ตอนที่ 833 พายุก่อตัว
……….
“เจ้านี่ช่างน่าไม่อายจริงๆ”
ได้ยินเสียงประจบประแจงดังมาจากข้างใน คนที่รู้ก็เข้าใจว่าเจ้านี่กำลังถูกกิน คนที่ไม่รู้ก็กำลังคิดว่าเจ้านี่กำลังทำเรื่องอะไรพรรค์นั้นอยู่แล้วยังมีหน้าตะโกนร้องครางเพิ่มอารมณ์สนุกสนานอีก!
ทนายอันส่ายหน้าและทอดถอนใจต่อ “หน้าไม่อาย”
“ผมกลับคิดว่าหากหาวจื้อไม่โดนกินจนหมดละก็ อีกหน่อยสามารถทำสัตว์พาหนะให้คุณขี่ได้” สวี่ชิงหล่างพูดแนะนำ
ทนายอันหรี่ตาและส่ายหัวและพูดขึ้นอย่างดูแคลน “เหล่าสวี่”
“หือ”
“หากไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจ คุณหน้าตาดี ก็เลยไม่มีความรู้สึกตึงเครียด”
สวี่ชิงหล่างยักไหล่และพูด “ไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้หรอก”
“งั้นเป็นเพราะอะไรล่ะ”
“นับตั้งแต่หลังจากผมรื้อถอนและแบ่งเป็นห้องชุดยี่สิบกว่าห้อง ก็ไม่รู้สึกถึงความตึงเครียดประเภทนี้มานานแล้วน่ะ”
“เฮอะ”
ทนายอันคร้านจะโต้เถียงต่อ จากนั้นจึงมองเกิงเฉินที่อยู่ตรงนั้นด้วยความกังวลเล็กน้อย
เมื่อก่อนเขาเป็นคนโกงอีกฝ่าย แต่ตอนนั้นนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น อยากจะปีนไต่เต้าขึ้นไปจนต้องทำทุกวิถีทาง ก็เหมือนกับเฝิงซื่อเอ๋อร์เคยหลอกเขาในตอนแรกนั่นแหละ
ทุกคนสามารถเข้าใจและปรับตัวเข้ากับกฎของเกมนี้ได้ แต่เมื่อไรที่แหกกฎนี้และย้ายก้นออกจากตำแหน่ง มุมมองในการมองคนและเรื่องต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ เฉกเช่นเดียวกับเฟิงซื่อเอ๋อร์ที่ภายหลังเห็นแก่ทนายอันและช่วยยกมือให้ในหลายๆ ครั้ง
ในเวลานี้ จะปล่อยให้ทนายอันเฝ้าดูเกิงเฉินตายไปในคลื่นพายุลูกนี้เฉยๆ มันก็ออกจะน่าเสียดายนะสิ ถึงเขาจะเลว แต่ก็ไม่มีผลต่อความรู้สึกดีๆ ที่ทนายอันมีต่อคนดีๆ เหล่านั้นหรอก
เพียงแต่ว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้ ตั้งแต่เถ้าแก่ออกโรง หลังจากที่เถ้าแก่ใหญ่ปรากฏตัว มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจะมีส่วนร่วมได้อีกต่อไป ทนายอันยังมีความคิดในจุดนี้อยู่
เกิงเฉินเบิกตามองดูร่างแยกหาวจื้อที่เขาเพิ่งเรียกออกมาถูกกลืนกินทีละนิดๆ ความรู้สึกนี้คลายกับคนหิวแล้วคว้าเอาข้อศอกหมูหมักชิ้นใหญ่มาเริ่มแทะกิน
จู่ๆ เขาก็สงสัยว่าฉากนี้ใช่ความฝันหรือเปล่า หากไม่ใช่ความฝัน จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ความฝันใกล้จบลงอย่างรวดเร็ว เพราะขาหมูชิ้นใหญ่ถูกเคี้ยวจนไม่เหลือเศษซาก
โจวเจ๋อพลิกฝ่ามือ แดนอาคมที่แหวนทองสัมฤทธิ์สร้างไว้พลันมลายหายไป เขากวาดมองเกิงเฉินตรงหน้าด้วยหางตา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหรือทำอะไรเช่นกัน นิสัยเจ้าโง่ก็เป็นอย่างนี้ คนหรือเรื่องที่ไม่อยู่ในสายตาเขาล้วนขี้เกียจจัดการและสนใจ เนื้อหัวหมูจานใหญ่เพิ่มข้อศอกชิ้นใหญ่เข้าไปอีก อิ่มหมีพลีมันแล้วก็ถึงเวลาเข้านอน
โจวเจ๋อหลับตา ลืมตาอีกครั้งและกลับมาควบคุมร่างนี้ใหม่อีกครั้ง บางทีครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้รบราฆ่าฟัน แต่เป็นการเสริมบำรุง ดังนั้นหลังจากคืนร่างกายให้เขาจึงไม่เกิดสถานการณ์ที่อ่อนแอปวกเปียกจนถึงขีดสุดเหมือนเมื่อก่อน
แถมมีแม้กระทั่งความรู้สึกสบายสดชื่นและกระปรี้กระเปร่านิดหน่อยด้วย
เจ้าโง่ขี้เกียจเกินกว่าจะจัดการเรื่องต่างๆ เอง โจวเจ๋อจำต้องเข้ามาช่วยจัดการ เขามองเกิงเฉินตรงหน้าและพูดว่า “ฉันจะไม่ฆ่าแกก็ได้ แต่คงไม่อาจให้แกจากไปง่ายๆ แบบนี้”
หากเป็นเมื่อก่อน จะปล่อยให้เขาจากไปเลยก็ยังได้ ความลับแท้จริงของร้านหนังสือยังไงก็ไม่ถูกเปิดเผย
ในร้านหนังสือทงเฉิงนั้น บางทีผู้จับกุมอาจจะโชคดีสามารถเก็บผีดิบดีๆ สองสามตัวได้ สำหรับสายตาคนนอก มันเป็นความสามารถ แต่ไม่มีความรู้สึกตามสัญชาตญาณโดยตรง เดาว่าพวกอาวุโสในยมโลกเหล่านั้นก็คงคร้านจะสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ แต่ตอนนี้ต่างออกไป แม้ว่าเกิงเฉินจะไม่รู้จักตัวตนของเจ้าโง่นั่น แต่เมื่อไรที่เรื่องกลืนกินต้นกำเนิดหาวจื้อแพร่สะพัดออกไป หาประกันไม่ครบก็จะมีช่องโหว่เพราะเรื่องนี้อยู่บ้าง
โจวเจ๋อรู้ดีว่าเหตุผลที่เขาใช้ชีวิตว่างๆ สบายๆ ในตอนนี้ได้ จัดตั้งจวนเล็กๆ ของตัวเองในพื้นที่ทงเฉิงขึ้นมาได้ ก็แค่อาศัยว่าเป็นพื้นที่ห่างไกลและไกลหูไกลจากส่วนกลางก็เท่านั้น
การอำพรางใบรับรองยมทูตพิเศษของตัวเองบวกกับการจัดการยมทูตระดับรากหญ้าของโยมโลกเริ่มอ่อนกำลังลงทุกวัน ทำให้ช่วงสองปีที่ผ่านมาโจวเจ๋อไม่ได้เผชิญการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างจริงๆ จังๆ จากยมโลก
เขาอยากมีชีวิตที่แสนวิเศษนี้ต่อไป จึงต้องเรียนรู้ป้องกันข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ
“ข้าต่างจากอันปู้ฉี ข้าไม่อาจเป็นลูกน้องของเจ้าได้ ตอนนี้เจ้าเลือกฆ่าข้าได้เลย คนตายเก็บความลับได้ดีที่สุด”
คุ้นเคยฉากนี้ดี เหมือนในหนังต่อต้านสงครามที่ฝ่ายถูกจับมายอมตายมากกว่ายอมจำนน
“เถ้าแก่” ทนายอันเดินเข้ามา
“ส่งเขาให้คุณจัดการแล้วกัน มั่นใจไหม”
“ฆ่าทิ้งไปเลยครับ เถ้าแก่”
ทนายอันตัดจบได้ตรงไปตรงมามาก ไม่ใช่ว่าไม่ไว้หน้าผู้นำ แต่เขารู้ดีว่าต่อให้คนตรงหน้านี้ไปถึงร้านหนังสือแล้วก็ตาม แต่ตัวอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่ใจอยู่ฝั่งเดิม
โจวเจ๋อลังเลครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “เอางี้แล้วกัน คุณเก็บไว้ในร้านหนังสือก่อน ในช่วงระยะนี้หากพบเบาะแสต้นกำเนิดหาวจื้อส่วนอื่นๆ พวกเราช่วยแกตัดมันออกไปได้ ฉันจะบอกความจริงบางอย่างให้แกฟัง น้ำในครั้งนี้ลึกมาก ลึกเสียจนฉันขี้เกียจเกินกว่าจะฉกฉวยโอกาสในช่วงชุลมุนต่อไปน่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล