เถ้าแก่ร้านเกี๊ยวรีบขับไล่อย่างไม่ใยดี
ขอทานกระทืบเท้าเถ้าแก่ร้าน และพอได้ยินเสียงกรีดร้องเหมือนเสียงหมูโดนเชือดของเถ้าแก่ร้าน ขอทานคนนั้นก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ดวงตาสดใสแป๋วคนนั้นยิ้มจนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
พอเห็นว่าเถ้าแก่ร้านกำลังจะอาละวาด กู้ชูหน่วนก็คว้าแขนของขอทานและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้เพียงเถ้าแก่ร้านที่ยังยืนด่าสาปแช่งอยู่
หลังจากวิ่งมาได้สักพัก กู้ชูหน่วนก็หยุดวิ่ง
ขอทานคนนั้นยังคงหอบหายใจแรง แล้วด่าออกมา “เจ้าลากข้ามาทำไม ข้ายังกระทืบเท้าเถ้าแก่นั่นไม่พอเลย”
“เจ้าไม่เห็นว่ามีผู้ชายร่างใหญ่ตรงร้านขายกรงหน้าต่างกับช่างตีเหล็กมองเจ้าอยู่หรือ ถ้าข้าเดาไม่ผิด ทั้งสามคนเป็นพวกเดียวกัน ตอนนี้พวกพ่อค้าส่วนใหญ่จะร่วมมือกัน”
“งั้นก็ไม่ต้องให้เจ้ามาช่วยข้า”
“จ๊อกจ๊อก...”
มีเสียงท้องร้องดังมาจากท้องของขอทาน
กู้ชูหน่วนพูดยิ้มๆ “มีแผงขายบะหมี่อยู่ตรงนั้น ข้าเลี้ยงเจ้าสักชามไหม”
“ก็ได้”
ขอทานนั่งลงอย่างไม่มีพิธี เขาสั่งบะหมี่เนื้อมาหนึ่งชาม ขอเนื้อครึ่งชามและบะหมี่ครึ่งชาม
ฝูกวงพูดอย่างไม่พอใจ “นายหญิง เขาแค่คนแปลกหน้า ท่านจะไม่ตามใจเขามากไปหรือ”
“นางไม่รู้สึกว่าเขาหน้าคุ้นๆ หรือ?”
“ไม่ขอรับ”
ในทวีปปิงหลิง คนที่พวกเขารู้จักมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเคยรู้จักขอทานคนนี้มาก่อน
แม้แต่เลว่อิ่งเองก็รู้สึกว่าการมาคุยกับขอทานคนนี้เป็นการเสียเวลาเปล่า ถ้าใช้เวลาไปตามหาวิญญาณของนายหญิงมันคงจะดีกว่า
“ดวงตาของเขาคู่นี้ข้าเคยเห็นมาก่อน แต่เจ้าของดวงตาคู่นี้ที่ข้ารู้จักเป็นคนที่สุภาพอ่อนโยน และสมองเต็มไปด้วยความรู้”
หนึ่งชาม
สองชาม
สามชาม
สี่ชาม
ห้าชาม
แค่ช่วงที่พวกนางคุยกัน ขอทานคนนี้ก็กินบะหมี่ไปห้าชามแล้ว
เขาหิวมาก แต่ท่าทางการกินบะหมี่ของเขาไม่หยาบคาย แต่กลับสง่าและเหมาะสม ยากที่จะจินตนาการได้เลยว่าขอทานคนนี้จะกินอาหารได้สุภาพเหมือนชนชั้นสูงเช่นนี้
ฝูกวงเอ่ยเตือน “นายหญิง บะหมี่ชามละยี่สิบกษาปณ์ ตอนนี้เขากินชามที่หกแล้วนะขอรับ”
“ยี่สิบกษาปณ์ เหตุใดถึงแพงเยี่ยงนี้”
“ยี่สิบกษาปณ์ถือว่าถูกแล้วขอรับ ท่านดูเนื้อที่เขาขอเพิ่มสิ”
กู้ชูหน่วนปวดหัว
ทุกวันนี้อะไรก็ต้องใช้เงิน
จะออกไปทานอาหารธรรมดา ค่าใช้จ่ายก็สูงเช่นนี้แล้ว ถ้ารู้อย่างนี้นางไปหาจวนขุนนางกินฟรีดีกว่า
“เถ้าแก่ ขอบะหมี่เพิ่มอีกสามชาม เอาน้ำใส ไม่ใส่เนื้อ”
“แม่นาง แน่ใจนะว่าต้องการแค่บะหมี่น้ำใสไม่ใส่เนื้อ”
“ใช่”
ลูกค้าที่แผงขายบะหมี่ต่างก็มองไปที่กู้ชูหน่วน
คนกลุ่มนี้เสียสติไปแล้วหรือ?
ให้ขอทานกินอย่างดี
ส่วนตัวเองกินบะหมี่น้ำใส
หรือว่าขะทานอาหารรสเลิศมามากแล้ว จึงอยากลองกินอาหารมังสวิรัติดู
ขอทานซ้อนชามใบที่เจ็ดรวมกับใบอื่นๆ ก่อนจะลูบท้องที่อิ่มจนบวมเป่งของเขาอย่างสบาอารมณ์ “อิ่มจัง เนื้อร้านนี้อร่อยมาก เหตุใดพวกท่านถึงไม่กินล่ะ”
กู้ชูหน่วนหน้าบึ้ง
นางก็อยากกิน
แต่นางไม่มีเงินกินแล้ว
แต่สมบัติของนางทั้งหมดถูกนำไมช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว จะกินอะไรได้อีก
“ข้าอยากลดน้ำหนัก จึงไม่กินเนื้อสัตว์”
“เจ้าก็ไม่ผอมอยู่แล้วนี่นา”
“เจ้าไม่ใช่ขอทาน เหตุใดถึงปลอมตัวเป็นขอทาน”
“ก็ข้าเป็นขอทานจริงๆ”
“ขอทานคนไหนถึงมีหยกขาวเฮเทียนแบบโบราณติดตัวอย่างเจ้า”
กู้ชูหน่วนชี้ไปที่หน้าอกของเขา
ขอทานรีบซ่อนหยกขาวเฮเทียนแบบโบราณไม่ให้ใครเห็น
“เจ้าชนข้า ข้าจับตัวเจ้า เจ้ากระทืบเท้าเถ้าแก่ร้านขายเกี๊ยว ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ แล้วตอนนี้เรายังมากินข้าวด้วยกันอีก นี่ถือว่าถือเป็นชะตาลิขิตหรือเปล่า”
“ก็ถือว่าใช่อยู่”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าช่วยเผยใบหน้าที่แท้จริงให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม