บทที่ 207 ความตกตะลึงของเหล่าราชา!
จักรพรรดิจันทรา
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ร่างกายของทุกคนก็สั่นสะท้าน
จักรพรรดิไม่ใช่ค่าเรียกขานธรรมดาสามัญ ระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้คําว่าจักรพรรดิ ในยุคนี้มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งในระดับจักรพรรดิ์เท่านั้นถึงจะสามารถ ถูกเรียกว่าจักรพรรดิได้!
หรือว่าหญิงสาวที่มีหน้าตาราวกับนางฟ้าคนนี้จะเป็นผู้ฝึกยุทธในระดับจักรพรรดิ?
“คุณรู้จักฉันด้วยหรอ?”
จักรพรรดิจันทรามองไปที่หยุนเมิ่งหลี่
“ข้าน้อยเคยพบท่านจักรพรรดิจันทราที่ฐานทัพจงไห่มาก่อน!”
หยุนเมิ่งหลี่กล่าวด้วยความตื่นเต้น
นี่คือจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่ การที่เขาสามารถพูดคุยกับจักรพรรดิ์ได้นั้นเป็น เกียรติอย่างยิ่ง และผู้ฝึกยุทธ์ในระดับจักรพรรดิคนนี้คือจักรพรรดิจันทราผู้ก่อตั้ง นิกายเทพจันทรา และยังเป็นหนึ่งใน 36 จักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในฐานจงไห่
ในขณะเดียวกัน
ผู้ฝึกยุทธระดับราชาคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึงจนต้องจ้องมองไปที่ราชาหยุนเมิ่ง หลี่ ในตอนนี้หยุนเมิ่งหลี่พูดอย่างสุภาพเรากับเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์
แม้แต่เรียกตัวเองว่าข้าน้อย!
พวกเขาไม่สามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่งและสถานะของจักรพรรดิจันทรา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของหยุนเมิ่งหลี่
แต่ในวินาทีถัดมา คําพูดของเย่เทียนไม่เพียงแต่ทําให้หยุนเมิ่งหลี่ตกใจ“เยว่เอ๋อ คุณรออยู่ที่นี่ก่อน ฉันจะไปคุยกับพวกเขา”
เย่เทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อืม ไม่เป็นไรฉันจะไม่รบกวนคุณ!”
จักรพรรดิจันทราเดินไปหาเย่เทียนและจับมือของเย่เทียน
“ตกลง!”
เย่เทียนพยักหน้า
หยุนเมิ่งหลี่ที่อยู่ไม่ไกลนักหรี่ตาลง เขาไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็น
ตอนแรกที่เขาเห็นจักรพรรดิจันทรา เขาคิดไปว่าจักรพรรดิจันทรามาที่นี่โดยมีเย่เทียนเป็นผู้ติดตาม ซึ่งมันคล้ายกับบทบาทของลูกน้อง
แต่ตอนนี้เย่เทียนกลับเรียกจักรพรรดิจันทราว่าเยว่เอ๋อ และจักรพรรดิจันทรายังจับมือของเย่เทียนอยู่
พระเจ้า!
ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าจักรพรรดิจันทรามีนิสัยเย็นชา และไม่สนใจ ผู้ชายหรอกหรือ?ไฉนตอนนี้ถึงยืนจับมืออยู่เคียงข้างเย่เทียน?
นั่นคือจักรพรรดิ์!
เย่วหลิงเองก็ตกใจเช่นกัน เธอคาดเดาได้ว่าจักรพรรดิจันทราเป็นระดับจักรพรรดิ์อย่างแน่นอน นี่คือระดับที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่ตัวตนที่ แข็งแกร่งเช่นนี้กลับกลายเป็นผู้หญิงของเย่เทียนได้อย่างไรกัน?
วิลล่าของเย่เทียนนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก ด้วยจํานวนคนมากถึงเพียงนี้มันค่อนข้างจะอัดไปสักหน่อย
ดังนั้นหยุนเมิ่งหลี่จึงพาเย่เทียนและจักรพรรดิจันทราไปยังห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดในฐานทะเลมาร
ที่ด้านหน้าของห้องประชุมเย่เทียนและจักรพรรดิจันทรานั่งอยู่ด้วยกัน หยุน“หยุนเมิ่งหลี่ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือไม่?”
เย่เทียนเอ่ยถาม
หยุนเมิ่งหลี่ยืนขึ้นและกล่าวว่า “ท่านเย่เทียน ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรง รอยแยกมิติในครั้งนั้น ฐานทัพทะเลมารก็เงียบสงบมาก แม้ว่าจะมีสัตว์อสูรออก มาจากรอยแยกอยู่เสมอ แต่พวกมันก็ถูกกําจัดไปอย่างง่ายดาย ”
เย่เทียนถามอะไร หยุนเมิ่งหลี่ก็รับเล่าให้ฟังทีละเรื่อง
ทันใดนั้น
เย่เทียนกล่าวอย่างจริงจังว่า “หยุนเมิ่งหลี่ มีเรื่องหนึ่งที่ฉันจะต้องบอกคุณ ฉัน กําลังกําลังจะเข้าสู่โลกของสัตว์อสูรที่อยู่อีกฝั่งของรอยแยกระดับ 3 ดาว หวังว่าทางทะเลมารจะเตรียมจอมเวทย์ค่ายกลคอยเปิดขายคนระดับสูงสุดในระยะเวลา สั้นๆ ที่จริงแล้วฉันไม่จําเป็นต้องทําเช่นนี้ค่ายกลนี้ไม่มีผลต่อฉัน แต่หากทําลาย ค่ายกลไป ฐานทัพทะเลมารก็จะสูญเสีทรัพยากรไปไม่น้อยเช่นกันฉันจึงไม่ อยากทําเช่นนั้น ”
หยุนเมิ่งหลี่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจและกล่าวขึ้นว่า “ท่านเย่เทียน ผู้ฝึก ยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถผ่านรอยแยกมิติระดับ 3 ดาวได้ มิฉะนั้นมันจะเกิดผลสะท้อนกลับ!”
เย่เทียนโบกมือและพูดด้วยเสียงทุ้มต่ําว่า “ฉันเข้าใจดี แต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะเมื่อได้ยินดังนั้นหยุนเมิ่งหลี่ก็ตื่นตระหนกและตระหนักว่าเย่เทียนที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อหลายปีก่อนความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับ ศักดิ์สิทธิ์แล้ว และยังมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป
แม้แต่สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิก็ไม่สามารถที่จะฆ่าเขาได้
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเย่เทียนอาจจะแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก าก นอกจากนี้เย่เทียนยังเดินทางมาพร้อมกับจักรพรรดิจันทราที่เป็นผู้แข็งแกร่งและมีอํานาจอันดับต้นๆของฐานทัพจงไห่ หากเขากล้าโต้แย้งเย่เทียน ไม่ใช่ว่าเขากําลังรนหาที่ตายหรอกหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์