ก้นหลุมดำ ลมหมุนพัดพวกเขาเป็นระลอกจนหน้ามืดสมองโต โอนไปเอนมา สุดท้ายก็ตกสู้พื้นแรงๆ ดังตุบ
กู้ชูหน่วนเกือบกระแทกเป็นลม เคราะห์ดีที่ผิวพื้นนิ่ม มิเช่นนั้นนางต้องกระแทกตายแน่
ทันใดนั้นเอง นางก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ ครั้นลืมตาดู กลับพบว่าตัวเองมิได้ตกอยู่บนพื้นนิ่ม แต่ตกอยู่บนตัวชายหนุ่มชุดขาวผมขาว
กู้ชูหน่วนเจ็บแปลบในใจ รีบประคองเขาขึ้นมา “พี่เฉินเฟย ท่านฟื้นสิ...”
กู้ชูหน่วนยื่นมือ กลับคลำได้ของเหนียวๆ ครั้นตั้งใจมอง ไม่ใช่เลือดแล้วจะเป็นอะไร?
มุมปากอี้เฉินเฟยทะลักเลือด ตามตัวมีหลายจุดที่ถูกหินแหลมคมทำจนเป็นบาดแผลทั้งตัว ชุดสีขาวปานหิมะถูกเลือดเปื้อนสีแดง
ข้างใต้อันมืดมิด ใบหน้าของเขาขาวซีด ไม่มีสีเลือดสักนิด เพียงแต่ใบหน้าอ่อนโยนยังมีรอยยิ้มปลื้มใจหนึ่ง เอ่ยอย่างอ่อนแรง “เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
กรอบตากู้ชูหน่วนแดงโดยพลัน “ท่านช่างโง่นัก ทำไมถึงดีกับข้าเช่นนี้ ข้ามีอะไรคู่ควรให้ท่านช่วยด้วยชีวิตเช่นนี้?”
“เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า...”
“ท่านเจ็บสาหัสมาก อย่าเพิ่งพูด ข้าจะทำแผลให้ท่าน”
“ไม่...ไม่ต้องแล้ว”
ชีวิตเขาเหลือไม่มาก ไม่ว่าจะรักษาอย่างไรก็เปลืองแรงเปล่า ไม่จำเป็น
ในถ้ำมิได้ยะเยือกน่ากลัวอย่างที่พวกเขาคิดขนาดนั้น ที่นี่อบอุ่นดั่งวสันตฤดู ร้อยบุปผาบานสะพรั่ง ผีเสื้อร่ายรำ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี ประหนึ่งแดนสวรรค์นอกโลกา หากรอบทิศมิใช่หน้าผา ทั้งยังมีหินหลอมเหลวทะเลเดือนพลุ่งพล่าน พวกเขายังอยากปักหลักอยู่ที่นี่ระยะยาว
ที่แปลกก็คือ ที่นี่มีทะเลเดือด แต่ดอกไม้ใบหญ้าที่นี่กลับเบ่งบานสดใสขนาดนั้น
ที่นี่นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ก็ไม่มีผู้อื่น พวกเย่เฟิงก็ไม่รู้ว่าถูกลมหมุนพัดไปแห่งหนไหนแล้ว
กู้ชูหน่วนไม่สนใจถ้อยคำของอี้เฉินเฟย ดึงดันทำความสะอาดพันแผลให้เขา แล้วยังฝังเข็มให้เขาอีก ระงับบาดเจ็บภายใน
ด้วยการนี้ ความทรมานในร่างของอี้เฉินเฟยจึงดีขึ้นมาก แต่สีหน้ายังขาวซีดเหมือนเดิม
กู้ชูหน่วนประคองเขาให้นั่งที่ภูเขาปลอม ล้างสิ่งสกปรกให้เขาไม่สุ้มเสียง
ดวงหน้าอี้เฉินเฟยแขวนรอยยิ้มจางๆ มองนางอย่างตาไม่กะพริบ
“อาหน่วน ท่าทางเจ้าขมวดคิ้ว ดูแย่”
“ท่าทางท่านกระโดดหน้าผาแย่ยิ่งกว่า” กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
ความคิดของอี้เฉินเฟยล่องลอยออกไปไกลเล็กน้อย น้ำเสียงพร่า “เมื่อก่อน ก็มีคนบอกกับข้าเช่นนี้เหมือนกัน”
“อ้อ...ใคร? ผู้หญิง?”
“อือ...ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก จิตใจดีมาก แล้วก็โง่มากด้วย”
“รักแรกของท่าน?”
อี้เฉินเฟยไม่ได้บอกความสัมพันธ์กับนางชัดเจน เพียงแต่ขมวดคิ้วหมึกแน่น เอ่ยกว่าเจ็บปวดเล็กน้อย “นางเป็นคนที่น่าสงสารมากคนหนึ่ง เกิดมาก็แบกภาระหนักหนา ชีวิตนับพันนับหมื่นนับสิบรุ่นล้วนกดอยู่บนบ่านาง ข้าเห็นนางล้มครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็ลุกขึ้นยืนครั้งแล้วครั้งเล่า บ่าเล็กๆ แบกรับมากมายเหลือเกิน”
กู้ชูหน่วนพันแผลไปก็ฟังไป ถึงจะฟังไม่ค่อยเข้าใจก็ตาม
“วัยเด็กของนาง หากมิใช่ตรากตรำเรียนวิทยายุทธ์ฝึกฝนร่างกาย ก็ออกมาจากการฝึกคาวเลือดอย่างเหนือคน หรือไม่ก็เสาะหาของบางอย่างสุดหล้าฟ้าเขียว”
กู้ชูหน่วนสอดแทรกประโยคหนึ่ง “ออกมาจากการฝึกคาวเลือดอย่างเหนือคน? นี่หมายความว่าอย่างไร?”
“นางฐานะสูงส่ง และเพราะว่าสูงส่งเกินไป ฉะนั้นนางจึงเป็นที่คาดหวังของทุกคน เพื่อไม่ให้ผิดต่อความคาดหวัง และเพื่อสามารถแบกรับภาระ แต่เล็กนางถูกขังอยู่ในสถานที่มืดมิดไร้เดือนตะวัน ทุกวันต่อสู้เข่นฆ่ากับสัตว์อสูร หากยังรอดชีวิตออกมาได้ นางก็รักษาชีวิตได้ หากไม่ได้ นางก็จะเป็นวิญญาณใต้คมดาบ หรือเป็นเนื้อในปากของผู้อื่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...