ตอน ตอนที่ 843 ความแค้นยังดำเนินต่อไป จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 843 ความแค้นยังดำเนินต่อไป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 843 ความแค้นยังดำเนินต่อไป
……….
“เกิงเฉินหรือ”
อาเหยาเคี้ยวชื่อนี้ นางรู้ว่ามีผู้แปรพักตร์คนหนึ่ง ‘ตัวอยู่ฝ่ายอธรรมใจอยู่ฝ่ายธรรมะ’ ช่วงระยะก่อนหน้านี้ส่งข่าวคราวให้ยมโลกอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลดังกล่าวถูกส่งกลับไปยังหน่วยบังคับใช้กฎหมายหวนคืนสู่แดนมนุษย์ด้วย
แต่นางไม่รู้จักชื่อของคนผู้นั้น ในด้านหนึ่งอาจเป็นการรักษาความลับ ส่วนอีกด้านหนึ่งอาจจะดูหมิ่นหน่วยบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้
“ได้ เกิงเฉิน ข้าจำชื่อเจ้าไว้แล้ว หลังจากข้าฆ่าเจ้า ข้าจะตั้งป้ายไว้ให้เจ้า”
โจวเจ๋อพยักหน้าและตอบกลับอย่างราบเรียบ “ขอบใจ จริงสิ คำว่าเฉินจากฉือเฉิน อย่าเขียนผิดล่ะ”
เดิมก็เป็นคนบ้ากลุ่มหนึ่งแถมยังโดนขังทรมานมาหลายสิบปีอีก เทียบเท่ากับบ้าบวกบ้าคลั่งจึงกลายเป็นบิดเบี้ยวยิ่งกว่า การบิดเบี้ยวที่ว่าคือวิธีการ โหดร้ายต่อตัวเองและโหดร้ายต่อคนอื่นด้วย แก่นแท้คือท่าที ตราบใดที่บรรลุเป้าหมาย สิ่งอื่นก็ไม่สำคัญ
เมื่ออาเหยากระโจนเข้ามาอีกครั้ง โจวเจ๋อถึงได้สัมผัสถึงอะไรที่เรียกว่าฮิสทีเรียที่แท้จริงๆ
ความรู้สึกนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับตอนที่เขาเปิดโหมดนิสัยเจ้าครึ่งหน้านั่นเลย
อาเหยารวดเร็วและว่องไวมาก รอยแผลเป็นแน่นขนัดทั่วเรือนร่างมีเลือดหยดติ๋งตลอดเวลา แต่ตัวนางเองก็ดูเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ดุร้าย
ความได้เปรียบในแง่ความเร็วของนางเกือบจะถึงขีดสุดแล้ว
แต่ช่วงระยะนี้เถ้าแก่เอาแต่ลูบเจ้าเตียวมาเป็นเวลานานจึงพอจะจับทางการควบคุมความเร็วได้ค่อนข้างมาก
ช่วงที่ควรถอยก็ต้องถอย ช่วงที่ควรบีบก็ควรบีบ เล็บสิบนิ้วพร้อมโจมตีและสกัดกั้น ฝีมือคล่องแคล่วชำนาญอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้ที่ว่าไม่เน้นฆ่าเร็ว รู้สึกเหมือนเถ้าแก่โจวกำลังหยอกล้อกับน้องสาว ดูผ่อนคลายสบายใจมาก
เจ้าโง่ยังนอนหลับอยู่ กำลังย่อยหัวหมูและขาหมูที่กินลงไปเมื่อวาน แต่เมื่อไรที่ต้องการจะปลุกเขาตื่นก็ไม่เป็นปัญหา นอกจากนี้นิสัยของเจ้าครึ่งหน้าก็สลับปรับเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ ตัวเสริมอยู่ครบ ตอนนี้เขาก็อยู่ในสภาพดีเยี่ยมเสียด้วย จิตใจเถ้าแก่โจวจึงไม่ตระหนกอีกต่อไป ก่อนหน้านี้ที่บอกเหล่าจางว่าให้ทนายอันได้มีสัมผัสประสบการณ์เล่นเกม แล้วไหนเลยจะไม่ลองให้ตัวเองได้สัมผัสประสบการณ์ดูหน่อยล่ะ
ความสามารถและประสบการณ์ของเขาคือความมั่งคั่งที่แท้จริงของเขา หากมีโอกาสฝึกฝนก็ต้องรักษามันไว้ ยิ่งกว่านั้น กว่าเขาจะออกมารอบหนึ่งมันไม่ง่ายเลย ในเมื่อออกมาแล้ว งั้นก็มาเพิ่มมูลค่าในการออกรอบมาครั้งนี้ให้มากดีกว่า
ในทางกลับกัน อาเหยากลับรู้สึกหดหู่มากขึ้นเรื่อยๆ คนผู้นี้ตรงหน้าเอาแต่ตั้งรับ ป้องกันและป้องกัน ความคมกริบของเล็บทั้งสิบนิ้วทำให้นางหวาดกลัวมาก อีกทั้งไอหมอกสีดำแผ่ซ่านออกมานั้นทำให้นางปวดหัวมากเช่นกัน กว่าจะฝ่าด่านป้องกันเหล่านี้ไปได้ไม่ง่ายเลย เมื่อโจมตีระยะประชิดได้นั้น
เขาเป็นผีดิบ!
แล้วควรจะต่อสู้อย่างไร
แต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้รุกโจมตี นางกำลังซื้อเวลาให้สหายของนาง รอหลังจากสหายของตัวเองจัดการกับอีกสองคนนั้นเสร็จ ทั้งสามคนค่อยจัดการกับไอ้ตัวปัญหาจัดการยากตรงหน้านี้พร้อมกัน!
โจวเจ๋อไม่ได้มองทะลุความคิดของนาง อันที่จริงจะมองออกหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เหล่าจางคันไม้คันมือและอยากจะหาทางแก้แค้นระบายความโกรธชั่วร้ายต่อหน่วยบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเหล่าจางนั้นปล่อยให้เขาฝึกฝนให้มากๆ บางทีอาจจะอยู่ทนอยู่นานกว่านี้อีกหน่อย
ใช่แล้ว เหล่าจางกำลังถูกฝึกฝน เขากำลังเผชิญหน้าปะทะกับอาเฟิง
อาเฟิงแข็งแกร่งมาก แค่หวดซัดหมัดเดียวก็มีเสียงทะลุผ่านอากาศ
แม้ว่าหน่วยบังคับใช้กฎหมายจะหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ยังมองเห็นความรุ่งโรจน์ในอดีตหลงเหลืออยู่ในตัวพวกเขา ถ้าแยกหน่วยกันดูแล้ว บทบาทของตัวละครทั้งสามไม่ทับซ้อนกันโดยสิ้นเชิง พอเกาะเป็นกลุ่มก้อนก็จะส่งเสริมกันและกัน แต่เจ้าหน้าที่ทางการพวกนั้นที่ยมโลกส่งมาดูเหมือนจะเป็นของพระยมซ่งตี้หวัง โง่เขลาและไม่เป็นมืออาชีพมากพอ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ถูกเด็กชายถ่อไปกวาดล้างคารังเพียงลำพังหรอก
เหล่าจางโดนกระแทกกระเด็นทุกครั้ง แต่มีแสงสีขาววูบวาบช่วยเขาหักล้างความเสียหายทุกครั้ง ถึงกระนั้นก็ตามที เหล่าจางก็ยังโดนอัดจนฟกช้ำดำเขียว แขนขาไม่ได้หักขาดหายไป แต่มันอนาถและน่าเวทนาอยู่หน่อยๆ
โชคดีที่เหล่าจางมีนิสัยดื้อรั้นและเป็นคนยึดมั่นถือมั่นระเบียบวินัยมาก
ไม่สนว่าเหยื่อสาวทั้งสามรายจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม จากมุมมองของเหล่าจางนั้น พวกเธอไม่สมควรตาย!
แต่พวกคนเหล่านี้มองชีวิตคนเป็นผักเป็นปลาและมันยังทำให้เหล่าจางโกรธมากอีกด้วย หากยังเก็บมันไว้ในทงเฉิงต่อไป เดาว่าพรุ่งนี้คนธรรมดาต้องโดนลูกหลงอีกแน่
เพราะความคิดนี้ ทุกครั้งหลังจากที่เหล่าจางโดนซัดกระเด็นก็จะมักจะคลานลุกขึ้นมาในวินาทีถัดมาพร้อมกับใช้เทคนิคจับกุมเหล่านั้นในหน่วยสายสืบจัดการกับอาเฟิง
แต่ผลลัพธ์แย่มาก ก่อนหน้านี้เหล่าจางคิดว่าตัวเองต่อสู้พอใช้ได้และปราบปรามพวกอันธพาลเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่หน่วยบังคับใช้กฎหมายที่ฆ่าสังหารเป็นอาชีพจริงๆ แล้ว เหล่าจางยังดูหน่อมแน้มเกินไปมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของประสบการณ์หรือว่าการผ่านสมรภูมิกระทั่งเป็นแง่ของอายุ ที่จริงอีกฝ่ายมีข้อได้เปรียบอย่างแน่นอน แต่ข้อได้เปรียบเพียงหนึ่งเดียวของเหล่าจางที่ทนายอันเหน็บแนมก่อนหน้านี้
เขาถึกทน!
เถ้าแก่โจวกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับอาเหยา เหล่าจางก็ถูกทุบตีอย่างดุเดือดเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม การปะทะระหว่างทนายอันและอาเผิงดูกร่อยลงไปเลย ถึงขั้นที่หากเป็นละครหลังข่าวละก็ เมื่อไรที่กล้องแพลนมาตรงนี้ ผู้ชมก็อาจจะทนไม่ไหวอยากจะเปลี่ยนช่องไป
เพียงแต่ในตอนนั้นระดับของทั้งสองแทบจะเท่าๆ กัน จึงตีเสมอกันมาโดยตลอด แต่ทนายอันได้เปรียบอยู่หน่อยก็ตรงที่ ครั้งหนึ่งเขาเคยทะลวงแนวป้องกันทางจิตของอีกฝ่ายจนอ่านความลับลึกที่สุดที่ซ่อนอยู่ในใจของอีกฝ่ายได้
ชาติก่อนของอาเผิง ขายภรรยาเข้าหอนางโลมเองเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายหนี้
แค่ดูว่าคนดีมีคุณธรรมอย่างผู้เฒ่าจางและเกิงเฉินเกลียดทนายอันแค่ไหนก็เห็นได้อย่างชัดเจน ตอนนั้นทนายอันไม่ได้ทำหน้าที่รับผิดชอบส่วนใด หลังจากได้ข้อมูลความทรงจำนี้ ทนายอันก็ไม่ได้ประกาศออกไป แต่แอบเล่าให้ผู้พิพากษาที่รับผิดชอบแผนกของทั้งสองคนฟังในตอนนั้น เป็นหัวข้อสนทนาที่สนทนา ‘โดยบังเอิญ’
ผู้พิพากษาคนนี้มาจากกลางราชวงศ์ชิง จริงๆ แล้วภรรยาของเขาต้องผ่านความยากลำบากมากมายเพื่อช่วยเหลือเขาในการสอบเข้าราชการ ขณะที่ดูแลพ่อแม่ก็ดูแลลูกไปพร้อมๆ กันทั้งยังต้องทำงานส่งเขาเรียนด้วย
เมื่อเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเหรียญทองเป็นข้าราชการแล้วก็พบกับโจรบนท้องถนน เขาช่วยชีวิตภรรยาโดยสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนไล่ล่า ต่อมาเพื่อปกป้องชื่อเสียงตัวเองก่อนจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของโจร ภรรยาของเขาจึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
เหตุการณ์นี้ทำให้ราชสำนักตื่นตระหนก ในเวลาต่อมาจักรพรรดิทรงมีพระราชกฤษฎีกามอบรางวัลมรณกรรมให้ภรรยาของเขา นับว่าฮือฮากันไปช่วงหนึ่ง
ทั้งนี้นับตั้งแต่นั้นมาผู้พิพากษาผู้นี้เป็นแบบอย่างของ ‘ปีศาจบ้าระห่ำปกป้องภรรยา’ แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตและทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ในยมโลกก็ตามที
เมื่อทนายอันไม่ระวังหลุดปากออกไป อาเผิงก็ถูกเบื้องบนบีบบังคับกีดกัน สุดท้ายถูกผลักไสไปตลอดทาง บีบคู่แข่งในอาชีพเดียวกัน ในอนาคตทนายอันจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน จนในท้ายที่สุดอาเผิงจำใจหันหลังและเข้าร่วมหน่วยบังคับใช้กฎหมาย หน่วยบังคับใช้กฎหมายดูเหมือนจะรุ่งเรือง แท้จริงแล้วเทียบเท่ากับการตัดอนาคตดีๆ นี่เอง!
“อันปู้ฉี ข้ายังจำสีหน้าทำเหมือนบุพการีเสียชีวิตได้ ตอนที่ข้าบอกเจ้าว่าสตรีนางนั้นถูกพวกเรากำจัดไปแล้ว ข้าเอาแต่คิดย้อนกลับไปมาอยู่หลายสิบปีแล้ว”
ทนายอันสูดหายใจเข้าลึก ยิ้มเอ่ย “ข้าได้แต่พยายามเตือนตัวเองระงับความโกรธมาตลอดทาง ความโกรธทำให้ขาดสติได้ง่าย แต่ข้าพบว่าข้าก็ยังทำไม่ได้”
“เฮอะ เจ้าถูกถอดยศคืนตำแหน่ง ตอนนี้บนตัวยังเหลือเพียงความสามารถดั้งเดิม ส่วนอื่นๆ ยังเหลืออยู่อีกกี่ส่วน แค่ความสามารถเดิมๆ ของเจ้า เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้หรือ”
ทนายอันส่ายหัวแล้วพูดว่า “ถ้าเพิ่มมันเข้าไปอีกล่ะ”
ทันทีที่พูดจบ สุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวใหญ่ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังทนายอัน
เผ่าปีศาจจิ้งจอกเก่งเรื่องภาพลวงตาที่สุด!
ทนายอันจิ๊ปาก ดีดนิ้วและชี้อาเผิงด้านหน้าพร้อมเอ่ย “ทำให้เขากลายเป็นโรคอัลไซเมอร์!”
…………………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล