อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 1137

ในที่นั้นมีคนใหญ่คนโตที่มีวิทยายุทธ์ล้ำเลิศมากมาย

ไม่ว่าจอมมารจะกระซิบเบาอย่างไร พวกเขาก็ยังได้ยินชัดเจน

ทุกคนหัวเราะเยาะอย่างอดไม่ได้ คนโง่งมคนหนึ่งจะรู้วิธีการทำลายค่ายกลอะไร

ไม่มีใครใส่ใจกับคำพูดของจอมมาร

แม้แต่กู้ชูหน่วนก็ไม่เชื่อว่าเขาทำลายค่ายกลได้เหมือนกัน

นางรู้วิธีการตั้งค่ายกลลึกซึ้ง แต่ค่ายกลนี้ นางดูจนปวดเศียรเวียนเกล้าแล้ว

นางทำลายได้ แต่ต้องใช้เวลา เร็วที่สุดก็ต้องสองสามวัน

ทว่าคนของแต่ละสำนักใหญ่จะรอนางสองสามวันได้อย่างไร

หากวันนี้อยากพาตัวอาโม่ไป ก็เป็นที่แน่ชัดว่าต้องเจอกับศึกหนัก

“วันนี้ข้าจะเฉือนเจ้าตายเสียก่อน แล้วค่อยจับเจ้าตัวอัปมงคลมาบูชายัญ เซ่นไหว้ฟ้าดิน”

ครั้นไป๋หลี่หยุนเยว่โบกมือ ผู้อาวุโสทั้งแปดของตระกูลไป๋หลี่ก็กระตุ้นค่ายกลพร้อมกัน

เมื่อค่ายกลก่อเกิด สายลมเมฆาเปลี่ยนสี ท้องนภาปลอดโปร่งในแต่เดิมมีเมฆดำมารวมกลุ่มแน่นขนัดในพริบตา สายอัสนีดังระงม

กลิ่นอายอันตรายแห่งความตายชนิดหนึ่งอบอวลอยู่กลางอากาศ

กู้ชูหน่วนตั้งสมาธิ คิดค้นวิธีการทำลายค่ายกล

นางรู้สึกได้ว่ามีเกลียวหมุนอยู่ในค่ายกล และกำลังรวมตัวกันช้าๆ

รอให้เกลียวหมุนนั้นหมุนได้ถึงระดับหนึ่ง อาจกลืนกินพวกเขาไปหมดเลยก็ได้

“อาโม่ เจ้ากลัวหรือไม่”

“ขอแค่ได้อยู่กับพี่สาว อาโม่ก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”

จอมมารยังคงแอบอิงอยู่ในอ้อมแขนของนาง แทบอยากเบียดเข้าทั้งตัว

เขาถามอย่างไร้เดียงสา “พี่สาว ท่านอยากเอาชีวิตพวกเขา หรือแค่อยากทำลายค่ายกลของพวกเขา”

“ก็ต้องอยากเอาชีวิตพวกเขาสิ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ง่าย นี่อย่างไร ท่านซัดฝ่ามือไปตรงนั้นทีเดียว พวกเขาก็ตายเกลี้ยงแล้ว”

แม้จะเป็นสถานการณ์ชุลมุน จ่านเฟิง จ่านหยุนและพวกพ้องกำลังห้ำหั่นกับคนของสำนักต่างๆ อยู่

แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ไม่ได้ร่วมศึกใหญ่

เมื่อได้ยินคำพูดของจอมมาร พวกเขาก็รู้สึกว่าเหลวไหล

แม้แต่ตระกูลไป๋หลี่ก็ดูแคลนจอมมารจากใจด้วย

ไม่เข้าใจว่าทำไมบรรพชนต้องกำชับหนักหนา หากเจอคนที่มีดวงตาต่างสีจะต้องกำจัดให้สิ้นซาก

ก็แค่คนโง่งมคนหนึ่งเท่านั้น

จะทำอะไรได้

หากค่ายกลพิทักษ์ตระกูลของตระกูลไป๋หลี่ทำลายได้ง่ายๆ อย่างนั้น ก็คงสืบทอดต่อกันมาเนิ่นนานอย่างนั้นไม่ได้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม