเสธ]
[แสนรัก : ...]
จริงๆแล้วสถานการณ์แบบนี้เขาคาดเดาเอาไว้แล้ว
เพราะก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะส่งข้อความถึงแสนรัก เขาได้รับผลรายงานการวินิจฉัยที่สมบูรณ์จากหมอนุชนาถแล้ว
"ถ้างั้นก็เกิดจากอดีตที่เลวร้ายในวัยเด็กที่ทำร้ายเขาอย่างหนัก เขาถึงกลายเป็นแบบนี้ใช่ไหม?"
ในตอนเย็นเส้นหมี่ได้เอาผ้าก๊อซที่ปิดตาออกแล้ว ในเวลานี้เธอสามารถมองเห็นเงาคนมัวๆแล้ว ดังนั้นหลังจากที่เธอได้ยินเสียงก็มองไปที่เงาคนนี้
เขาทำอะไรอยู่?
ทำอะไรให้เธอกินเหรอ?
เธอเห็นว่าเขาดูเหมือนกำลังก้มหน้าอยู่ตรงนั้นราวกับกำลังทำอะไรอยู่ ดังนั้นจึงรออย่างเงียบๆ
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นาน เงาคนที่พร่ามัวก็เดินเข้ามาโดยไม่พูดอะไร เห็นเพียงแขนของเขาขยับอย่างกะทันหัน มีของที่เย็นๆและหวานปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเธอ
"นี่คืออะไร กีวี่แช่เย็นเหรอ?"
ดวงตาสวยที่หายแดงเป็นประกายทันที
แสนรักพยักหน้า
"เธออยากกินไม่ใช่เหรอ? ก่อนหน้านี้เธอกินไม่ได้เพราะต้องทำการรักษา เธอยังงอแงอยู่เลย" ชายหนุ่มหยิบช้อนแล้วป้อนเข้าปากอีกคำของหญิงสาวแล้วแซวอย่างไม่เกรงใจ
เส้นหมี่ยิ้มอย่างเขินอายในขณะที่ได้กินผลไม้ที่ทั้งสดและหวาน
จริงๆแล้วเธอไม่รู้ว่าสองวันก่อนเกิดอะไรขึ้น เธออยากกินของเย็นๆหวานๆอย่างบ้าคลั่ง นอกจากสิ่งนี้กินอะไรก็ไม่อร่อย เธอจึงงอแงกับชายหนุ่ม
ดังนั้นตอนนี้พอมาคิดดูแล้วก็น่าอายจริงๆ
หลังจากกินกีวี่แล้ว ทั้งสองก็กลับมาคุยเรื่องคณาธิป
"หมอนุชนาถบอกมาอย่างนี้ เธอบอกว่าตอนที่แม่ของเธอมารับเขาที่สถานีรถไฟ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล มีทั้งรอยถลอก โดนก้นบุหรี่จี้ มีดบาด...และยังมีที่ร้ายแรงที่สุดคือชิ้นเนื้อที่แขนถูกกัดหลุด"
"..."
ประโยคนี้ทำให้เส้นหมี่ที่นั่งลงบนเตียงผู้ป่วยกลืนผลกีวีที่ยังไม่ได้กลืนในปากไม่ลง
บุหรี่จี้? มีดกรีด?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก