ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 836

สรุปบท ตอนที่ 836 คลายผนึก!: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 836 คลายผนึก! – ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 836 คลายผนึก! ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 836 คลายผนึก!

……….

โจวเจ๋อหลับสนิท

นอนหลับยาวจนถึงสองทุ่ม

พอลืมตาขึ้นก็หยิบหนังสือพิมพ์ที่ปกหน้าเขาออก เห็นอิงอิงนั่งอยู่ข้างตัวเอง ในมือถือ ‘หนังสือการฝึกฝนทักษะของสาวใช้’ เล่มนั้นที่ดูเหมือนจะอ่านไม่จบตลอดไป

มิน่าล่ะเขาถึงได้นอนหลับยาว เดิมทีแค่อยากหลับตาพักผ่อนครู่หนึ่ง ใครจะไปรู้ว่าอิงอิงจะโน้มเข้ามาแนบชิด

“เถ้าแก่ ตื่นแล้วหรือ” อิงอิงวางหนังสือ

โจวเจ๋อพยักหน้า ผุดตัวลุกจากโซฟาและเดินไปล้างตัวในห้องน้ำ อาบน้ำอาบท่าใหม่อีกรอบ

นักพรตเฒ่าที่เพิ่งฟื้นชีวิตจิตใจเดินเข้าร้านหนังสือมาในเวลานี้พอดี เขาเพิ่งเอาผลไม้ไปส่งให้โกวซินที่นอนอยู่ร้านขายยาข้างบ้าน ทำเอาจนเจ้าหนุ่มนั่นซาบซึ้งไม่ไหว ขอร้องตัวเองทั้งน้ำตาว่าอย่าเกรงใจขนาดนั้น

“เอ๊ะ เถ้าแก่ล่ะ”

“ไปอาบน้ำเจ้าค่ะ”

นักพรตเฒ่าได้ยินดังนั้นจึงแคะหู นอกจจากนั้นยังมีพันผ้าก๊อซไว้รอบหน้าผากเขาด้วย “หึ เถ้าแก่วันๆ หนึ่งนี่ใช้น้ำเปลืองเหลือเกิน”

เจ้าลิงน้อยนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หลังบาร์ จ้องหน้าจออย่างไม่ละสายตาและกำลังเล่นเกม Dota อยู่

“มองหน้าจอให้มันห่างๆ หน่อย”

ชายชราเดินไปหาพลางยื่นมือไปเชยหน้าผากเจ้าลิงน้อย จากนั้นเดินไปที่ตู้เย็นเล็กๆ ใต้บาร์แล้วหยิบเอาน้ำแข็งจำนวนหนึ่งออกมา ลูบๆ ในมือให้มันชุ่มแล้ววางบนหน้าผากพร้อมนวดเบาๆ

ให้ตายเถอะ

ตอนนี้พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว นักพรตเฒ่ารู้สึกโมโหมาก ทำไมเขาถึงได้ซวยขนาดนั้น โดนหินก้อนนั้นกระแทกเข้าหน้าเต็มๆ

สาวน้อยโลลิและเด็กชายนั่งเขียนการบ้านอยู่มุมร้านหนังสือ นักพรตเฒ่าเหลือบมองตรงนั้นแล้วพึมพำในใจ การบ้านชั้นประถมมหัศจรรย์นี่ทำไมถึงทำไม่เสร็จสักทีนะ

“เฮ้ นักพรตเฒ่า!”

เจิ้งเฉียงเดินมาจากร้านอินเทอร์เน็ตฝั่งตรงข้ามและโบกไม้โบกมือให้นักพรตเฒ่า

นักพรตเฒ่าเดินไปหา แม้ว่าหัวหมูกับขาหมูจะโดนกินไปแล้ว แต่สัญญาณเตือนภัยก็ยังไม่หมดไป ฉะนั้นยมทูตที่อยู่นอกเมืองพวกนี้จำต้องอยู่ร้านหนังสือไปสักพัก

“ทำไมหรือ” นักพรตเฒ่าตอบอย่างราบเรียบ ท่าทางนี้ผึ่งผายไปด้วยความเย่อหยิ่งตามธรรมชาติเมื่อเจ้าหน้าที่ส่วนกลางเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

“พ่อค้าชาแถวๆ ที่ผมอยู่บอกว่าแถวๆ ทงเฉิงมีตลาดชาเปิดใหม่ คืนนี้ไปชิมลางด้วยกันไหม”

นักพรตเฒ่าอึ้งไปครู่หนึ่ง และปฏิเสธ “ข้าชอบ (สาว) ชา แก่ๆ น่ะ”

“ดื่มเดิ่มอะไร ออกไปกับผม!” ทนายอันวิ่งเหยาะๆ ลงบันไดมาได้ถูกจังหวะพอดี

นักพรตเฒ่าสบตากับเจิ้งเฉียง ประหลาดใจมากที่ทนายอันอยู่ไกลขนาดนั้นทำไมถึงได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคนคุยกันได้

ทนายอันถือแผนที่ทงเฉิงในมือพลางโบกๆ และพูด “คุณ ไปเรียกหลิวฉู่อวี่แล้วก็เยว่หยา ตามด้วย…” ทนายอันมองเด็กประถมสองคนกำลังทำการบ้านอยู่ในมุมแล้วชี้ไปทางสาวน้อยโลลิ

เด็กชายสัมผัสได้จึงเงยหน้ามองทนายอันด้วยสายตาราบเรียบ

ทนายอันรีบหมุนมือกลับมาจับลูบๆ ผมตัวเองและพูด “แค่พวกคุณยมทูตทั้งสามก็พอแล้ว ไปที่ที่หนึ่งกับผม”

“ครับ” เจิ้งเฉียงรีบพยักหน้า พร้อมกับหยิบมือถือออกมาโทรหาหลิวฉู่อวี่และเยว่หยาที่อยู่ร้านอินเทอร์เน็ต

นักพรตเฒ่าชี้ตัวเอง “ข้าก็ไปด้วยหรือ”

“…” ทนายอัน

ทนายอันมองนักพรตเฒ่าพลางแย้มรอยยิ้ม “ในบ้านจะขาดคนดูแลไม่ได้ พวกเราไปกันสามสี่คนก็พอแล้ว”

โจวเจ๋อบังเอิญอาบน้ำออกมาเห็นเข้าพอดีจึงถามขึ้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”

“มีเรื่องเกิดขึ้นกับลูกค้าเก่าผมนิดหน่อยค่ะ ก็คนที่ให้ข้อมูลผมก่อนหน้านี้น่ะ”

ทนายอันบุ้ยปากไปทางสวนผักข้างบ้าน หมายความว่าเป็นคนที่ให้ข้อมูลที่ตั้งของเกิงเฉินก่อนหน้านี้

โจวเจ๋อรู้มาโดยตลอดว่า ทนายอันบริหารเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของเขา และติดต่อกับกองกำลังบางส่วนในแดนนรก ส่วนในแดนมนุษย์ก็มีลูกค้าจำนวนมากที่ทนายอันเคยลักลอบนำเข้ามาเมื่อในอดีต และลูกค้าเหล่านี้ก็มีช่องทางในการติดต่อกับนรกด้วยเช่นกัน

“เรื่องอะไร”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ” ทนายอันยักไหล่ “ส่งข้อความมาให้ผม แล้วพอผมโทรกลับไปหาก็โทรไม่ติดแล้ว ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่ อาจถูกฆ่าไปแล้วก็ได้”

ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ อาจถูกฆ่าไปแล้ว อืม…

ถ้อยคำนี้ฟังดูแล้ว ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ นะ

“ผมจะพาคนไปดูก่อน จะไปยืนยันให้แน่ใจก่อนว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดาหรือยังมีสาเหตุอื่นอีก เขาอาศัยอยู่ที่หรูเกาน่ะ”

โจวเจ๋อพยักหน้า แต่ไม่วายถามอีก “เรื่องอาจารย์สวี่ชิงหล่างล่ะ”

“เหล่าสวี่บอกว่าวันก่อนสัมผัสได้ถึงทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อวานสัมผัสถึงทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตอนนี้อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ตำแหน่งไกลเกินไป สัมผัสก็เลยไม่ชัดเจน ยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะถ่อไปที่ไหน ยังไงก็ต้องรอยืนยันตำแหน่งแล้วพวกเราค่อยเคลื่อนไหว เดี๋ยวไปลงใต้ เดี๋ยวขึ้นเหนือ ไม่มั่นใจจริงๆ”

เมื่อพูดจบ ทนายอันก็พยักหน้าให้โจวเจ๋อ “เถ้าแก่ งั้นผมไปก่อนนะ”

“อาหารเย็น…”

“พวกเราจะกินระหว่างทาง” ทนายอันเดินจากร้านหนังสือพร้อมเจิ้งเฉียง ขึ้นรถขับไปหน้าร้านอินเทอร์เน็ตและรอให้พวกเยว่หยาออกมา

โจวเจ๋อหันกลับมามองนาฬิกาแล้วถามนักพรตเฒ่า “พวกคุณกินอาหารเย็นไปหรือยัง” ถึงเขาจะนอนหลับก็ไม่มีทางไม่เรียกเขามากินข้าวนี่นา

สาวน้อยผิวเข้มนั่งบนรถเข็น หยิบแก้วตวงน้ำผลไม้แล้วยื่นให้โจวเจ๋อ

โจวเจ๋อรับน้ำผลไม้มาพร้อมกับถาม “คุณนอนบนกองฟางสิ เดี๋ยวผมจะคลายผนึกให้”

สาวน้อยผิวเข้มได้ยินดังนั้นก็ตื่นเต้นเกินบรรยาย แต่ก็ดูเหมือนจะไม่สบายใจเล็กน้อยราวกับกำลังลังเลอะไรอยู่ แล้วก็พูด “จริงๆ แล้ว ข้าคุ้นเคยกับมันแล้วน่ะ”

ทำงานใกล้ชิดกับคนใหญ่คนโต ย่อมอันตรายเหมือนอยู่กับเสือ ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงกลัวในร่างกายของคนผู้นี้ตรงหน้าก็ยิ่งยั่วยุไม่ได้ด้วย

“ผมไม่มีเวลามาเล่นปากว่าตาขยิบกับคุณนะ นอนลงสิ”

ถ้าคนเราทำผลงานได้ดี ก็ต้องให้รางวัลอย่างงาม เถ้าแก่โจวจ่ายเงินเดือนไม่ไหว แต่อย่างน้อยก็สามารถช่วยคนอื่นเขาคลายพันธนาการลงได้

การต่อสู้แบบแท็กทีมในช่วงกลางวัน โจวเจ๋อมองเห็นความสามารถของเดดพูลแล้ว อีกทั้งนั่นยังอยู่บนพื้นฐานที่ยังไม่ได้เต็มที่ แต่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าสาวน้อยผิวเข้มฝึกฝนเดดพูลได้ดีแค่ไหน

จะปล่อยให้คนอื่นเขานั่งรถเข็นหรือคลานปลูกผักบนพื้นก็ไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ

สาวน้อยผิวเข้มนอนลงบนเตียงกองฟางอย่างเชื่อฟัง เหตุผลที่นอนตรงนี้ไม่ใช่เพราะสภาพที่ไม่เอื้ออำนวย แต่เป็นเพราะหลอดเหล่านี้จะยังคงอยู่ในสภาพที่นุ่มที่สุด แห้งที่สุด และอบอุ่นที่สุดอยู่ตลอด สบายยิ่งกว่านอนบนที่นอนยี่ห้อซิมมอนส์ที่ขายในห้างสรรพสินค้าเสียอีก

โจวเจ๋อดื่มน้ำผลไม้ ปล่อยมือให้แก้วร่วงลงและเถาวัลย์งอกจากพื้นดินรับเอาแก้วนั้นไป

จากนั้น โจวเจ๋อเดินไปข้างๆ สาวน้อยผิวเข้มและนั่งยองๆ เล็บสิบนิ้วค่อยๆ งอกยาวและวางพาดบนเข่าของสาวน้อยผิวเข้ม ประมาณสามสิบวินาที โจวเจ๋อยกมือขึ้นจนด้ายสีดำทั้งสิบเส้นถูกดึงออกจากปลายนิ้วของโจวเจ๋อแล้วกระชากมันอย่างแรงจนขาด

“กรี๊ดดดดดด!!!!!!” สาวน้อยผิวเข้มกรีดร้อง แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกโล่งสบายสุดๆ ทันที

“เหล่าโจว ช่วงนี้คุณเรียนวิชาค่ายกลด้วยเหรอ” สวี่ชิงหล่างถามอย่างสงสัย

จงรู้ไว้ว่า นั่นเป็นผนึกที่อิ๋งโกววางไว้ คิดไม่ถึงว่าโจวเจ๋อจะคลายมันออกอย่างง่ายดาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สวี่ชิงหล่างไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายการตื่นขึ้นของอิ๋งโกวเลย

พูดอีกอย่างคือ โจวเจ๋ออาศัยพลังของตัวเองทำลายผนึกจนสำเร็จนั่นเอง

โจวเจ๋อส่ายหน้าและพูด “ไม่ได้เรียน ไม่ได้ยากอะไรนี่”

โจวเจ๋อสะบัดมือและเดินออกจากสวนผักกลับร้านหนังสือ

เกิงเฉินที่สองวิชาหุ่นเชิดให้สวี่ชิงหล่างก่อนหน้านี้เอ่ยพูด “ผนึกนั้นแข็งแรงมาก ข้าไม่เชื่อว่าเขาไม่รู้วิชาค่ายกล”

ส่วนสวี่ชิงหล่างหัวเราะพรื ทำสีหน้าจริงจังและพูด “ผมเชื่อว่าเขาทำไม่เป็น”

“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร…”

“บ้านเก่าสมัยก่อน ไม่ว่าประตูจะแข็งแรงแค่ไหนก็มักจะมีรูให้สุนัขเข้าออกได้ง่ายเสมอ”

“นี่เล่นปริศนาอยู่หรือ”

สวี่ชิงหล่างส่ายหน้าพูด “คุณไม่เข้าใจ”

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล