บทที่ 192 เย่เทียนเข้าสู่นิกายเทพจันทรา!
“36 จักรพรรดิ ตายไปถึง 16 คน?”
เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึก ความเสียหายนี้มันหนักหนาเกินไป! มันไม่ใช่“ใช่แล้ว คงจะมีการจัดลําดับจักรพรรดิใหม่อีกครั้ง แต่แน่นอนว่าผู้ที่ขึ้นมา แทนที่คงจะไม่แข็งแกร่งเท่าคนก่อน!” เสวียนเฟิงยกชาขึ้นดื่มก่อนจะกล่าวออกมา
“นายรู้ไหมว่าทําไมสัตว์อสูรจึงถอยออกจากรอยแยก?”
เย่เทียนถามด้วยความสนใจ
ถึงแม้เรื่องนี้เขาสามารถถามจักรพรรดิจันทราได้ แต่หลังจากคิดอย่าง รอบคอบแล้ว ในเวลานี้จักรพรรดิจันทราต้องยุ่งมากแน่ๆ หลังจากไม่ได้อยู่ใน นิกายเป็นเวลานาน ตอนนี้ภาระของเธอคงจะหนักมาก
เขาจึงไม่อยากรบกวนเธอเพราะปัญหาเพียงแค่นี้
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ได้ยินมาว่ามีสมบัติล้ําค่าปรากฏขึ้นในโลกของสัตว์“สมบัติ!”
เย่เทียนนึกถึงศิลาเทพสงครามและศิลาบรรลุวิถี บางทีสมบัติเช่นนี้ก็เพียงน่าเสียดายที่ในตอนนี้เขายังค่อนข้างอ่อนแอ มิฉะนั้นเขาคงจะไปปล้นมันเช่นกัน
หลังจากแยกกับเสวียนเฟิงแล้ว เย่เทียนก็กลับไปยังหอสวรรค์
หอสวรรค์พัฒนาไปมากในช่วงนี้ มีปรมาจารย์และนักรบจํานวนมากเกิดขึ้นแม้ว่าเย่เทียนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่หอสวรรค์ที่มีระดับราชาคอยควบคุมอยู่ ก็จัด ว่าเป็นขุมกําลังเล็กๆที่แข็งแกร่ง เย่เทียนมอบเลือดสัตว์อสูรจํานวนมากที่ได้มา จากโลกของสัตว์อสูรให้กับเย่หยู และกําชับเธอเกี่ยวกับภารกิจบางอย่างก่อนจะกลับบ้านไป
เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็เห็นเสี่ยวเสวี่ยน ที่ในตอนนี้ตื่นขึ้นมาแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายท่าน ข้าแข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว!”
เมื่อเสี่ยวเสวียนเห็นเย่เทียน มันก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
“จริงเหรอ?”
เย่เทียนหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“กักขังมิติ!
เย่เทียนเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านมิติเพื่อปราบปรามเสี่ยวเสวี่ยน
ภายใต้ทักษะกักขังมิติ ความว่างเปล่าโดยรอบถูกแช่แข็ง เสี่ยวเสวียนมีพลัง เพียงระดับราชาขั้นสูงสุด เท่านั้น ไม่ว่ามันจะมีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ได้
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้น? ทําไมข้าถึงขยับไม่ได้?”
เสียงของเสี่ยวเสวียนดังก้องในจิตสํานึกของเย่เทียน
“เจ้าเป็นเพียงระดับราชา เจ้านายของเจ้ากําลังจะบรรลุระดับจักรพรรดิ เพียง กลเล็กๆน้อยๆของข้า เจ้าก็ไม่สามารถต่อต้านได้แล้ว ในตอนนี้เจ้ายังคิดว่าตัว เองแข็งแกร่งอยู่อีกหรือไม่?” เย่เทียนจงใจกระตุ้นเสี่ยวเสวียน
“พระเจ้า…. นายท่าน ท่านแข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยเหรอ? เสี่ยวเสวี่ยน เติบโตขึ้นแล้วไม่ใช่มังกรวัยเยาว์เช่นในอดีต อีกทั้งพรสวรรค์ของข้าครบเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ทําไมข้ายังคงอ่อนแออยู่”
ความภูมิใจของเสี่ยวเสวี่ยนถูกทําลายอย่างสมบูรณ์
เย่เทียนลูบหัวเสี่ยวเสวียนและกล่าว “เสี่ยวเสวียนเขาปลอบใจเสี่ยวเสวียนเพื่อไม่ให้มันสูญเสียความมั่นใจและความมุ่งมั่น
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ข้าบอกแล้วไงว่าตอนนี้ข้านั้นยอดเยี่ยที่สุด แล้วจะอ่อนแอ ได้อย่างไร!”
เสี่ยวเสวียนกล่าวมาด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้ง
“เสี่ยวเสวียน เจ้าต้องตั้งใจฝึกฝน ในอนาคตเจ้าจะต้องกลายเป็นมังกรที่ทรง พลังได้แน่! สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิพวกนั้นไม่คู่ควรที่จะยกรองเท้าให้กับเจ้า!”
เย่เทียนกล่าวชม
“อืม ข้าเข้าใจแล้วนายท่าน!!”
เสี่ยวเสวียนพยักหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่า ดวงตาของมันเปล่งประกาย มันเห็นด้วย กับคําพูดของเย่เทียนเป็นอย่างมาก
เย่เทียนไม่ได้แกล้งชมเสี่ยวเสวียน แต่เขาพูดออกไปตามความเป็นจริง
เมื่อครู่เขาได้ตรวจสอบพรสวรรค์ของเสี่ยวเสวียนแล้ว หลังจากมันได้ดูดซับ ลูกแก้วมังกรวารี พรสวรรค์ของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ประเภท: มังกรฟ้าโลหิตสงคราม
พรสวรรค์ทางสายเลือด: ระดับตะวัน
พรสวรรค์ด้านพละกําลัง: ลึกลับปลอม (70%)
พรสวรรค์ด้านการป้องกัน: ลึกลับปลอม (60%)
พรสวรรค์ด้วนความเร็ว: สูงสุด
พรสวรรค์กลืนกินโลหิต: ลึกลับปลอม (80%)
พรสวรรค์การบิน: สูงสุดพรสวรรค์ในการรักษา: สูงสุด
พรสวรรค์เสียงคํารามแห่งมังกร: สูงสุด
พรสวรรค์กระดูกโลหิต: ระดับสูง
พรสวรรค์จิตวิญญาณมังกร: สูงสุด
นอกจากพรสวรรค์ของกระดูกโลหิตแล้ว พรสวรรค์อื่นๆ ทั้งหมดล้วนอยู่ในการจะทําให้พรสวรรค์เหล่านั้นกลายเป็นระดับลึกลับที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องยาก
นอกจากนี้พรสวรรค์ระดับสูงสุดอื่นๆก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นพรสวรรค์ระดับความลึกลับได้ เพียงแค่เสี่ยวเสวียนต้องพยายามทําความเข้าใจกับความลึกลับของพรสวรรค์เหล่านั้น
ด้วยพรสวรรค์ที่มากมายและทรงพลังเช่นนี้ ในอนาคตเสี่ยวเสวียนจะแต่เย่เทียนก็ไม่ได้ชมเชยมันมากเกินไป เขาไม่ต้องการให้มันได้ใจเกินไป
หลังจากพักอยู่ที่บ้านหลายวัน เย่เทียนก็เตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังโลกของสัตว์อสูรเพื่อค้นหาพรสวรรค์ระดับลึกลับอื่น ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการบ่มเพาะของระดับจักรพรรดิในอนาคต ถ้าเขาอยู่ในฐานจงไห่ เขาไม่มีทางหาคัด ลอกพรสวรรค์ระดับลึกลับที่เขาต้องการได้ครบ
แต่ก่อนที่เขาจะจากไป เขาต้องไปพบจักรพรรดิจันทราและแจ้งให้เธอทราบนิกายเทพจันทรา ประตูนิกาย
เมื่อเย่เทียนมาถึงที่นี่ ศิษย์หญิงสองคนก็ออกมาจากนิกายเพื่อหยุดเขาไว้
“ห้ามเข้าไปด้านใน!”
“ฉันชื่อเย่เทียน ฉันมาหาจักรพรรดิจันทรา!
เย่เทียนกล่าว
“เย่เทียน!!!!”
ศิษย์หญิงทั้งสองตะโกนด้วยความประหลาดใจ
พวกเธอคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี ช่วงนี้พวกเขาพูดถึงเย่เทียนทุกวัน แต่ใครจะคิดว่าวันนี้เย่เทียนจะมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเธอ
“คงจะเป็นเย่เทียนจริงๆ ฉันเคยเห็นเขาจากรูปมาก่อน!”
ศิษย์หญิงคนหนึ่งกล่าวด้วยเสียงต่ํา
เมื่อยืนยันตัวตนของเย่เทียนได้แล้ว พวกเธอก็ไม่กล้าห้ามปรามอีก ศิษย์หญิง คนหนึ่งนําทางเย่เทียนเข้าไปในนิกายเทพจันทรา
ตลอดทาง
ศิษย์นิกายเทพจันทราจํานวนไม่น้อยต่างมองมายังเย่เทียนและพูดคุยกันแต่เย่เทียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขายังคงเดินต่อไปด้วยสีหน้าสงบ
ไกลออกไป
บนอาคารแห่งหนึ่ง
นักบุญจันทราและสาวใช้หลายคนต่างมองไปยังเย่เทียนที่กําลังมุ่งหน้าไปยังตําหนักของประมุขนิกายเทพจันทรา
“เย่เทียน นั้นเขา!”
ดวงตาคู่งามของนักบุญหญิงแห่งนิกายเทพจันทรามองเย่เทียนด้วยความเมื่อไม่นานมานี้ เย่เทียนยังคงอยู่ในระดับเดียวกันกับเธอ เย่เทียนยังรับภารกิจ ของเธอเพื่อช่วยเธอปราบสัตว์อสูร
ในเวลานั้นเธอยังคิดว่าเย่เทียนนั้นอ่อนแอกว่าเธอ
ใครจะรู้ว่าเย่เทียนจะกลายเป็นอันดับที่ 7 ของการจัดอันดับราชาได้อย่าง รวดเร็ว กลายเป็นราชาเจ็ดดารา และไม่นานเขาก็กลายเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ และมีพลังต่อสู่ในระดับมหาปราชญ์แซงหน้าเธอไปเป็นที่เรียบร้อย
เขากลายเป็นชายหนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในฐานจงไห่
แต่ใครจะคาดคิดว่าเย่เทียนจะเข้าสู่แวดวงของระดับจักรพรรดิและได้กลายเป็นคนสนิทของประมุขแห่งนิกายเทพจันทรา
เรื่องนี้ทําให้เกิดเสียงสนทนาไปทั่วนิกายเทพจันทรา ผู้อาวุโสของนิกายเทพจันทราหลายคนคัดค้านอย่างมาก แต่จักรพรรดิจันทราก็หาได้สนใจ
ความแข็งแกร่งของเธอทําให้ผู้อาวุโสทุกคนต่างหวาดกลัว และไม่มีใครซึ่งเป็นเรื่องที่นักบุญหญิงคุ้นเคยอยู่แล้ว
แต่จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังคงไม่เข้าใจ
เย่เทียนที่เดิมทีคบหากับเธอคล้ายกับเป็นสหาย แต่ตอนนี้ราวกับว่าเขากลายเป็นผู้อาวุโสของเธอ
“ท่านนักบุญหญิง ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดจักรพรรดิจันทราถึงดีกับเย่เทียนสาวใช้คนหนึ่งถามด้วยความสงสัย
“ฉันก็ไม่แน่ใจ ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดิจันทราคิดอะไรอยู่ บางทีอาจจะเป็นเหมือนอย่างเขาเลย เย่เทียนอาจจะช่วยชีวิตเธอไว้ ทําให้จักรพรรดิจันทรารู้สึกขอบคุณ!”
นักบุญหญิงพึมพํา
แต่ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่?
แม้ว่าเย่เทียนจะมีบุญคุณที่ช่วยชีวิต แต่หากเป็นเช่นนั้นเพียงแค่จ่ายค่า ตอบแทนก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทําไมจักรพรรดิจันทราถึงอนุญาตให้เย่เทียนเดิน ทางมาพบเธอในนิกายเทพจันทราได้ทุกเมื่อ ซึ่งมันเป็นการทําลายกดที่จักรพรรดิเทพจันทราเคยกําาหนดไว้?
มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์