ตอนที่ 29 เกินไปไหม
“เจ้าอยาก…ทำหน้าที่แทนข้าไหม”
คำถามนี้ถามจนโจวเจ๋อตกตะลึง
นี่หมายความว่าอะไร
จากบุคคลที่ไม่มีรายชื่อในทะเบียนบ้านต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ในเมือง กลับกลายเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในทันใดหรือ
เรื่องตื่นเต้นมากะทันหันเกินไป
โจวเจ๋อไม่ค่อยกล้ารับ
สวรรค์มักจะมีขนมร่วงลงมาจากฟ้า แต่คนส่วนใหญ่ที่เจอเรื่องพวกนี้สุดท้ายก็ถูกขนมทับตาย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โจวเจ๋อไม่คิดว่าตัวเองช่วยชีวิตเธอหนึ่งครั้ง ก็ควรค่าที่เธอจะปฏิบัติกับตัวเองเช่นนี้
ควรทราบว่า กรณีของคนขับรถคนนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคลียร์ไม่ชัดเจน เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนี้ น่ารักมาก แต่นั่นเป็นแค่เนื้อหนังมังสาภายนอกของเธอ
สวี่ชิงหล่างเคยพูดว่า เธอเคยปรากฏตัวในร้านของเขา แลบลิ้นออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นก็เก็บวิญญาณของพ่อกับแม่ของเขาที่ตายไป
ไม่ว่าสวี่ชิงหล่างจะขอร้องอ้อนวอนอย่างไร เธอก็ไม่ขยับเลยสักนิด
คนแบบนี้ คุณอย่าหวังว่าเธอจะรู้จักทดแทนบุญคุณ ขอแค่เธอไม่แว้งกัดคุณก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว
ในฐานะยมทูต ได้เจอการพบเจอแยกจากกันไม่รู้ตั้งเท่าไร
เจอความโหดเหี้ยมของจิตใจมนุษย์มากี่มากน้อย
เจอผีอาฆาตมาก็ไม่รู้กี่ตน
เธอไม่ใช่เด็กสาวที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา และเป็นไปไม่ได้
“ทำไม ถึงไม่พูดล่ะ” สาวน้อยโลลิถามอีก
“ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร คุณคือถามไปงั้นๆ ใช่ไหม” โจวเจ๋อเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“เจ้าสามารถตอบได้ว่าไม่อยาก” สาวน้อยโลลิกล่าว
จากนั้นก็เงียบไป
สาวน้อยโลลิพูดเสริมต่อว่า “จากนั้น ข้าก็จะจับเจ้าลงไป”
“…” โจวเจ๋อ
โอเค แบบนี้ก็สบายแล้วไม่ใช่เหรอ
แล้วจะเลือกหัวข้อไหนดี
เติมคำลงในช่องว่างไปเลยก็แล้วกัน
หัวข้อก็คือคำตอบหากไม่เขียนคำว่า ‘ใช่’ ก็จะโดนยิงเป้า
“ผมตกลง” โจวเจ๋อตอบครั้งนี้ ไม่มีความลังเล ไม่มีความสับสนอีก
สาวน้อยโลลิหันมา ยิ้มอย่างบริสุทธ์ไร้เดียงสา จากนั้นก็เดินมาอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋ออย่างช้าๆ แสร้งทำเป็นผู้ใหญ่ในคราบเด็กอยากจะจัดคอเสื้อให้โจวเจ๋อ
นี่ดูเหมือนการให้ความสำคัญของหัวหน้าที่แสดงออกต่อลูกน้อง คล้ายกับองค์จักรพรรดิสมัยโบราณตบรางวัลให้ขุนนางได้มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารกับพระองค์
ทว่าสาวน้อยโลลิตัวเตี้ยเกินไป ตอนที่ยืนอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ จัดคอเสื้อไม่ถึง จึงได้แต่จัดเข็มขัดให้โจวเจ๋อ
“อุ้มข้าขึ้นมา” สาวน้อยโลลิเบ้ปาก พลางออกคำสั่ง
โจวเจ๋อโน้มตัวลง แล้วอุ้มสาวน้อยโลลิขึ้นมา
สาวน้อยโลลิยื่นมือช่วยจัดคอเสื้อให้โจวเจ๋อ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว เพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกโจวเจ๋ออุ้มแบบนี้เหมือนกับลูกสาวมากกว่า จนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
“ข้าทำแบบนี้ ดูโง่มากไหม”
“น่ารักมาก”
สาวน้อยโลลิยื่นมือเล็กออกมา เตรียมจะดึงแก้มโจวเจ๋อโดยตรง
และในชั่วพริบตาเดียว เล็บมือของโจวเจ๋อที่อุ้มสาวน้อยโลลิกลับเปลี่ยนเป็นสีดำและงอกยาวอย่างรวดเร็ว จากนั้นส่วนลึกสุดของนัยน์ตาก็มีกระแสน้ำวนสีดำ
สาวน้อยโลลิหยุด เผยรอยยิ้มมุมปากที่มีความหมายลึกซึ้งออกมา
โจวเจ๋อก็ไม่ได้เคลื่อนไหวต่อ
“เจ้ารู้ไหม การแสดงความโกรธและท่าทีต่อต้านต่อหน้าข้า เป็นการกระทำที่โง่เขลามากอย่างหนึ่ง” สาวน้อยโลลิถาม
“ก็แล้วแต่ ถึงยังไงก็เป็นคนที่ตายมาแล้วครั้งหนึ่ง”
“นั่นเป็นเพราะเจ้าโชคดี เดินบนเส้นทางน้ำพุเหลืองได้แป๊บเดียวก็ออกมา เจ้าไม่ยังไม่ผ่านประสบการณ์ความทรมานและเจ็บปวดจากการเดินทางไปนรกอย่างสิ้นเชิง!” สาวน้อยโลลิพูดเสียงสูง “การทรมานแบบนั้น สามารถทำให้คนที่ฆ่าตัวตายตกนรกเสียใจเป็นอย่างมาก! ใช้ชีวิตไปวันๆ ยังดีกว่าต้องตายไป นี่ไม่ใช่คำพูดปลอบใจลอยๆ แน่นอน”
“งั้นเหรอ”
“วางข้าลง”
โจวเจ๋อวางสาวน้อยโลลิลง
สาวน้อยโลลิเอนตัวไปข้างหลัง แล้วมองโจวเจ๋อ “รู้ไหมว่าทำไมข้าถึงเลือกเจ้า”
โจวเจ๋อส่ายหน้า
“เพราะว่าเจ้าฉลาดมาก หรือพูดอีกอย่างก็คือ นายมีความสงบสุข เข้าใจการรักษาระยะห่าง” สาวน้อยโลลินับนิ้วคำนวณเอ่ยว่า “ยมโลกมีกฎระเบียบ โลกมนุษย์ก็เช่นกัน เพราะว่าคนจำนวนไม่น้อยที่ลักลอบหนีออกมามีหลายสาเหตุแต่เจ้าเป็นคนที่สงบเยือกเย็นที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา”
“ผมไม่เชื่อว่านี่คือเหตุผลที่แท้จริง” โจวเจ๋อกล่าว
“เหตุผลที่แท้จริง ข้าไม่อยากบอกเจ้า” สาวน้อยโลลิบิดขี้เกียจ “ข้าเหนื่อยแล้ว อยากจะลงไปแล้ว ดังนั้น จึงมาเจอเจ้าพอดี และเจ้าก็ไม่ไม่สร้างความวุ่นวายให้ข้ามากเกินไป ดังนั้นจึงเลือกเจ้าก็แล้วกัน เหอะๆ ก่อนหน้านั้นที่หรงเฉิงมีคนผู้หนึ่ง ก่อกวนความวุ่นวายเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่เป็นคนแอบลักลอบหนีออกมาเหมือนกัน แต่กลับตั้งตนเป็นผู้พิพากษา ในฐานะผี กลับคิดอยากจะใช้การตัดสินปรับโทษของตนในโลกมนุษย์ เจ้าคิดว่า เขาโง่ไหม”
“โง่ครับ” โจวเจ๋อตอบทันที จากนั้นพลันนึกขึ้นมาอย่างหนึ่ง นักพรตเฒ่าดูเหมือนจะมาจากหรงเฉิง “แล้วหลังจากนั้นเขาเป็นยังไงครับ”
“ถูกขึ้นบัญชีดำไปแล้ว”
สาวน้อยโลลิหันหน้ากลับมา ยิ้มด้วยใบหน้าที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา “กฎมันมีชีวิต แต่ถ้าเหยียบเส้นมากเกินไป ก็จะไม่เหลือความหวังแม้แต่นิดเดียว”
“เขาตายแล้วเหรอ” โจวเจ๋อถาม “ผมหมายความว่า ถูกจับกลับไปนรกหรือไม่ก็วิญญาณแตกดับ”
พอได้ยินดังนั้น สาวน้อยโลลิจึงเผยใบหน้าที่โกรธเคืองออกมา ดูเหมือนจะสะกิดต่อมโมโหของเธอเข้าแล้ว
“อันนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”
สาวน้อยโลลิจับฝ่ามือของโจวเจ๋อ ให้ฝ่ามือเล็กของตัวเองประสานตรงกับมือของโจวเจ๋อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล