ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 259

สรุปบท ตอนที่ 259 อาจารย์ที่มาชำระล้างสำนัก: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

สรุปตอน ตอนที่ 259 อาจารย์ที่มาชำระล้างสำนัก – จากเรื่อง ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

ตอน ตอนที่ 259 อาจารย์ที่มาชำระล้างสำนัก ของนิยายActionเรื่องดัง ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 259 อาจารย์ที่มาชำระล้างสำนัก

บนถนนยางมะตอยในชนบท หนุ่มน้อยสะพายกระเป๋าหนังสือกำลังขี่จักรยานกลับบ้าน หนุ่มน้อยใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน ด้านล่างเป็นกางเกงยีนส์ ตัดผมทรงนักเรียน ไม่มีเครื่องประดับเยอะแยะ การแต่งตัวสไตล์ร็อกแบบญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในยุคนี้ ทว่าเขากลับแต่งตัวเรียบง่ายอย่างเห็นได้ชัด

แต่หนุ่มน้อยกลับหน้าตาดีและสวยมาก มีความคล้ายบอยแบนด์เกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน แต่ซูเปอร์สตาร์เกาหลีใต้พวกนั้นต้องแต่งหน้าเวลาที่อยู่หน้ากล้อง เพื่อโชว์ความอ่อนโยนของตัวเองให้เด่นขึ้น แต่หนุ่มน้อยคนนี้ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะมันเป็นธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว

มีจักรยานสองสามคันขี่ตามมาอยู่ด้านข้าง คนที่เป็นตัวนำไว้ผมยาวกับผมหน้าม้าที่โอเวอร์มาก “เสี่ยวสวี่ ข้างหลังของนายดูดีจริงๆ ดูดีกว่าผู้หญิงในห้องของพวกเราอีก ฮ่าๆๆๆๆ!”

“ใช่ แม่งเอ๊ย ตอนแรกฉันก็ขี่จักรยานอยู่ดีๆ แต่พอเห็นหลังของนาย ทำให้ข้างล่างของฉันแข็งขึ้นมาเลย ตอนนี้ไม่รู้จะขี่จักรยานยังไงแล้ว”

“ใช่ๆๆ ต้องให้เสี่ยวสวี่รับผิดชอบ ให้เขาช่วยดับไฟให้นาย”

“ว่ากันว่าผู้หญิงปิดไฟแล้วก็เหมือนกันหมด เสี่ยวสวี่ไม่ต้องปิดไฟก็รู้สึกว่าไม่ต่างจากผู้หญิงตรงไหน”

เสี่ยวสวี่ที่ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงขี่จักรยานของตัวเองต่อไป ไม่สนใจคำพูดของคนที่อยู่โดยรอบ เขาคุ้นชินแล้วตั้งแต่อนุบาลจนถึงตอนนี้ เขาเคยชินแล้วและเรียนรู้ที่จะมองข้าม ไม่ยอมให้แมลงวันแมลงหวี่มารบกวนจิตใจของตัวเองแต่ตอนนี้ มีคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ จงใจเลี้ยวรถเข้ามาขวางรถของเสี่ยวสวี่ไว้

“จะทำอะไร” เสี่ยวสวี่ถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ทำอะไร นายชนฉัน ยังจะถามว่าฉันทำอะไร” ขณะที่พูด เด็กนักเรียนชายคนนั้นลงมาจากรถ จับไหล่ของเสี่ยวสวี่โดยตรง

“แม่งเอ๊ย เนื้อตัวมีกลิ่นหอมเสียด้วย คงจะฉีดน้ำหอมแน่นอน นายคิดว่าเป็นผู้ชายอยู่ดีๆ แต่กลับแต่งหน้าตัวเองให้กลายเป็นผู้หญิง มันสนุกไหม ในเมื่อนายอยากเป็นผู้หญิง อย่างนั้นฉันก็จะให้นายได้สัมผัสความรู้สึกของการเป็นผู้หญิง!” การยั่วยุท้าทาย จริงๆ แล้วคือการหาข้ออ้างเท่านั้น สำหรับวัยรุ่นในช่วงวัยนี้ พวกเขาไม่รู้สึกอะไรกับการทำเรื่องพิเรนทร์ ไม่ หากจะพูดให้ถูกต้อง พวกเขายังไม่เข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับค่าตอบแทนที่ต้องได้รับจากเรื่องที่ทำต่างหาก

และด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงทำตัวกำเริบเสิบสานโดยไม่กังวล และในสายตาของพวกเขา กระทั่งในสายตาของผู้คนส่วนใหญ่ การรังแกผู้หญิงคนหนึ่ง หากถูกแพร่ออกไปจะทำให้เสียชื่อ แต่รังแกผู้ชายคนหนึ่งกลับไม่ใช่เรื่องใหญ่

“ปล่อยผม ไสหัวไป!”

“โอ้ว สู้ด้วยแฮะ!”

โชคดีที่ช่วงวัยนี้ไม่มีความรักแบบชายรักชายอย่างแพร่หลาย เด็กผู้ชายพวกนี้แค่เล่นสนุกกันเท่านั้น ถือว่าหาความสนุกใส่ตัว จากนั้นก็ขี่จักรยานกลับบ้านใครบ้านมัน

เสี่ยวสวี่ลุกขึ้น จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นประคองรถจักรยานของตัวเองขึ้นมา เขาสงบนิ่งมาก ถูกรังแกก็ไม่โวยวายจะเป็นจะตาย นี่คือชีวิต ชีวิตของคนธรรมดาทั่วไป

“หน้าตาเหมือนผู้หญิงไม่ใช่ความผิดของนาย” เสียงคนแก่ดังมาจากด้านหลัง

หนุ่มน้อยตกตะลึงเหลือบตามองหนึ่งที เหมือนจะเป็นชาวไร่ ใส่รองเท้าปลดแอก สวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เห็นรอยปะบนนั้นชัดเจน

หนุ่มน้อยไม่สนใจชายชรา ขึ้นรถเตรียมกลับบ้าน

“นายไม่อยากมีความสามารถปกป้องตัวเองเหรอ” ชายชราถามต่อ

“คุณจะสอนวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรให้ผมเหรอ” หนุ่มน้อยย้อนถามหนึ่งประโยค “พ่อแม่ของผมอยู่บ้านกำลังรอผมกลับไปกินข้าว ไม่มีเวลามาสนใจคุณ”

ปีนั้นเป็นช่วงที่ภาพยนตร์ ‘คนเล็กหมัดเทวดา’ ที่โจวซิงฉือแสดงกำลังโด่งดังเลยทีเดียว และฉากนั้นกับมุกตลกนั่นก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

ชายชรายืนอยู่ที่เดิม มองเงาหลังของหนุ่มน้อยขี่จักรยานไกลออกไปอย่างช้าๆ แล้วพึมพำว่า “อ้อ ถ้าพ่อแม่ตายก็มีเวลาสนใจฉันแล้วใช่ไหม”

วันรุ่งขึ้น หนุ่มน้อยที่กำลังเข้าเรียนถูกคุณอาเรียกออกมา บอกว่าพ่อแม่จมน้ำตายอยู่ในบ่อปลา พ่อแม่ของหนุ่มน้อยถือว่าเป็นคนที่มีมันสมองในยุคนั้น โดยเฉพาะในพื้นที่แถบชนบทแบบนี้ กล้าที่จะกู้เงินซื้อที่ดินทำบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปกล้าทำ

ได้ยินว่าตอนที่พ่อแม่กำลังดูแลจัดการบ่อปลา แม่ตกลงไปในน้ำก่อน ตอนที่พ่อลงไปลากแม่ขึ้นมาก็ตกน้ำไปด้วย คนที่ว่ายน้ำแข็งทั้งสองคนจมน้ำตายแบบไม่มีสาเหตุเช่นนี้ จึงเหลือหนุ่มน้อยเพียงคนเดียว

ภายใต้การช่วยเหลือของเพื่อนสนิทและญาติพี่น้องจึงเริ่มจัดงานศพอย่างงุนงงสับสน หนุ่มน้อยเหมือนหุ่นกระบอก ถูกควบคุมให้เขาทำในสิ่งที่สมควรทำเพื่อแสดงความ ‘กตัญญู’

“เอาสิ่งที่ฉันสอนนาย มาต่อสู้กับฉัน ยังไม่ต้องพูดถึงว่านายเรียนไม่จบ ต่อให้ฉันสอนนายเรียนวิชาจนถ่องแท้แล้ว เวลาที่อยู่ต่อหน้าฉัน นายไม่มีค่าอะไรเลย”

สวี่ชิงหล่างพยายามดิ้นรนอยู่ในถังอาบน้ำด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก เขาเพิ่งจะถอนพิษออกเมื่อครู่ ร่างกายจึงอ่อนแอมากอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้อีก

“เพื่อช่วยให้เดินถูกทาง ตอนแรกอาจารย์ทุ่มเทกับนายทั้งหมด แต่นายนอกจากจะไม่อยู่ในเส้นทางของการฝึกตน ยังอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับพวกปีศาจร้ายอีก ถ้าหากตอนแรกไม่ได้สอนนาย อาจารย์ยังสามารถไปสอนคนอื่นได้ แต่นายทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากร ผิดต่อความถูกต้อง! นายทำให้อาจารย์ต้องอับอาย วันนี้อาจารย์จะชำระล้างสำนัก!”

เสียงของเงาดำดังขึ้นช้าๆ ดูเหมือนเขากำลังหาเหตุผลให้ตัวเอง คิดไปพลาง พูดไปพลาง ลงมือทำพร้อมกับหาข้ออ้างไปในตัว สวี่ชิงหล่างที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ผีดิบ บางทีคืนนั้นเขาสั่งให้ผีดิบที่ถูกโจวเจ๋อฆ่าฟื้นขึ้นมากัดสวี่ชิงหล่างอีกครั้ง จุดประสงค์ก็เพื่อจะได้มีข้ออ้างว่าเขากลายเป็นผีดิบ ดังนั้นจึงมีข้ออ้างที่เหมาะสมให้ตัวเองสามารถฆ่าเขาได้ในภายหลัง

แต่ตอนนี้สวี่ชิงหล่างถอนพิษสำเร็จแล้ว เขากลับมาเป็นคนเหมือนเดิม ดังนั้นเงาดำจึงหาข้ออ้างใหม่มาสนับสนุนการฆ่าสวี่ชิงหล่าง เพราะอยากจะฆ่าเขาจริงๆ ฆ่าลูกศิษย์ที่ทำให้เขาผิดหวัง

เลือดสดเริ่มไหลออกมาจากตา หู จมูก และปากของสวี่ชิงหล่าง ภายในถังอาบน้ำถูกย้อมเป็นสีแดงอย่างช้าๆ สภาพน่าอนาถมาก

‘ปัง!’ และในตอนนี้เอง ประตูห้องนอนถูกเปิดออก เดดพูลยืนอยู่หน้าประตู สายตาของเขาสำรวจมองเงาดำ เขาจำคำสั่งของโจวเจ๋อก่อนจะออกไปได้ สิ่งที่ไม่ควรปรากฏ อย่าให้ปรากฏขึ้นมา เขาเดินเข้าไปหาเงาดำ แล้วยื่นมือจับเงาดำเอาไว้ แต่สิ่งที่เขาจับได้คือหนังคนที่บางเหมือนปีกจักจั่น จากนั้นมันก็ถูกฉีกละเอียด แต่วินาทีต่อมา เงาดำใหม่ได้ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเดดพูล มือของเขาเหมือนกระดาษแต่กลับแหลมคมอย่างยิ่ง แทงทะลุหน้าอกของเดดพูลแล้วยกขึ้นมา เดดพูลสองเท้าลอยจากพื้นแต่กลับไม่ตายทันที

“ไม่ต้องรีบ คนต่อไป ก็คือนาย”

‘ฟุบ!’ ร่างกายของเดดพูลพลันถดตัวลงอย่างรวดเร็ว ไหลลงไปตามแขนของเงาดำ โดยไม่สนใจแผลของตัวเองที่ขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด แล้วมาอยู่ตรงหน้าเงาดำอีกครั้ง

เขาอ้าปากแล้วกัดเข้าไป! หนังคนเหมือนแป้งกรอบที่บางมาก ถูกเขากัดเข้าให้ จากนั้นเคี้ยวแล้วกลืน นี่คือวิธีจัดการขยะที่เดดพูลทำมาตลอด แต่ในวินาทีต่อมา มีสองมือทะลุผ่านออกมาจากในท้องของเดดพูล นั่นคือสิ่งที่เพิ่งถูกกลืนลงไปเมื่อครู่ มันพยายามจะคลานออกมาเหมือนเด็กทารกที่เพิ่งเกิด เพื่อต้อนรับวันเกิดของตัวเอง

“โฮก!” เดดพูลส่งเสียงคำราม สองมือกดลงไป อยากจะยัดเจ้าสิ่งนั้นกลับเข้าไปในท้องของตัวเอง ทว่าแรงของเจ้าสิ่งนั้นที่อยู่ด้านในกลับมากขึ้นเรื่อยๆ และระหว่างที่ชักเย่อกันไปมา ปากแผลของเดดพูลก็เริ่มใหญ่ขึ้น เหมือนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ…

………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล