อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 244

เย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดต่างก็มุมปากกระตุก

ฝีมือการแสดงนี้

เขาเป็นถึงจอมมาร ไม่อายบ้างหรืออย่างไร

โดยเฉพาะเวินเส้าหยีที่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

สู้กับเย่จิ่งหานมานานหลายปี ไม่เคยมีบทสรุปสักที

วันนี้ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสทำลายเขา เหลือแค่กระบวนท่าสุดท้ายแล้ว ขอเพียงจอมมารร่วมมือกับเขา ใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าเย่จิ่งหานจะไม่ตาย แต่ก็ต้องพิการ

แต่ในเวลาที่กำลังจะใช้กระบวนท่าสุดท้าย จอมมารกลับเก็บฝ่ามือ

จอมมารวางมือไป ทำให้แรงกดดันของเย่จิ่งหานคลายลงไปไม่น้อยในทันที

"โครม……"

สองฝ่ามือปะทะกัน ภูเขาลูกเล็กๆที่อยู่ไกลออกไปถูกพวกเขาทำลายจนกลายเป็นพื้นราบ

เวินเส้าหยีโจมตีอยู่นานแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนกลยุทธ์เลยแล้วกัน หันไปโจมตีร่างกายส่วนล่างของเย่จิ่งหาน

พลังภายในของเหล่าองครักษ์ลับต่ำกว่าจอมมารไม่น้อย ได้ยินเสียงร้องเรียกของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าทำไมท่านจอมมารจึงยอมปล่อยมือกะทันหัน แต่ก็ทำให้โล่งใจได้เปลาะหนึ่ง ต่างก็หันไปต่อว่าเวินเส้าหยีอย่างโมโห

"หัวหน้าเผ่าน้อยเทียนเฟิ่นช่างน่าไม่อาย ยุยงให้ท่านจอมมารร่วมมือกับเขา ใช้กำลังมากกว่ารังแกคนที่มีกำลังน้อยกว่าก็แล้วไปเถอะ แต่ถึงกับรังแกท่านนายของพวกเราที่แข้งขาไม่สะดวก"

"ใช่แล้ว อย่างน้อยก็เป็นคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงโด่งดังในใต้หล้านี้ แต่กลับใช้แผนการชั่วร้ายเช่นนี้"

จอมมารไม่สนใจว่าพวกเขาจะแพ้หรือชนะ จะเป็นหรือตาย ดวงตาหรี่ยาวราวกับหงส์จ้องมองไปทางด้านหน้าเขม็ง และจัดระเบียบเสื้อผ้าสีแดงเพลิงที่ดูเรียบรื่นของเขาอยู่เป็นระยะ

รออยู่นาน เงาร่างสีเหลืองอ่อนนั้นก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาสักที จอมมารกำลังลังเลว่าจะวิ่งไปหานางดีหรือไม่

เย่จิ่งหานพูดเสียงขรึมว่า "รีบลงเขาไปเป็นกองหนุนพระชายา เร็วเข้า"

"พ่ะย่ะค่ะ ท่านนาย"

ฟิ้วๆๆ

เงาสีดำจากไปทีละสาย รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ

ไม่ไกลนัก

กู้ชูหน่วนวิ่งอย่างรวดเร็วตลอดทาง

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้กับเจ็ดผีแห่งภูเขาหยินก็ไล่ตามไม่ลดละ ทั้งสองฝั่งต่างก็ใช้ความเร็วสูงสุด

เมื่อเห็นว่าจะถูกไล่ตามทันแล้ว กู้ชูหน่วนจึงได้แต่ร้องเรียกเย่จิ่งหานไม่หยุด หนึ่งคือหวังจะขู่ให้คนที่ตามมาข้างหลังกลัวจนถอยไป สองคือหวังว่าเย่จิ่งหานจะมาช่วยได้ทันเวลา

เสียงเรียกของนางไม่สามารถดึงดูดเย่จิ่งหานมาได้ แต่กลับดึงดูดชายหนุ่มที่สวมชุดสีเขียวทั้งตัวที่ชื่อซูมู่มาแทน

เมื่อชายหนุ่มคนนั้นปรากฏตัวขึ้น ก็ขวางทางหัวหน้ากองธงกล้วยไม้กับเจ็ดผีแห่งภูเขาหยินเอาไว้ เสียดายที่พวกหัวหน้ากองธงกล้วยไม้มีวรยุทธที่สูงส่งเกินไป เขาพยายามสุดความสามารถก็ขัดขวางไว้ได้แต่หัวหน้ากองธงกล้วยไม้กับผู้พิทักษ์วชิระอีกสองคนเท่านั้น

พวกพี่ใหญ่หยินแค้นจนแทบอยากจะสับกู้ชูหน่วนเป็นหมื่นชิ้น

ผู้หญิงคนนี้ เกิดปีจอหรืออย่างไรจึงกัดไม่ปล่อย

ไม่มีวรยุทธแท้ๆ แต่วิชาตัวเบากลับร้ายกาจมาก

เมื่อเห็นว่าเข้าใกล้ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้เข้าไปทุกที หัวใจของหยินต้ากุ่ยก็ยิ่งอยู่ยิ่งไม่เป็นสุข

เขาพลางไล่ตาม พลางประสานนิ้วมือทั้งสองข้าง ฝ่ามือที่แข็งแกร่งฟาดไปยังกู้ชูหน่วนครั้งแล้วครั้งเล่า

ใต้ฝ่ามือที่ครอบคลุมลงไป แม้จะเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทาน ก็ยากที่จะติดปีกบินหนีได้ แต่นางกลับเหมือนปลาไหล หลบซ้ายหลีกขวา ถูกนางหลบหลีกได้ทั้งหมด

ไม่ง่ายเลยกว่าจะถูกคลื่นพลังฝ่ามือกวาดเข้าให้ แต่ก็แค่เซไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น และยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

"สับร่างนางให้เป็นหมื่นท่อนไม่ได้ ข้าก็ไม่ขอแซ่สวี"สวีซานเหนียงกัดฟันกรอด

น่าขายหน้าจริงๆ

พวกเขาเจ็ดผีแห่งภูเขาหยินออกโรงพร้อมกัน แต่กลับไล่ตามนังเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีวรยุทธไม่ทัน หากพูดออกไปคงต้องถูกหัวเราะเยาะเป็นแน่

ที่น่าแค้นใจที่สุดคือ ผู้หญิงคนนี้พลางวิ่ง พลางประชดประชันพวกเขา แม้นางจะไม่ได้พูดจาหยาบคาย แต่ทุกคำพูดล้วนแทงใจดำ ทำเอาพวกเขาโกรธจนเลือดลมพลุกพล่าน

"ไม่ได้ จะไล่ตามต่อไปไม่ได้แล้ว "หยินต้ากุ่ยกวาดตามองไปทางทิศตะวันเฉียงใต้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง

"พี่ใหญ่ ที่หนีอยู่ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะหนึ่ง นางถูกมือโลหิตของข้า แล้วยังถูกคลื่นพลังฝ่ามือของท่านทำร้าย คงหนีไปได้ไม่ไกล"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม