ตอนที่ 362 กระหน่ำ
“นี่ เสี่ยวหรง ไปได้แล้ว ตอนเช้ามีคาบเรียนวิชาลัทธิเหมา อาจารย์คนนั้นชอบเช็กชื่อมากที่สุด”
“ไม่ไปๆ ฉันขอนอนต่ออีกหน่อย” หญิงสาวเอาผ้าห่มห่มตัวเองแล้วพลิกตัว ไม่คิดจะลงจากเตียงเลยสักนิด
“เธอโดนเช็กว่าโดดเรียนสองครั้งแล้ว ถ้าครั้งนี้โดนอีกครั้ง เธอจะสอบตกวิชานี้ตอนสอบปลายภาคแน่นอน”
“ไม่เป็นไรๆ ฉันได้ยินรุ่นพี่บอกว่า อาจารย์คนนั้นลามกมาก เดี๋ยวรอให้ช่วงสอบปลายภาคก่อนฉันจะเลี้ยงข้าวเขา แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว” หญิงสาวนอนหลับต่อ
ผู้หญิงคนอื่นที่อยู่ในหอพักเห็นดังนั้น จึงได้แต่หยิบหนังสือเรียนของตัวเองแล้วเดินออกจากหอพัก โดยทั่วไปนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งจะตั้งใจเรียนที่สุด เพราะตอนนั้นยังคงรักษาความเคยชินของการตั้งใจเรียนสมัยมัธยมปลายได้ พอถึงปีสองปีสาม โดยส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์เยอะแล้ว ขาดเรียนจึงกลายเป็นเรื่องประจำ
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงในที่สุดก็ตื่นนอน เธอขยี้ตาแล้วลงจากเตียง เธอไม่แปรงฟันและไม่ล้างหน้า เธอหยิบกระจกส่องดูรูขุมขนของตัวเองก่อน แล้วจึงมองเส้นผมสีดำของตัวเอง จากนั้นหยิบเครื่องสำอางของเพื่อนร่วมหอมาแต่งหน้า เธอแต่งเยอะมาก ถึงอย่างไรก็เป็นของคนอื่น จึงไม่รู้สึกเสียดาย
ขณะที่เธอแต่งไปแต่งมา โทรศัพท์มีข้อความเข้า เธอเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พบว่าเป็นแฟนหนุ่มของเพื่อนร่วมหอส่งข้อความมาหาตัวเอง
เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วแชตคุยกับเขาอย่างมีความสุข แถมยังถ่ายรูปเซลฟี่ บอกว่าตัวเองไม่สบายอยู่ในตอนนี้ แน่นอนว่าไม่ได้ถ่ายใบหน้า อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ได้สระผม แต่ถ่ายรูปเตียงของตัวเองโดยถ่ายให้เห็นขาของตัวเองเข้าไปด้วย
อีกฝ่ายรีบบอกว่าจะเลี้ยงข้าวเธอและแสดงความเป็นห่วงเธอต่างๆ นานา เธอหาวอีกครั้งแล้วโยนโทรศัพท์ไปข้างๆ จากนั้นจึงเปิดตู้เสื้อผ้าของเพื่อนร่วมหอคนอื่น หยิบของใช้ของพวกเธอมาใช้ มีเครื่องประทินผิวหลายอย่างที่เพื่อนร่วมหอประหยัดเงินซื้อมาใช้ ปกติตัวเองเสียดายไม่อยากใช้เยอะ แต่เธอกลับไม่แคร์เอามาใช้อย่างเต็มที่ เหมือนเป็นครีมยูเรียที่ใช้ทาหน้าตอนเด็ก
ลมเย็นพัดมาระยะหนึ่ง ทำให้เธอตัวสั่นระริก เธอมองไปที่หน้าประตูด้วยความสงสัย พบว่าประตูปิดอยู่ หน้าต่างก็ปิดเหมือนกัน แล้วลมมาจากไหน จากนั้นเธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอไม่ได้อาบน้ำเป็นวันที่สามแล้ว และเธอก็ขี้เกียจด้วย เนื่องจากหอพักไม่มีห้องอาบน้ำในตัว ถ้าอยากจะอาบน้ำก็ต้องไปใช้ห้องน้ำรวม ซึ่งอยู่ไกลนิดหน่อย เธอขี้เกียจจะไป ปกติแล้วเธอจะอาบน้ำตอนที่เปิดห้องกับพวกแฟนหนุ่มทั้งหลาย
เธอกำลังจะดึงแผ่นมาส์กหน้าลงมาจึงเดินไปที่อ่างล้างหน้า มองกระจกแล้วดึงแผ่นมาส์กหน้าออก แต่กลับพบว่ามีจุดด่างดำเล็กๆ ที่มุมตาของตัวเอง เธอขมวดคิ้ว เพราะก่อนหน้านั้นเหมือนจะไม่มี
ถึงแม้จุดด่างดำจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอพยายามล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าพลางคิดว่าไปโดนของสกปรกอะไรหรือเปล่า
เพื่อนร่วมหอบอกว่ารวบรวมเงินที่ทำงานได้หนึ่งเดือนมาซื้อแผ่นมาส์กหน้าของเกาหลีมาจากแพลตฟอร์มต่างประเทศ หรือว่ามันจะมีปัญหา
ยายโง่คนนั้นซื้อของปลอมมาหลอกฉันเหรอ
เธอเริ่มถูมัน แต่ยิ่งถูจุดด่างดำก็ยิ่งขยายใหญ่ เธอเบิกตาโตแล้วยิ่งถูด้วยความบ้าคลั่ง เธอมองตัวเองในกระจกด้วยความตกใจกลัว และยิ่งถูแรงมากขึ้น
เธอถูไปถูมา จุดด่างดำก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอหน้าดำไปครึ่งหน้าแล้ว
เธอกรีดร้อง หยิบครีมบำรุงผิวต่างๆ ของเพื่อนร่วมหอออกมาทาใบหน้าของตัวเองโดยไม่สนว่าจะได้ผลหรือไม่ได้ผล จากนั้นเธอจึงล้างน้ำออก แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เธอจึงหยิบแปรงสีฟันมาถูหน้า แปรงสีฟันก็ไม่ได้ผล ดังนั้นเธอจึงหยิบแปรงที่เพื่อนร่วมหอมักจะใช้ขัดรองเท้าออกมาแล้วเริ่มถูใบหน้าของตัวเอง
ผิวหนังของเธอเริ่มแตก เลือดสดไหลลงมา แต่เธอกลับหัวเราะด้วยความตื่นเต้นดีใจ ขัดถูผิวหนังที่สกปรกนี้ให้หลุดไปเลย เธอหัวเราะเสียงดังขณะที่ใช้แรงถูไปด้วย ถูไปเรื่อยๆๆ…
….
“นี่ ไม่ไปร้านอินเทอร์เน็ตเหรอ”
“ไม่ไป เดี๋ยวจะไปกินข้าวแล้ว”
“แม่งเอ๊ย นายกินขนมตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุดเลย ยังจะกินอีกเหรอ”
“กินสิ แบบนี้พอที่ไหนกัน”
“โอเคๆ อย่างนั้นพวกเราไปแล้วนะ”
“ไปเถอะๆ ฉันจะสั่งเดลิเวอรี่”
หลังจากเพื่อนร่วมหอออกไปแล้ว เขาดูการ์ตูนที่อยู่ในโน้ตบุ๊กแล้วกินขนมไปด้วย ส่วนข้าวเย็นก็สั่งจากแอปพลิเคชันสั่งอาหารก็แล้วกัน อีกสักพักน่าจะมาส่ง
เวลานี้หอพักไฟดับกะทันหัน “แม่งเอ๊ย!” เขาเคาะโต๊ะด้วยความโมโห
ตอนเย็นเวลานี้เป็นเวลาอ่านหนังสือทบทวนด้วยตัวเองของมหาวิทยาลัย และไฟจะดับเวลาหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่มครึ่ง ดังนั้นเพื่อนร่วมหอทั้งหลายจึงเลือกที่จะไปเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตแต่ไม่ใช่หอพัก
เขานอนบนเตียงอย่างจนใจ หยิบเครื่องดื่มที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาดื่ม จากนั้นหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ทำไมอาหารยังไม่มาส่งอีก เดี๋ยวจะให้คะแนนแย่คอยดู! ทำให้ฉันต้องหิวจัด!
เวลานี้เขากระโดดลงจากเตียง ขนมก็กินหมดแล้ว อาหารเดลิเวอรี่ก็ยังไม่มาส่ง แต่ท้องของเขากลับหิวผิดปกติเป็นความหิวโซที่มากกว่าปกติ
เขาหาของกินของเพื่อนร่วมหอมาบางส่วน เนื่องจากมีความสัมพันธ์ที่ดีในหอพัก หยิบของกินของพวกเขาแล้วค่อยซื้อคืนพวกเขาวันพรุ่งนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไรแล้ว
แต่หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป เขากินขนมของเพื่อนร่วมหอจนหมด แต่ยังคงรู้สึกหิวมากเหมือนเดิม หิวมากจริงๆหิวจนแสบท้อง อาหารที่สั่งมาจากข้างนอกทำไมยังไม่มาอีก
เนื่องจากหอพักโดนตัดไฟ ดังนั้นแสงไฟในหอพักจึงมีแสงรำไรที่สะท้อนออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้นเขานั่งลงข้างเตียงตาปรือเล็กน้อย
เขาอยากออกไปจากหอพัก อยากไปซื้อของกินที่ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไม่ก็ไปซื้อข้าวข้างนอกมากินไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนที่เขาตัดสินใจจะเปิดประตูหอ เขากลับพบว่าประตูห้องถูกล็อกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล