ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 550

สรุปบท ตอนที่ 550 คำสัญญา!: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 550 คำสัญญา! – ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 550 คำสัญญา! ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 550 คำสัญญา!

“เชิญนั่ง!” ดูเหมือนจะเป็นประโยคเรียบง่าย แต่กลับเหมือนเปิดกรงของปีศาจร้าย ชั่วเวลาเดียว พวกกระดูกขาวใต้บัลลังก์ที่เดิมทีเงียบกริบจู่ๆ ได้เริ่มแผดเสียงคำรามน่ากลัวอีกครั้ง เงาดำแต่ละสายยืดขยายออกมาจากตัวของพวกเขา พวกเขาคำราม พวกเขาแผดเสียงสุดฤทธิ์ พวกเขาตื่นเต้น ก่อนหน้านี้ พวกเขาโกรธ พวกเขาไม่ยอม พวกเขาดิ้นรน แต่หลังจากที่คนนั้นกลับมานั่งบัลลังก์นี้ใหม่ กลับกลายเป็นสุนัขไซบีเรียนฮัสกีแสนเชื่องที่สุดในทันใด กลายเป็นสุนัขล่าเหยื่อที่ซื่อสัตย์และว่องไว คิดแต่จะพุ่งออกไปท่าเดียว กระโจนเข้าใส่เหยื่อที่เจ้าของบัลลังก์ชี้!

ชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่ง เดิมทีพวกหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงทั้งสามคนกำลังจะออกจากพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งแล้วกลับถูกดึงกลับไปอีกครั้ง ร่างของพวกเธออยู่ตรงหน้าเงาปีศาจยักษ์ที่น่าประหลาดเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเธอตัวเล็กขนาดไหน

ใครจะไปรู้ว่าตอนนั้นอิ๋งโกวเบื่อจัดเลยฆ่าเทพและปีศาจไปมากมายแค่ไหน!

แต่จากความเข้าใจของโจวเจ๋อที่มีต่ออิ๋งโกว ไอ้หมอนี่ถึงแม้ตอนนั้นจะเป็นแม่ทัพใหญ่ของจักรพรรดิเหลือง หลังจากยกทัพจับศึกไปทั่วแดน ทำความดีความชอบในการศึกเป็นที่เลืองชื่อ กระทั่งสามารถพูดได้ว่าอำนาจสูงกลบนายก็ไม่ถือว่ามากเกินไป

ส่วนในสมัยโบราณยุคนั้น เป็นเพราะว่าเขาหยิ่งผยองทำผิดต่อจักพรรดิเหลืองหรือไม่ หรือเป็นเพราะว่าเขามีอำนาจสูงกลบนายเป็นเหตุให้จักพรรดิเหลืองเกิดความระแวงจึงลดตำแหน่งของเขา กลัวว่าเขาจะออกมา ‘ช่วงชิงอำนาจได้สำเร็จ’ ตามแบบฉบับโบราณ ความจริงของเรื่องนี้ มีเพียงตัวของอิ๋งโกวเท่านั้นที่รู้ดี

สิ่งที่อยู่ในประวัติศาสตร์ไม่สามารถเชื่อได้ทั้งหมด นับประสาอะไรกับเรื่องราวที่อยู่ในตำนาน ควรทราบว่าในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันตกไห่ฮุนโหวหลิวเฮ่อที่ครองราชย์ยี่สิบกว่าวัน ตามบันทึกระบุว่าเขาทำเรื่องชั่วมากมายนับพันเรื่องระหว่างที่ครองราชย์อยู่

ซึ่งหมายความไอ้หมอนั่นนอกจากกิจวัตรประจำวันกินดื่มขี้ฉี่นอนแล้ว ก็ทำแต่เรื่องชั่วไม่หยุดหย่อน เป็นไปได้ไหม

ตอนนั้นในนรก มีเทพและปีศาจที่ไม่ลืมหูลืมตากี่มากน้อยพยายามกระโจนเข้าต่อสู้กันเพื่อชิงอำนาจของเจ้าทะเลแห่งความตายอย่างไม่ขาดสาย โจวเจ๋อไม่รู้ แต่พอลองคิดดู พวกเทพและปีศาจทั้งหลายไม่น่าจะปุบปับก็มีแนวคิดสูงส่งรวมตัวกันต่อต้านเผด็จการ

และคาดว่าอาจจะเป็นวันนี้ อิ๋งโกวรู้สึกว่าบัลลังก์ไม่ค่อยนิ่งเท่าไร จึงไปฆ่าเทพและปีศาจเพื่อเป็นขารองเก้าอี้ วันพรุ่งนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยนิ่งเท่าไร จึงไปฆ่าอีก วันมะรืน… และอาจเป็นเพราะเขาเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ถึงทำให้บัลลังก์กระดูกขาวนี้มี ‘ศพซ้อนทับกันสูงเป็นพีระมิด’ เหมือนอย่างทุกวันนี้

ระยะห่างก่อให้เกิดความสวยงาม แต่โจวเจ๋อไม่มีระยะนี้เลยจริงๆ โจวเจ๋อกำลังคิดฟุ้งซ่าน ส่วนพวกหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงทั้งสามคนกลับกำลังตัวสั่นงันงก

กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวรายล้อมอยู่รอบตัวพวกเธอ พวกเธอรู้สึกคุ้นเคยมากจริงๆ ชนเผ่าของตัวเองนับพันปีก่อน ไม่เพียงแต่กราบไว้บูชาบัลลังก์กระดูกขาวนี้เท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือข้อตกลงกับเงาเสมือนของเหล่าปีศาจและเทพที่อยู่ใต้บัลลังก์นี้ โดยบูชายัญด้วยเลือด เพื่อให้พวกเขาช่วยเหลือตัวเอง แต่ตอนนี้พวกปีศาจและเทพที่ได้รับการบูชายัญด้วยเลือดจากชนเผ่าของตัวเองนานนับพันปี กลับกลายเป็นเพชฌฆาตที่จับกุมพวกเธอ ไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือและไร้ซึ่งความน่าสงสาร!ไอรีนโนเวล

เจ้าท้องทะเลแห่งความตาย ถึงแม้จะดับสูญไปนานหลายปีแล้ว แต่พวกกระดูกขาวทั้งหลายในฐานะผู้ที่เคยประสบกับความน่ากลัวของเขาด้วยตัวเอง ในส่วนลึกสุดของจิตวิญญาณ ยังคงตราตรึงความน่ากลัวอันยิ่งใหญ่อยู่เหมือนเดิม!

พูดจริงๆ นะ เถ้าแก่โจวตอนนี้กำลังเป็นสุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือ อย่างไรก็ตามอิ๋งโกวยังไม่ตื่น และกำลังนอนหลับใหล

แท้จริงแล้ว ต่อให้อิ๋งโกวตื่นขึ้นมาในเวลานี้ เขาก็ไม่ใช่อิ๋งโกวคนเดิมที่ชอบตะโกนว่า ‘ขาโต๊ะเอียงแล้ว’ ออกไปหาที่รองหนังสือมารองขาโต๊ะหน่อยอีกต่อไป

สถานการณ์ในตอนนี้ จึงสามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงจะมีฐานะเช่นนี้ และใครจะคาดคิดว่าโจวเจ๋อสามารถปลดล็อกให้ขยับด้วยคำว่า ‘กาแฟหนังสือพิมพ์’ ทำให้ตัดสินความสามารถของโจวเจ๋อผิดไป สุดท้ายจึงต้องเรียกเงาเสมือนของบัลลังก์กระดูกขาวนี้ออกมา

‘พลั่ก!’ เธอลองหยั่งเชิง เธอลองปะทะแบบแข็งชนแข็ง เธอลองใช้อุบายต่อสู้ เธอลองหนีแล้วก็จริง แต่ตานี้กลับไม่มีผลกระทบต่อการคุกเข่าของเธอในเวลานี้!

“หัวหน้า ท่านกลับมาแล้วใช่ไหม หัวหน้า ท่านกลับมา…แล้วจริงๆ ใช่ไหม” หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิง ‘ร้องไห้น้ำตาอาบหน้า’ ร้องไห้น้ำมูกไหล ด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นและไม่อยากจะเชื่อ

เสียดายที่เราจะไม่พูดถึงฝีมือการแสดงของเธอ ลำพังแค่ร่างกายของเธอ ก็เกือบเละเพราะถูกเด็กผู้ชายใช้คาถาที่ทนายอันสอนเขาก่อนหน้านั้นแล้ว การร้องไห้กระซิกของเธอในตอนนี้ ยิ่งเหมือนหนอนผีเสื้อในร่างคนกำลังสะอื้นไห้คลานยุกยิก

โจวเจ๋อหันหน้าเล็กน้อย มองดูเธอ หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงยังคงแสดงต่อไป “หัวหน้า ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้วเผ่าของพวกเรา รอคอยท่านด้วยความทรมานอย่างยิ่ง!”

โจวเจ๋อไม่พูดอะไร เด็กผู้ชายยืนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ และรู้สึกว่าน่าสนุกดี ทว่ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เขาอายุมากแล้ว แต่หลังจากที่ตัวเองตื่นขึ้นมาในฐานะของผีดิบเป็นต้นมา เขาต้องใช้ชีวิต ‘หลบๆ ซ่อนๆ’ มาตลอด

ตอนแรกเขาช่วยชีวิตชาวเขาจากในป่าใหญ่ ผลปรากฏว่าพวกชาวบ้านได้สร้างศาลให้เขา แต่เขากลับทำลายมัน เขาคือตัวตนที่ไม่อาจให้ใครล่วงรู้ได้ แต่กลับสร้างศาลขึ้นมาเพื่อบอกสวรรค์ว่าตรงนี้มีผีดิบตัวหนึ่ง จะรีบให้ฟ้าผ่าลงมาฆ่าเขาให้ตายเหรอ

ดังนั้นเด็กผู้ชายจึงรักษาความบริสุทธิ์สดใสของเขาไว้ในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์โดนลูกน้องหักหลังอยากจะกลืนกินเขา

“หัวหน้า ข้าจะไปบอกข่าวคนในเผ่า บอกเหล่าผู้เฒ่าที่อยู่ในเผ่า ถ้าหากพวกเขารู้ว่าหัวหน้ากลับมาแล้ว จะต้องดีใจยกใหญ่เป็นแน่! เผ่าของพวกเรากราบไหว้บูชาเจ้าของบัลลังก์นี้นานนับพันปี รอคอยการกลับมาของท่านตลอดเวลา!หัวหน้ากลับไปนรกอีกครั้ง เผ่าของพวกเรายินดีเป็นข้าหน้ารถม้าคอยรับใช้ท่าน จะเป็นสุนัขเฝ้าประตูที่ซื่อสัตย์อยู่แทบเท้าของท่าน ให้ท่านได้ใช้งาน!”

ตอนที่ได้ยิน ‘สุนัขเฝ้าประตู’ สามสี่คำเหล่านี้ เถ้าแก่โจวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ขมวดคิ้ว เธออยากจะแย่งชิงความเป็นที่โปรดปรานกับฉันเหรอ อ้อไม่ ไม่ใช่ ไม่ว่าอย่างไรคำว่าสุนัขเฝ้าประตูนี้ ทำให้เถ้าแก่โจวไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก

เพราะไอ้อิ๋งโกวเอาคำนี้มาสัพยอกเขาทุกครั้ง และจริงๆ แล้วมีนิดหน่อยที่โจวเจ๋อสงสัยมาตลอด ด้วยนิสัยของอิ๋งโกว ก่อนที่จะดับสูญจะยอมมอบบัลลังก์ของตัวเองให้คนอื่นเหรอ

อิ๋งโกวไม่น่าจะเรียกทุกคนที่ใกล้ชิดมาแบ่งทรัพย์สมบัติเพื่อให้ทุกคนอยู่สุขสบายก่อนที่ตัวเองจะเกิดเรื่อง และมีความเป็นไปได้สูงว่าต่อให้เขารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ในวันพรุ่งนี้ วันนี้เขาก็น่าจะนอนหลับแล้วก็นอนหลับอย่างเดียว พยายามใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ ถึงแม้น้ำจะท่วมโลกหลังจากที่ตัวเองตายแล้วก็ตาม!

แบบนี้ถึงจะเป็นนิสัยที่แท้จริงที่สุดของอิ๋งโกว ดังนั้นบัลลังก์นี้ตกอยู่ในมือชนเผ่าของพวกเธอได้อย่างไร

“พวกเจ้าสามารถเข้ามาพร้อมกัน ลองดูว่าจะสามารถแยกร่าง กลืนกิน แก้แค้น ทำให้ข้าเป็นเหมือนเธอได้ไหม” โจวเจ๋อหัวเราะแล้วชี้มาที่ตัวเอง

เงาเสมือนของเหล่าปีศาจและเทพเริ่มรวมตัวแน่นขึ้นมา

“สามารถลองดูก็ได้ รอให้เงาเสมือนของบัลลังก์ตัวนั้นพังลงมา พวกเจ้าก็สามารถกลับไปยังบัลลังก์ที่แท้จริงได้เหมือนเดิม และไปบอกคนในเผ่าของเธอ บอกว่า พบร่องรอยของข้าแล้ว” โจวเจ๋อพูดต่อ

เด็กผู้ชายเม้มปาก เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง ครึ่งหนึ่งเป็นเพราะเงาเสมือนของเหล่าปีศาจและเทพที่อยู่รอบๆ กำลังบีบอัดเข้ามา อีกครึ่งหนึ่งคือสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึงก่อนหน้านั้น ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป จะนำมาซึ่งเกลียวคลื่นและความวุ่นวายมากแค่ไหน!

“ข้าคือเขา และข้าก็ไม่ใช่เขา” โจวเจ๋อมอบไปรอบๆ พูดเสียงดังก้อง “ปิดปาก เรื่องในวันนี้! ข้าสัญญากับพวกเจ้าอนาคตไม่นานหลังจากนี้ วันที่ข้ากลับมาอย่างแท้จริง จะเป็นคนปลดผนึกของพวกเจ้า ปล่อยพวกเจ้าเป็นอิสระ ช่วยพวกเจ้ากลับคืนสู่กายเนื้อ พาพวกเจ้าออกไปรบที่นรกอีกครั้ง นำสิ่งที่ข้าและพวกเจ้าสูญเสียไปทุกอย่างกลับคืนมาด้วยกัน!ตอนนั้น นรกเป็นของพวกเรา อนาคต นรกก็ยังเป็นของพวกเราเหมือนเดิม! พวกเจ้าจะไม่ใช่นักโทษที่ถูกขังอยู่ใต้บัลลังก์นี้อีกต่อไป พวกเจ้าจะกลายเป็นเพื่อนทหารของข้า นรกนั้นกว้างใหญ่ ใหญ่มากพอที่จะแบ่งปันให้ข้ากับพวกเจ้าใช้ร่วมกัน!”

เงาเสมือนของเหล่าปีศาจและเทพเอนไหวไปมา ตอนที่บัลลังก์ละลายได้ครึ่งหนึ่ง เงาเสมือนของเหล่าปีศาจและเทพทั้งหมดได้คุกเข่าดัง ‘พลั่ก!’ ต่อหน้าโจวเจ๋อ

ซี้ด…สบายใจ! เถ้าแก่โจวสูดลมเย็นเข้าปากโดยไม่รู้ตัว

เพื่อแสวงหาความรู้สึกที่อยู่เหนือคนอื่น หลายคนจึงไปเป็นข้าราชการ หลายคนจึงแสวงหาความเผด็จการ เกียรติยศและความมั่งคั่ง พวกเขาไม่สนใจจริงๆ สิ่งที่พวกเขาต้องการ แท้จริงแล้วก็คือความสุขที่ได้รับการกราบไหว้บูชาเช่นนี้!

แต่ตัวเขาเองกลับได้รับการคุกเข่าจากเทพและปีศาจกลุ่มนี้! ความรู้สึกเบิกบานใจเช่นนี้ แทบจะแสดงออกมาจากสีหน้า! ถ้าหากไม่มีเด็กผู้ชายกำลังเดินประคองอยู่ข้างๆ เถ้าแก่โจวคงหกล้มไปบนพื้นแล้ว

บัลลังก์ได้พังทลายในท้ายที่สุด เงาเสมือนของเหล่าปีศาจและเทพได้กระจายหายไปพร้อมกัน กลับไปยังสถานที่อยู่ของบัลลังก์อย่างแท้จริง

เด็กผู้ชายประคองโจวเจ๋อ แล้วถามอย่างสงสัยว่า “แค่นี้ก็จัดการได้แล้วเหรอ” พวกเขาแค่นี้ก็เชื่อแล้วเหรอ เฮ้อพวกเทพและปีศาจเอ๋ย ทำไมถึงโดนหลอกง่ายแบบนี้ นี่เหมือนคนโง่ที่เถ้าแก่มักจะพูดถึงเป็นประจำไม่ใช่เหรอ

โจวเจ๋อพยักหน้ากล่าวว่า “สามารถพูดได้ว่า ชื่อเสียงของไอ้หมอนั่นดีเกินไปต่างหาก” ตายแล้วก็ยังอยากรักษาหน้า แต่เป็นเพราะตายก็อยากรักษาหน้าไว้ ดังนั้นโจวเจ๋อจึงยอมทำข้อตกลงกับอิ๋งโกว และไม่กลัวว่าอิ๋งโกวจะเสียใจภายหลังหลังจากที่โดนหลอก ดังนั้นพวกเทพและปีศาจที่ถูกอิ๋งโกวฆ่าเอามาเป็นที่รองขาโต๊ะในตอนนั้น พวกเขาก็คือคนที่รู้จักอิ๋งโกวดีที่สุด ถึงได้เชื่อคำสัญญาของ ‘อิ๋งโกว’!

เสียดายที่อิ๋งโกวเกิดเร็วเกินไป ไม่ทันยุคชังเจี๋ยประดิษฐ์อักษร ไม่อย่างนั้นอาจจะมีสำนวนภาษาจีนคำว่า ‘คำสัญญาของอิ๋งโกว!’

………………………………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล