แต่หลังจากที่ทั้งสามคนขึ้นเครื่องบินแล้ว เขาก็เห็นว่าตั๋วของเส้นหมี่อยู่ในแถวเดียวกับของคณาธิป เขาจึงหยิบตั๋วในมือของคณาธิปมาโดยไม่ได้รับอนุญาต
"คุณไปนั่งตรงนั้นเถอะครับ"
"ทำไม" คณาธิปถูกเพิกเฉยมามากพอแล้ว ในที่สุดอารมณ์ก็ระเบิด
แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับทำเพียงดึงผู้หญิงข้างหลังเข้าไปนั่ง แล้วหย่อนก้นนั่งลงข้างเธอ
"เพราะผมอยากให้คุณอยู่ห่างจากเธอหน่อย"
"นาย--"
"เอาล่ะ โอเค หยุดเถียงได้แล้ว ธิปงั้นคุณไปนั่งที่นั่งของเช่ มันไม่ได้ไกลเลย"
เส้นหมี่ที่ไม่ทันระวังจนถูกดึงตัวเข้าไปนั่งห้ามทั้งสองอย่างรวดเร็ว และขอให้พวกเขาดูสถานที่หน่อย
จริงๆเลย เธอปวดหัวไปหมดแล้ว
โชคดีที่คณาธิปนิสัยค่อนข้างดี ในที่สุดเขาก็กลั้นไว้ และหยิบตั๋วที่เปลี่ยนแล้วเดินไปนั่งที่นั่งเดิมที่เป็นของปอร์เช่
เมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็จากไป เส้นหมี่ก็เริ่มสอนน้องชาย
แต่ก่อนที่เธอจะอ้าปาก ผู้ชายคนนั้นก็เอนหลังพิงเก้าอี้ ไม่สนใจเธอ แถมยังหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
เส้นหมี่ "..."
มากเกินไปแล้ว
ท่าทางของเขาที่ทำต่อพี่สาวเปลี่ยนเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เส้นหมี่ทำได้เพียงยอมแพ้ เก็บของตรงหน้า และหยิบโน๊ตบุ๊คที่พกไว้ออกมา เพื่อจะใช้เวลานี้แก้ไขสัญญาในโครงการนั้นสักหน่อย
ในขณะที่ยุ่งอยู่ ปอร์เช่ที่นั่งข้างๆก็เอียงหัวมาพิงไหล่ของเธอ
เส้นหมี่มองไปด้านข้างทันที
ถึงได้รู้ว่าน้องชายกำลังหลับอยู่ แต่ร่างกายของเขากลับดูเย็นมาก และหลังจากนั้นไม่นาน หน้าผากซ้ายที่กำลังพิงบนไหล่ของเธอก็รู้สึกถึงความเปียกชุ่ม
เกิดอะไรขึ้น ป่วยหรอ
เส้นหมี่เป็นหมอ เมื่อเธอรู้สึกถึงความเย็นที่ผิดปกตินี้ เธอก็รู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเขา
แต่เมื่อเธอกำลังจะเอื้อมมือออกไปแตะหน้าผากของเขา
ทันใดนั้นชายที่กำลังปิดตาหลับอยู่หลังกรอบแว่นก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว!
"พี่จะทำอะไร"
ชั่วขณะหนึ่งน้ำเสียงนั้นต่ำและเยือกเย็นมาก ดวงตาที่แหลมคมเหมือนเหยี่ยวทำให้เส้นหมี่ตัวสั่น
“ไม่...ไม่ได้ทำอะไร ฉันจะแตะหน้าผากของนาย นายไม่สบายหรือเปล่า"
หัวใจของเส้นหมี่เหมือนจะหยุดเต้น
เธอตอบชายคนนั้นอย่างตะกุกตะกัก และทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าเธอกำลังตัวสั่นและหวาดกลัว
เฮ้ย นี่คงเป็นภาพหลอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก