ในที่สุดเส้นหมี่ก็พูดความอัดอั้นในใจช่วงนี้ออกมาจนหมด
อาจเป็นเพราะน้องชายคนนี้คือครอบครัวของเธอ และเป็นคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เธอสามารถระบายด้วยได้ในตอนนี้
ปอร์เช่ไม่พูดอะไรอีก ดวงตาหลังเลนส์แว่นของเขามืดลึกลงยิ่งกว่าเดิม ราวกับถูกปกคลุมด้วยชั้นของน้ำค้างแข็งสีขาว ไม่มีประกายในตาแม้แต่น้อย
ไม่ เขาไม่เข้าใจ
ไม่อยากเข้าใจมากกว่า
เพราะว่า พอเข้าใจแล้ว เขารู้สึกได้เพียงร่องน้ำที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีความหวังที่จะหลุดพ้นได้
ท้ายที่สุดปอร์เช่ก็กลับห้อง หลังจากนั้นเขาก็ไม่ออกมาเลยจนเช้าวันรุ่งขึ้น
เส้นหมี่ไม่ได้ใส่ใจ เธอคิดว่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้อาจจะแค่เหนื่อยในสองวันมานี้
คณาธิปเห็นเด็กชายคนนี้ไม่อยู่ เขาก็ดีอกดีใจขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินว่าเช้าตรู่วันนี้ปอร์เช่ยังไม่ตื่น เขาจึงวางแผนชวนเส้นหมี่ไปทานข้าวเช้าข้างนอก
“ปอร์เช่คงยังไม่ตื่น งั้นหลังกินเสร็จเราค่อยสั่งกลับมาให้เขาดีไหม”
“อย่างงั้น...”
เส้นหมี่ครุ่นคิด สุดท้ายเธอก็เห็นด้วยกับเขา
ดังนั้นนี่เป็นเดทแรกที่ทั้งสองคนได้ด้วยอยู่กันตามลำพังหลังจากมาถึงที่นี่
แน่นอน คำว่า “ออกเดท” เป็นเพียงแค่ความคิดของผู้ชายคนนี้เท่านั้น
“ตอนนี้คุณเริ่มทำสงครามที่นี่แล้ว แผนต่อไปของคุณคืออะไร? ถึงเมื่อวานปอร์เช่จะหามือปืนมาขู่จนอีริคหนีไป แต่ผมคิดว่าเขาไม่ปล่อยคุณไปแน่”
“อืม ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” เส้นหมี่กำลังก้มหน้ากินข้าวอยู่ เมื่อได้ยินดังนั้น เธอก็ขมวดคิ้วทันที
จริงๆเธอก็คิดเรื่องนี้อยู่ แต่จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังคิดวิธีที่ดีในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้
อีริคเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่
“เรากลับไปที่เมืองเคลียร์ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ อย่างไรก็ตาม หลังจากคุณเจรจาร่วมมือกับเอฟพี ได้ด้วยตัวเองแล้ว ผมเชื่อว่าชื่อเสียงของคุณจะกว้างขวาง แล้วต่อไปก็จะมีคนเข้ามาหาคุณเอง”
เมื่อคณาธิปเห็นว่าเธอเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเขา เขาก็ดีใจมาก จึงเสนอความเห็นของตัวเองขึ้นมาอย่างระมัดระวังในทันที
แน่นอนว่าเขาคาดหวังให้เธอกลับไปกับเขา
ที่นี่ไม่ปลอดภัย
และที่สำคัญกว่านั้น เขาอยากอยู่เคียงข้างเธอในทุกๆวัน
แต่มันก็ทำให้เขาผิดหวัง เมื่อหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามไม่เห็นด้วย
“ไม่ กลับไปที่ไหนจะสะดวกเท่าที่นี่ เรื่องอีริค เดี๋ยวฉันลองคิดดูอีกทีล่ะกัน”
เส้นหมี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากพูดจบ หลังจากนั้นก็ทานข้าวต่อ
คณาธิปเห็นเช่นนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังกินข้าวอยู่ จู่ๆโทรศัพท์บนโต๊ะของเส้นหมี่ก็ดังขึ้น เธอเห็นดังนั้นจึงหยิบขึ้นมา “สวัสดีค่ะ ใครคะ”
“คุณสวยใส วันนี้คุณมีธุระเหรอ ทำไมคุณไม่มาทำงาน นี่ก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว “
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก