ยัยหมอวายร้ายที่รัก นิยาย บท 175

อาหารมื้อนึง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ

ถึงแม้ว่าอาหารจะไม่ได้หรูหราเหมือนกับที่โรงแรม แต่เนื่องจากเส้นหมี่เป็นคนทำเอง เด็กสองสามคนนั้นยอดเยี่ยมกันเป็นอย่างมาก กินแล้วก็ยังเอาอีก จนกระทั่งอิ่มจนท้องกลม

“พี่ชินจัง เกี๊ยวที่หม่ามี๊ทำอร่อยไหมคะ? นี่ทำจากเนื้อกุ้งเลยนะคะ”

“อืม!”

ชินจังกำลังถือส้อมคันเล็กกินอันสุดท้ายแล้ว ได้ยินคำพูดนี้แล้วจึงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล

หนูรินจังดีใจมาก

เธอเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหม่ามี๊ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ล้วนแต่สรรเสริญเยินยอหม่ามี๊เป็นอย่างมาก

แต่ตอนที่เธอหันไปมองแด๊ดดี้ และอยากจะเอ่ยถามด้วยนั้น จู่ๆก็รู้สึกตกใจกับอาการของเขาที่กำลังก้มหน้าลงมองสิ่งที่อยู่ในจานตรงหน้า ใบหน้าเล็กๆรูปไข่นั้นซีดเผือด ไม่กล้าส่งเสียงออกมาอีก

แด๊ดดี้กำลังมองอะไรกันแน่?

ทำไมจู่ๆสีหน้าท่าทางถึงได้น่าตกใจแบบนี้? เหมือนกับพบเจอกับเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างไรอย่างนั้น ความมืดมนในดวงตาพรั่งพรูออกมาอย่างรุนแรง!

เขาเป็นอะไร? หรือเป็นเพราะว่าหม่ามี๊ทำไม่อร่อยใช่ไหม?

หนูน้อยรู้สึกน้อยใจมาก

เส้นหมี่ไม่ได้สังเกตเห็นตอนนี้ เธอกำลังเก็บถ้วยชามตะเกียบอยู่ หลังจากที่ลูกๆสองสามคนกินเสร็จแล้ว เธอต้องเก็บสิ่งที่เรี่ยราดอยู่บนโต๊ะด้วย

ดังนั้น เธอจึงไม่ได้มีกะจิตกะใจที่จะไปคอยระวัง

ถ้าหากสังเกตได้แล้วนั้น เธอก็คงจะไม่สามารถยุ่งวุ่นวายได้อย่างสงบแบบนั้น

นี่เป็นความเคยชินของเธอที่มีมานานแล้ว เนื่องจากคนๆนี้ไม่ชอบปลอกเปลือกส้มเอง และยิ่งไม่ชอบนิ้วของเขาเปื้อนกับน้ำส้มหวานๆนี่ด้วย

ตอนนั้น ทุกครั้งที่แอบไปหาเขา ก็จะปลอกเปลือกส้มแล้วเอาไม้จิ้มฟันอันเล็กเสียบเอาไว้ อาศัยช่วงที่คนตระกูลหิรัญชาไม่อยู่ แอบยัดเข้าไปตรงช่องประตูของเขาจากทางด้านนอก

เรื่องนี้ เธอทำมานานขนาดไหนแล้ว?

เส้นหมี่ก็จำไม่ได้เช่นกัน จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่ส่งไปนั้น เพิ่งจะอยู่ชั้นประถมปีที่1 หลังจากนั้นรอจนเขาถูกส่งไปต่างประเทศ เธอก็เรียนจบชั้นประถมแล้ว

เส้นหมี่ขัดถ้วยชามอยู่ในห้องครัว ในหัวนั้นกำลังคิดว่าเดี๋ยวจะพูดอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี ปัญหาที่เธอรับปากให้ลูกชายคนโตอยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ?

“ชินชิน มาช่วยหม่ามี๊ล้างองุ่นแล้วยกไปทีสิลูก”

“ครับ”

ชินจังที่กำลังเล่นกับน้องชายอยู่นั้นรีบลุกขึ้นมาทันที แล้วมาช่วยหม่ามี๊ยกองุ่นออกมาจากห้องครัว

“ชินชิน หนูฟังหม่ามี๊นะลูก ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะตัดสินใจให้หนูนอนที่นี่แล้ว แต่พวกเราจะต้องบอกกับแด๊ดดี้ด้วย แบบนี้นะ หนูยกองุ่นไปให้แด๊ดดี้ แล้วก็บอกแด๊ดดี้ด้วยเลย? ดีไหมครับ?”

เส้นหมี่รู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะให้ลูกชายเป็นฝ่ายนำหน้าไป

ชินจังไม่เปิดโปงหม่ามี๊อย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันก็ไปจัดการเรื่องนี้ด้วยความเต็มใจเช่นกัน

แต่ตอนที่เขายกองุ่นออกมานั้น กลับพบว่าในห้องรับแขกไม่เห็นแด๊ดดี้แล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนด้วยเช่นกัน เห็นเพียงประตูห้องของหม่ามี๊เปิดอยู่

แด๊ดดี้ไปที่ห้องของหม่ามี๊อย่างนั้นเหรอ?

ชินจังถือองุ่นเข้ามา

แล้วก็จริงๆ ตอนที่เขามาอยู่ตรงประตูห้องแล้วนั้น เขาเห็นแด๊ดดี้อยู่ด้านใน

แต่ที่ทำให้เขารู้สึกเข้าใจได้ยากก็คือ แด๊ดดี้กำลังพลิกเปิดหนังสือเหล่านั้นที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือของหม่ามี๊ แล้วก็ไม่รู้ว่ากำลังหาอะไรอยู่ ปกติแล้วหม่ามี๊เก็บบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หนังสือสองสามเล่มที่ทิ้งเอาไว้ถูกเขาพลิกเปิดดูอีกด้วย

แด๊ดดี้กำลังทำอะไรอยู่?

ชินจังเดินเข้ามา : “แด๊ดดี้ กำลังทำอะไรอยู่ครับ?”

แสนรักที่กำลังพลิกหนังสือเหล่านี้อย่างดูเหมือนกับกำลังหลงเสน่ห์นั้น นิ้วมือก็แข็งทื่อไปในที่สุด และหยุดอยู่ตรงนั้น

เขากำลังทำอะไร?

ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะความคิดนั้นเมื่อครู่นี้น่ากลัวเกินไป หลังจากนั้นเขาก็แทบอยากจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าไม่ใช่?

แต่ ไม่ใช่จริงๆอย่างนั้นหรือ?

เขามองหนังสือทางการแพทย์เล่มนี้ในมืออย่างใจลอย เป็นเวลานานที่สายตาไม่ได้ละออกไปจากลายมือที่เขียนอธิบายอยู่ทางด้านบน

“แด๊ดดี้ ผมจะนอนที่นี่นะ”

“……อะไรนะ?”

“ผมไม่ได้ไปจากแด๊ดดี้ แต่ ผมชอบที่หม่ามี๊กับพวกน้องๆอยู่ข้างๆ ผม.....ชอบบรรยากาศคืนนี้”

ชินจังพยายามที่จะแสดงความหมายของตัวเอง

เขาไม่ได้คิดที่จะไปจากแด๊ดดี้จริงๆ แต่ เขาชอบบรรยากาศแบบนี้ ที่นี่มีหม่ามี๊ น้องชายและน้องสาว เห็นบรรยากาศในคืนนี้ดีกว่าตึกวังฬาหนึ่งที่เยือกเย็นเป็นอย่างมาก

ชินจังเงยหน้าขึ้นมามองแด๊ดดี้อย่างเต็มไปด้วยความหวัง

รู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย เมื่อก่อนเขาขอเรื่องนี้ ไม่แน่ว่าแด๊ดดี้หน้าบูดเป็นแบบไหน ครั้งนี้ หลังจากที่เขามองมาอย่างว้าวุ่นแวบหนึ่งแล้ว กลับไม่ได้คัดค้าน

“รู้แล้วล่ะ ถึงตอนนั้นแล้วแด๊ดดี้มารับเราแล้วกัน”

“ครับ......”

เรื่องราวราบรื่นจนทำให้รู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง

ชินจังวิ่งถือจานองุ่นออกมาอีกครั้งด้วยความดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง เขาอยากจะรีบบอกข่าวดีนี้กับหม่ามี๊

และเป็นอย่างที่คิด เส้นหมี่ที่รอข่าวลูกชายในครัว หลังจากที่ได้ยินแล้ว ก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อยู่บ้างเช่นกัน : “เขารับปากแล้วจริงๆเหรอลูก?”

“อืม”

เด็กที่อยู่ใต้แสงไฟสว่างในห้องครัว ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายเสียจนแทบจะส่องแสงสว่างออกมาได้อยู่แล้ว

เส้นหมี่ถึงได้เชื่อ จากนั้นหลังจากที่เธอให้ลูกออกไปเล่นแล้ว ก็เก็บห้องครัวอยู่พักหนึ่ง ตัวเองก็ออกมาด้วยเช่นกัน

“คุณ....เป็นอะไร? ทำไมสีหน้าดูแย่แบบนี้ล่ะ?”

เพิ่งจะมาถึงห้องรับแขก เธอก็เจอกับแสนรักที่เดินออกมาจากห้องนอนของเธอ ผู้ชายคนนี้เวลาในช่วงสั้นๆเพียงสิบนาที ก็ดูเหมือนกับเปลี่ยนไปคนละคนแล้ว สีหน้าซีดเผือดเสียจนน่าตกใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก