อดาวทมิฬเป็นสัตว์อสูรระดับต่า แต่ความเร็วของมันเหนือกว่าสัตว์อสูรระดับกลางส่วนใหญ่
ที่สําคัญกว่านั้นคือมีคนเคยพบเห็นเสือดาวทมิฬอยู่ใกล้ๆฐานหลินไห่ แต่เนื่องจากความเร็วมันรวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่นักรบชั้นยอดทั่วไปก็ยังตามมันไม่ทัน พวกเขาจึงยอมแพ้ที่จะล่าเสือดาวทมิฬ
“ป่าใบไม่โปรย!”
เย่เทียนพึมพําข้อมูลนี้
นี่คือที่ที่จะพบเสือดาวทมิฬ!
เย่เทียนไม่ค่อยรู้จักป่าใบไม่โปรยมากนัก เขารู้แค่ว่าป่าใบไม่โปรยนั้นกว้างใหญ่มาก ว่ากันว่ามันทอดยาวหลายพันลี้ และป่าใบไม้โปรยที่อยู่ใกล้ฐานหลินไห่นั้นเป็นเพียงชายขอบป่าด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
ป่าใบไม่โปรยตั้งอยู่ทางตะวันตกห่างจากฐานหลินไห่ 18 กิโลเมตร แต่น้อยคนนักที่จะเข้าไปในป่าใบไม่โปรย เหตุผลหลักก็คือไม่มีสัตว์อสูรอยู่รอบนอกของป่าใบไม่โปรย ส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่สัตว์ร้าย
เฉพาะสัตว์อสรบางตัวเท่านั้นที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าใบไม่โปรย และมักจะพบเพียงสัตว์อสูรระดับกลางและระดับสูง ยิ่งเข้าไปในป่าลึกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
แต่สัตว์อสูรในป่าใบไม่โปรยโดยปกติแล้วมันจะไม่ออกมาเพ่นพ่านด้านนอก ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบใดๆต่อฐานทัพหลินไห่
“การบ่มเพาะของเราก้าวหน้าช้ากว่าแต่ก่อนมาก ป่าใบไม่โปรยเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝน หากเราสามารถหาเสือดาวทมิฬเจอ เราจะบรรลุเป้าหมาย ถ้าหากเราไม่เจอมัน ก็ต้องคัดลอกพรสวรรค์ที่เหมาะสมและฝึกฝนต่อไปอีกซักระยะ!”ในความเป็นจริงเขาต้องการที่จะออกไปนานแล้ว เนื่องจากฐานหลินไห่เป็นเพียงฐานเล็กๆเท่านั้น การจะคัดลอกพรสวรรค์ที่เหมาะสมได้นั้นเป็นเรื่องยาก การอยู่ในฐานหลินไห่รังแต่จะทําความเร็วในการบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าช้าลง
ก่อนหน้านี้เขาเป็นห่วงน้องสาว แต่ตอนนี้เย่หยุได้เริ่มฝึกฝนแล้ว ภัยคุกคามจากตระกูลโม่นั้นถูกกําจัดออกไปแล้ว ตราบใดที่เขาจ้างคนคุ้มกันมาคอยปกป้องน้องสาว มันก็จะไม่มีปัญหาอะไร
“จะหาใครมาปกป้องเสี่ยวหย?”
เย่เทียนครุ่นคิด
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคนๆหนึ่ง หมาป่าวายุ…
หมาป่าวายุเป็นหัวหน้าทีมล่าหมาป่าวายุ ทีมนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในฐาน และความแข็งแกร่งของทีมนี้ก็ถือว่าไม่เลวนัก ตราบใดที่นักรบชั้นยอดไม่ได้ลงมือ ทีมหมาป่าวายุก็สามารถแก้ปัญหาได้
นอกจากนี้เขาไม่ได้ให้หมาป่าวายุคอยปกป้องน้องสาวของเขา เย่หยู ตลอดเวลา เขาเพียงแค่ต้องการให้คอยดูแลเย่หยูอยู่ห่างๆเท่านั้น
หมาป่าวายุมีสมาชิกในทีมหลายคน เพียงแค่ส่งนักรบหนึ่งหรือสองคนมาจัดการก็พอแล้ว
ดังนั้นเย่เทียนจึงไปหาหมาป่าวายุด้วยตัวเอง และนําเลือดสัตว์อสูรระดับกลางออกมาให้เขามากกว่าสิบชุดเพื่อเป็นค่าตอบแทน
และก็เป็นไปตามคาดหมาป่าวายุตอบตกลงทันที!
ป่าใบไม่โปรย
เมื่อเย่เทียนมาถึง เขาก็มุ่งหน้าเข้าไปในป่า ป่าแห่งนี้มีต้นไม้มากมายสูงตระหง่าน ต้นไม้ยักษ์เหล่านี้มันมีขนาดใหญ่มาก บ้างก็สูงหลายสิบเมตร และบางต้นก็สูงถึง 100 เมตร ต้นไม้แต่ละต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 เมตร หรือ 3-4 เมตร
หลังจากเดินไปเข้าไปในป่า เย่เทียนก็พบว่าที่นี่เหมือนกับที่ข้อมูลระบุไว้จริงๆ บริเวณรอบนอกแทบจะไม่พบเห็นสัตว์อสูร มีเพียงสัตว์ร้ายที่อ่อนแอบางตัวเท่านั้น
ราวกับว่าป่าใบไม่โปรยมีระบบการจัดอันดับที่เข้มงวด สัตว์ร้ายสามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่รอบนอกเท่านั้น ในขณะที่สัตว์อสูรอาศัยอยู่ภายใน แต่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ของสัตว์อสูรระดับสูงกว่าได้ตามใจชอบ
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขา ไม่ได้เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถืออะไร
เย่เทียนวิ่งลึกเข้าไปในป่าผ่านต้นไม่ใหญ่นับไม่ถ้วน จนกระทั่งเขาค่อยๆเห็นสัตว์อสูรบางตัวจึงหยุดลง
ที่นี่เป็นพื้นที่ของสัตว์อสูรแล้ว ดังนั้นเขาต้องระมัดระวังให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามที่นี่ก็สามารถพบเห็นสัตว์อสูรระดับสูงได้เป็นครั้งคราวหลายวันมานี้ เย่เทียนออกค้นหาเสื้อดาวทมิฬในหลายพื้นที่ แต่เขาก็ไม่เห็นมันแม้แต่เงา ระหว่างค้นหาเขาได้ฆ่าสัตว์อสูรระดับกลางไปหลายตัว ได้เลือดจากสัตว์อสูรระดับกลางมาไม่น้อย ตอนนี้เย่เทียนไม่ต้องกังวลเรื่องเลือดของสัตว์อสูรระดับกลางไปอีกหลายวัน
“หากเพิ่มขอบเขตการค้นหากว้างกว่านี้ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานเราอาจจะเจอร่องรอยเสือดาวทมิฬ!”
เย่เทียนกล่าวด้วยความคาดหวัง
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพบมนุษย์ที่นี่ ดังนั้นมันจะต้องเป็นสัตว์อสูรเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์