“พรุ่งนี้ให้ดลธีพาคุณไป”
“อ๋า?”
“แล้วก็ กลับมาก่อนสามโมง”
เขาไม่ให้ช่องว่างในการเจรจาใดๆ หลังจากพูดเงื่อนไขทั้งสองนี้ออกมาแล้ว ความสนใจก็ไปอยู่ที่คอมพิวเตอร์ตรงหน้า
ไม่รู้ว่าใช่ภาพลวงตาของเส้นหมี่หรือไม่?
เธอดันรู้สึกถึงความเยือกเย็นที่เข้ามาในตัวเขา ดวงตาที่เมื่อกี๊ยังนิ่งสงบ ตอนนี้ดูหม่นหมองจนน่าตกใจ มองดูแล้วน่ากลัวมาก
“……โอเค งั้นฉันลงไปก่อนนะ”
เส้นหมี่รีบเทชาให้เสร็จ จากนั้นก็ยืนขึ้นมาแล้วออกไปเหมือนกับกำลังหนี
บริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า?
แต่ว่ายังดี เขารับปากเธอแล้ว แค่รับปาก งั้นเขามีเรื่องอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
พอเส้นหมี่กลับมาถึงห้องของตัวเองแล้ว ก็เอาข่าวดีนี้บอกมาร์ติน:“มาร์ติน เขาตกลงแล้ว พรุ่งนี้ฉันออกไปได้ แต่ว่า มีคนตามฉันไปด้วยนะ แล้วก็ ต้องกลับมาสามโมง”
มาร์ตินกระทืบเท้าด้วยความโมโหทันที:“ก่อนสามโมง?ก่อนสามโมงงานแต่งของตระกูลสิริศรเพิ่งจะเริ่มเอง แล้วเธอจะไปทำบ้าอะไร?”
ผู้ชายคนนี้ ปากเสียอีกแล้ว!
เส้นหมี่ทำอะไรไม่ได้:“ฉันมีทางอื่นด้วยหรือ?ตอนนี้ฉันทำให้เขายอมให้ฉันออกไปได้ก็ดีแล้วค่ะ คุณยังอยากให้เขาตามใจฉันอีกมากแค่ไหน?”
มาร์ติน:“……”
ช่างเถอะ ถึงตอนนั้นค่อยคิดหาทางละกัน
บางทีก่อนงานแต่ง สุขาวดีอาจจะถึงแล้วก็ได้ ยังไงเธอก็สนิทกับตระกูลสิริศร
สุดท้ายทั้งสองก็ตกลงตามนี้
แต่ ที่ทำให้เส้นหมี่คิดไม่ถึงก็คือ เช้าวันถัดมาที่เธอตื่น ยังไม่ออกเดินทาง จู่ๆ มาร์ตินกลับโทรศัพท์มา บอกเรื่องหนึ่งกับเธอที่ทำให้ช็อกมากๆ
“ยัยโง่ เธอเห็นหรือยัง?ตอนนี้ในเน็ตมีคนกำลังพูดว่าแสนรักเป็นโรคประสาทน่ะ”
“คุณพูดอะไรน่ะ?”สีหน้าเส้นหมี่เปลี่ยนไปทันที หวีที่กำลังถืออยู่ในมือ ก็เกือบจะหล่นลงไปที่พื้น
โรคประสาท?
เป็นแบบนี้ได้ไง?เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เธอตกใจมาก ปล่อยหวีตกลงไปโดยตรง จะไปเปิด ipad ที่ตู้หัวเตียง
มาร์ตินยังคงพูดร่ำไรในโทรศัพท์:“แสนรักไง เธอไม่ได้เข้าเน็ตใช่ไหม?เพราะการปรากฏตัวของหนังสือเล่มหนึ่ง จู่ๆ ก็มีคนบอกว่า คนๆนี้มีภาพลักษณ์เหมือนแสนรักมาก ดังนั้นตอนนี้คนในเน็ตเลยถกเถียงกันอยู่”
สีหน้าเส้นหมี่ซีดอีกครั้ง
เธอไม่ได้ฟังเขาพูดอีกต่อไป เธอเปิดแท็บเล็ตแล้ว คลิกเปิดไปที่หน้าเว็บโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก