“เรื่องอะไร?”
“คือว่าเมื่อตอนตีสี่ช่วงเช้า เมื่อเรื่องเกิดขึ้นที่ตู้ขบวนในรถขบวนนี้ ตอนนั้นมีคนบอกว่าจู่ ๆ ได้ยินเสียงมาก จากนั้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รถไฟ บอกว่ามีคนลักลอบนำประทัดขึ้นมาด้วย จากนั้นคนในตู้ขบวนก็ต่างแยกย้าย และยังมีคนถูกจับตัวไปด้วยไม่กี่คน”
ในโทรศัพท์ จู่ ๆ หัวหน้าทีมที่เธอว่าจ้างมานั้น ก็บอกเรื่องนี้กับเธอ
ประทัด?
รถไฟอยู่ในสังกัดกรมการรถไฟ ตอนที่ผู้โดยสารขึ้นรถ แต่ก็จะมีการตรวจสอบเข้มงวด ทำไมยังมีคนแอบนำสิ่งของต้องห้ามเหล่านี้ขึ้นไปบนรถได้ล่ะ?
เส้นหมี่ไม่ค่อยเชื่อนัก
“มันไม่น่าจะใช่เรื่องจริงไหม?”
“คุณเส้นหมี่ฉลาดมาก หลังจากที่คนของพวกเราไปตรวจสอบ พบว่า ตู้ขบวนรถนั้นไม่มีแม้แต่ร่องรอยของประทัดเลย แต่เป็นกระสุน พวกเราพบปลอกกระสุน ยังมีคราบเลือดที่ยังไม่ทำความสะอาดอยู่บนพื้น!”
“……”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สมองของเส้นหมี่ก็รู้สึกว่างเปล่าในทันที เธอพบว่า ตัวเองไม่สามารถแม้แต่จะจับโทรศัพท์ให้แน่นได้แล้ว
กระสุน?
ยังมีคราบเลือด?!!
อยู่ดีๆ ทำไมถึงได้มีสิ่งของแบบนี้ล่ะ? หรือว่า เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับภารานินแล้วเหรอ? ถูกคนของตระกูลเทวเทพฆ่าบนรถไฟขบวนนั้นเหรอ?
เส้นหมี่สั่นระริกไปทั้งตัว
“พวกคุณรีบตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลองดูว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ฉันต้องการให้ช่วยเหลือหรือเปล่า?”
เธอออกคำสั่งคนกลุ่มนี้อย่างตื่นตระหนก เพื่อให้พวกเขาจะต้องคิดหาวิธีไปสืบหาข้อมูลเรื่องนี้ให้ชัดเจน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอมีชีวิตอยู่ก็ต้องเจอตัว ตาย....ก็ต้องเจอศพด้วย!
คนคนนั้นรับปากแล้ว ก็วางสายโทรศัพท์ไป
เส้นหมี่ก็ค่อยๆวางโทรศัพท์ลง ความเย็นยะเยือกไปทั่วร่างกาย ทำให้ฝ่ามือของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเปียกชุ่ม
แต่ในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ด้านนอก กลับมีคนมาหาเธอ
“ผู้อำนวยการเส้นหมี่ ทางแผนกกฎหมายทางนั้นจู่ ๆ ส่งข้อความมา บอกว่าคดีในศาลทางนั้นคืบหน้าไปไม่ค่อยราบรื่นนัก ท่านประธานก็ไม่อยู่ พวกเขาหวังว่าคุณจะเดินทางไป เพื่อหารือเกี่ยวกับคดีนี้สักหน่อย”
“คุณว่าอะไรนะ?”
เส้นหมี่ที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์ ก็รีบหันขวับมาทันที
และในเวลานี้ ใบหน้าเธอที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ ที่แม้แต่สีเลือดก็ยังไม่ทันจะคืนสภาพกลับมา
“บอกว่าหลักฐานที่เคยส่งมอบให้กับศาลไปเมื่อก่อนหน้านี้ เกิดข้อแตกต่างกับหลักฐานที่ทางฝ่ายจำเลยนำมา อีกอย่าง....... หลังจากยืนยันหลักฐานชุดนั้นของฝ่ายจำเลย ก็เป็นหลักฐานตัวแม่”
คนที่เข้ามาหาเธอ เป็นเพียงแค่ผู้จัดการของแผนกนี้
เดิมทีคือเขามาเพื่อถ่ายทอดข้อความที่แผนกกฎหมายส่งมา แต่ทันใดนั้นหลังจากที่เขาเห็นสีหน้าของผู้อำนวยการท่านนี้แย่มากขนาดนั้น เขาก็ตกใจจนพูดติดขัดๆ อยู่หลายครั้ง
“ผู้อำนวยการ คุณ.....เป็นอะไรไหมครับ?”
“……”
เส้นหมี่เริ่มจะหน้ามืด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก