เมื่อทั้งสองได้พบกัน
“เย่เทียน ไม่ได้เจอคุณมาหลายเดือน แล้วทําไมจู่ๆ คุณถึงพึ่งติดต่อมาล่ะ?”
เย่วหลิงแสร้งทําเป็นโกรธ
“ผมออกไปล่าสัตว์อสูรในป่าหลายเดือนแล้ว!” เย่เทียนรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยและรีบอธิบาย
แน่นอนว่าเย่วหลิงรู้อยู่แล้วว่าเย่เทียนออกจากฐานทะเลมารไปการถามคําถามเช่นนี้ก็เพื่อจงใจหยอกล้อเย่เทียนเท่านั้น “มาว่าถึงธุระของคุณกันดีกว่า?”
เย่วหลิงกล่าว
เย่เทียนไม่ได้อ้อมค้อมและพูดออกมาตรงๆ
“ผมอยากจะถามคุณว่ามีวิธีใดที่จะกราบสัตว์อสูรหรือไม่?” เย่วหลิงมองเย่เทียนอย่างแปลกใจ”ฉันจําได้ว่าคุณมีสัตว์เลี้ยงสองตัวแล้วไม่ใช่หรอ? ทําไมคุณยังถามเรื่องนี้อีก?”
“อะแฮ่ม สัตว์อสูรทั้ง 2 ตัวนั้นยอมจานนเพราะผมข่มขู่พวกมัน แต่วิธีการจริงๆที่ใช้กำราบสัตว์อสูรผมไม่เคยรู้มาก่อน” เย่เทียนพูดอย่างจนปัญญา
“ข่มขู่?”
เย่วหลิงเบิกตากว้าง
สัตว์อสูรที่เมื่อถูกคุกคาม แล้วยอมจํานนนั้นแสดงว่าพวกมันฉลาดมาก!
เพราะสติปัญญาสูง มันจึงรู้จักวิธีรักษาชีวิตอย่างเช่นการยอมจํานน สัตว์อสูรที่มีสติปัญญาเช่นนี้เป็นสัตว์อสูรที่พบได้ยากมาก!
“คุณช่างโชคดีจริงๆ!” เย่วหลิงกล่าวด้วยความอิจฉา
เมื่อเผชิญหน้ากับคาถามของเย่เทียน เธอก็ตอบตามความจริง
“เย่เทียน มีหลายวิธีในการจะปราบสัตว์อสูร วิธีแรกคือการข่มขู่มันโดยตรงเช่นเดียวกับที่คุณทําแต่อัตราความสําเร็จของวิธีนี้นั้นต่าเกินไป วิธีที่ 2 คือการให้ยอดฝีมือระดับราชาดึงแสงจิตวิญญาณของสัตว์อสูรออกมาโดยตรงแล้วให้คนอื่นดูดซับมันทําให้มันยอมรับเป็นเจ้านายวิธีที่ 3 ให้ผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรกราบพวกมันด้วยพรสวรรค์และสร้างป้ายควบคุมสัตว์อสูรขึ้นมาตราบใดที่ใครก็ตามปรับแต่งป้ายควบคุมสัตว์อสูร ก็จะสามารถควบคุมพวกมันได้ได้หากคุณต้องการปราบอสูรที่ยากต่อการก่าราบคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้ควบคุมสัตว์อสูร แต่คุณก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายตามระดับของสัตว์อสูร”
“พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูร? มีพรสวรรค์เช่นนี้ด้วย!!!”
เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ด้วยพรสวรรค์ที่แปลกประหลาดนี้ เย่เทียนไม่จําเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
เขาเพียงแค่ไปคัดลอกพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรมาก็เท่านั้นเขาไม่จําเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ควบคุมสัตว์อสูรโดยตรง
“ขอบคุณมาก!”
เย่เทียนกล่าวขอบคุณ
“ฮ่าๆ พวกเราเป็นเพื่อนกัน แค่คําถามแค่นี้ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ถ้าหากคุณมาหาฉันช้ากว่านี้ฉันคงปิดด่านฝึกตนไปแล้ว “เย่วหลิงกล่าว
“คุณต้องการเก็บตัวเพื่อทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์หรอ?”
เย่เทียนคาดเดาและถาม
“อื้ม!” เย่ว์หลิงพยักหน้า “ฉันมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุดซึ่งสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารได้อย่างแน่นอนครั้งต่อไปที่เราพบกันฉันคงจะเป็นปร มาจารย์แล้วฉันคิดว่าคุณเองก็บรรลุถึงขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญแล้วสินะคุณควรทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์โดยเร็วที่สุดนอกจากปรมาจารย์จะมีอายุยืนยาวถึง 200 ปีแล้วระดับปรมาจารย์ยังสามารถรับรู้เรื่องราวอันน่าพิศวงมากมายที่นักรบผู้เชียวชาญไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้”
“ผมเข้าใจ!”
เย่เทียนยิ้มบางๆ และไม่ได้โต้แย้งเย่วหลิง
บางที่เย่วหลิงอาจจะรู้ข้อมูลการสร้างรากฐานสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว
แต่สําหรับคนส่วนใหญ่ การสร้างรากฐานสมบูรณ์แบบนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระดังนั้นเย่เทียนจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมา
เพราะเขารู้ดีว่าด้วยสถานการณ์ของเย่ว์หลิง ไม่มีทางที่จะสร้างรากฐานที่สมบรณ์แบบได้ แล้วไยต้องฝืนอีกเล่า?
หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็แยกย้ายกันไป
เย่เทียนไม่ได้กลับบ้าน แต่เดินไปที่สํานักงานใหญ่ของหอสัตว์อสูรซึ่งเป็นที่ที่ขายสัตว์อสูร
หอสัตว์อสูรเป็นขุมกาลังขนาดใหญ่ มีสาขามากมายในฐานทะเลมาร พวกเขาทําธุรกิจเกี่ยวกับร้านขายสัตว์อสูร
ภายในสานักงานใหญ่มีสัตว์อสูรอยู่เป็นจํานวนมาก หนึ่งในนั้นมีสัตว์อสูรชั้นยอดอยู่ไม่น้อย และพรสวรรค์กระดูกเพชรระดับสูงที่เย่เทียนคัดลอกในครั้งแรกก็ถูกคัดลอกมาจากสาขาของหอสัตว์อสูร
คราวนี้เขาเดินทางมายังสํานักงานใหญ่ของหอสัตว์อสูรโดยตรง
เพราะเขาเชื่อว่าผู้มีพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรของหอสัตว์อสูรจะต้องอยู่ที่นักงานใหญ่อย่างแน่นอน เมื่อตําแหน่งของอีกฝ่ายอยู่ในระยะของพรสวรรค์ในการคัดลอกแล้วเขาก็จะสามารถจําลองพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเดินเข้าไปในหอสัตว์อสูร พนักงานสาวสวยคนหนึ่งก็เริ่มแนะนําสัตว์อสูรทุกชนิดให้เย่เที่ยนรู้จัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์