อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 465

เหี้ย ไม่ธรรมดาแล้ว

สิ่งของในค่ายกลนี้ล้วนเป็นของบ้าอะไรเนี่ย?

เห็นว่ามีดใบพัดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตาข่ายด้านบนก็คลุมลงมาเรื่อยๆ สถานการณ์ทำให้พวกเขาคิดมากไม่ได้นานแล้ว ทำได้เพียงพยายามทำลายค่ายกลให้เร็วที่สุด

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ร้องฟ่อวๆ

มันค้ำยันไว้ไม่ไหวแล้ว ตัวงูของมันแทบจะขาดแล้ว

“ติ๋ง......”

เหงื่อหยดหนึ่งของเย่จิ่งหานไหลลงมา

ค่ายกลโหดร้ายเกินไป ออกไปทั้งสองคน กลัวว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

แววตาอันเฉียบคมของเย่จิ่งหานเปล่งประกาย การตัดสินใจอย่างหนึ่งพุ่งขึ้นมาในความคิด

เขาทุ่มเทพลังทั้งร่างกาย ขลุ่ยหยกปะทะไปทางค่ายกลมีดใบพัดเบื้องหน้าอย่างรุนแรง ทำลายค่ายกลมีดใบพัดด้านหนึ่งออก แล้วพลิกตัวอีกครั้ง ผลักกู้ชูหน่วนที่อยู่บนหลังออกไป

และในขณะเดียวกัน เขาก็ละทิ้งการต้านทานอันตรายรอบตัว เพียงแค่ใช้กำลังภายในทั้งหมดสะเทือนเหล็กดัดอ่อนและเส้นแสงที่อยู่ข้างกายของกู้ชูหน่วนออกไป คุ้มกันให้นางจากไป

ขณะที่เขาสะเทือนมีดใบพัดออกไปด้านหนึ่ง กู้ชูหน่วนก็เดาได้แล้วว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

นางพูดด้วยความตกใจ “ไม่......”

ในนาทีนี้ กู้ชูหน่วนเกิดความซาบซึ้งใจ

และก็หวาดกลัว

ทั้งๆที่เย่จิ่งหานรู้ว่านางหลอกลวงเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่รู้ว่านางกล้าโกหกแม้แต่เรื่องการท้องปลอมๆ แต่ขณะที่เขาอยู่ในสถานการณ์คับขันเป็นที่สุด ก็ยังเต็มใจใช้ชีวิตของตัวเองแลกชีวิตนาง

นางจะแบกรับไหวได้อย่างไร.....

ในดวงตาอันพร่ามัว ยังสามารถเห็นรอยยิ้มที่โศกเศร้าของเย่จิ่งหานได้

รอยยิ้มนั้นช่างทำให้จิตใจคนเจ็บปวดยิ่งนัก มีความผิดหวัง ความอาลัยอาวรณ์ ความตัดใจไม่ได้ ความขุ่นเคือง ทุกอย่างผสมผสานกัน

ในเวลาเดียวกันที่เย่จิ่งหานผลักกู้ชูหน่วนออกไป

จอมมารซือโม่เฟยใช้ร่างกายของตัวเองค้ำยันปากทางรอยแยกของค่ายกลไว้ พร้อมกันนั้นก็โบกมือขวาทันที เถาวัลย์พร้อมดอกลำโพงแต่ละดอกอ้าปากใหญ่ๆที่เต็มไปด้วยเลือด ราวกับว่ามีดวงตาเช่นนั้น กึกกึกกัดแทะมือโครงกระดูก

มือโครงกระดูกที่มีดดาบฟันแทงไม่เข้าอยู่ต่อหน้าดอกลำโพงอันงดงาม อ่อนแอเหมือนกับเต้าหู้เช่นนั้นตอบโต้ต้านทานไม่ได้ มือโครงกระดูกแต่ละอันถูกกัดแทะเข้าไปในท้องดอกลำโพงอันงดงาม

ไม่มีพันธนาการของมือโครงกระดูก เย่จิ่งหานปลายเท้าจรด ถอนตัวขึ้นจากพื้น พุ่งออกมาจากมีดใบพัดด้วยอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า

จิตใจอันตึงเครียดของทุกคนจึงได้ผ่อนคลายลง

เพียงแค่นิดเดียว เกือบไปเพียงนิดเดียวนายท่านของพวกเขาก็สิ้นชีพแล้ว

เพิ่งจะโล่งใจไปเฮือกหนึ่ง พวกเขาก็ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง

ก็เพราะไม่รู้ว่าจอมมารปล่อยดอกลำโพงกินคนออกไปมากน้อยเท่าไหร่ ฝืนควบคุมเหล็กดัดอ่อนไว้ได้

นี่เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

แต่ว่า......

แต่ว่าทำไมจอมมารถึงได้อุ้มท่านอ๋องที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไว้ได้  

อีกทั้ง......

อีกทั้งยังอุ้มท่าเจ้าหญิงอีก

พวกเขา......

มองผิดไปแล้วหรือ?

ตาบอดไปแล้วหรือ?

ทุกคนขยี้ตา สิ่งที่เห็นก็ยังเป็นจอมมารอุ้มเย่จิ่งหานพุ่งออกมาจากค่ายกลโบราณอันโหดเหี้ยมอยู่ดี บนใบหน้าของจอมมารยังเป็นรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอันสดใสสะดุดตาอีกด้วย

นี่นี่นี่......

“พั๊วะ......”

รอยยิ้มยังแขวนอยู่บนใบหน้าของจอมมาร บนใบหน้าก็ถูกตบไปฉาดหนึ่งอย่างรุนแรง คนที่อุ้มท่าเจ้าหญิงในมือก็พลิกตัวอย่างคล่องแคล่ว กระโจนออกจากอ้อมกอดของเขา

จอมมารตะลึงงันแล้ว

กุมปิดดวงตาอันร้อนผ่าวของตัวเองไว้ ชำเลืองมองเย่จิ่งหานที่เลือดสดไหลรินเพ่งมองเขาด้วยความขุ่นเคืองอยู่เบื้องหน้าด้วยความงงงัน

แล้วมองดูกู้ชูหน่วนที่ล้มอยู่อีกข้าง ดวงตามีความตกตะลึง

ยังมีคนทั้งหมดของเรือนพักร้อนชิวเฟิง รวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาการของเขา แต่ละคนอ้าปากจนสามารถยัดไข่ไก่เข้าไปได้ทั้งฟองแล้ว

“มองดูข้ากันหมดทำไม? พี่สาว ท่านบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น ทำไมมือยังหนักได้ขนาดนี้ ตบข้าซะจนไม่เพียงแค่เจ็บหน้าเท่านั้น แม้แต่ฟันก็แทบจะร่วงแล้ว ซืด.......ช่างเจ็บเสียจริง พี่สาว หรือว่าท่านโกรธที่ข้าไม่ได้พุ่งเข้าไปช่วยท่านในเวลาแรกงั้นหรือ?”

เสวียซาไม่อยากให้นายท่านของตัวเองถูกคนอื่นมองเป็นตัวตลกเช่นนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม