กู้ชูหน่วนหยิบกิ่งไม้แห้งกิ่งหนึ่งขึ้นมา ใช้มันวาดลักษณะของภูเขาที่พวกเขาได้เดินทางผ่านมาบนพื้น พลางหาเรื่องไปคุยกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์
ส่วนทำไมนางจึงสามารถฟังภาษาของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ได้ จนถึงทุกวันนี้นางเองก็ยังไม่รู้
นอกจากนางแล้ว คนอื่นแทบจะฟังไม่เข้าใจเลย
ยิ่งวาดคิ้วของกู้ชูหน่วนก็ยิ่งขมวดแน่น
ซือโม่เฟยเจ้าคนสารเลว เขานำทางเก่งจริงๆ นำนางเข้ามาในหุบเขาลึก การจะออกจากที่นี่ แม้จะมีเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เป็นพาหนะ ถ้าไม่ใช้เวลาหนึ่งวันคงออกไปไม่ได้แน่
เวลาที่ล้ำค่าทั้งหมดถูกใช้อย่างเปล่าประโยชน์ที่นี่ มันน่าโมโหจริงๆ
"กลิ่นอะไร "นางสูดดม
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แบะปาก เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า "จอมมารซื่อบื้อนั่นย่างไก่จนไหม้แล้ว ทำลายสิ่งมีชีวิตตามอำเภอใจ ไก่กับนกเหล่านั้นน่าสงสารจริงๆ"
จอมมารถือไก่ย่างที่เสียบอยู่บนกิ่งไม้หลายตัว วิ่งเข้ามาอย่างดีใจ "พี่สาว ย่างสุกแล้ว เจ้าลองชิมดูว่าอร่อยหรือไม่"
กู้ชูหน่วนสีหน้าดำคล้ำ
นี่คือไก่ย่างหรือ
นี่คือไก่ไหม้กระมัง
ไก่ย่างทุกตัวล้วนเป็นสีดำไหม้เกรียม บางตัวถูกย่างจนเป็นถ่าน
จะให้กินอย่างไร
ขอทางยังไม่กินเลย
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะได้เห็นใบหน้าที่แต่ไหนแต่ไรขาวสะอาดของซือโม่เฟยถูกเถ้าถ่านทำให้สกปรก แม้แต่เส้นผมที่นุ่มสลวยดำขลับก็ยุ่งเหยิงไปหมดละก็ กู้ชูหน่วนเกือบจะคิดว่า เขาจะล้อนางเล่นอีกแล้ว
ใบหน้าของซือโม่เฟยงอง้ำ "น่าแปลก ทำไมจึงไม่เหมือนไก่ย่างที่ลูกน้องข้าทำให้นะ ข้าย่างไหม้แล้วใช่หรือไม่"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทำเสียงขู่ฟ่องอย่างไม่เกรงใจ
"เจ้าเพิ่งรู้หรือ นี่มันไหม้จนไม่สามารถไหม้ไปกว่านี้ได้แล้ว มันมีฐานะสูงส่งขนาดนั้น ให้หิวตายก็ไม่มีทางกินไก่ไหม้"
"พี่สาว เจ้ารอข้าสักครู่ ข้าจะไปย่างอีก"
กู้ชูหน่วนแสยะยิ้มออกมา "ไม่ต้องแล้ว ไหม้แล้วยิ่งหอม ฉีกหนังของมันออกก็ได้แล้ว"
ว่าแล้ว นางก็เอาไก่ย่างไป ฉีกส่วนที่ไหม้ออก
แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่า ข้างนอกไหม้ถึงขนาดนั้น แต่ด้านในกลับ……ยังดิบอยู่……
"เจ้าย่างอย่างไร"
"ไฟนั่นมันเบาเกินไป ข้าใช้พลังภายในย่าง ย่างไปสักพักก็ไหม้แล้ว ข้าว่าข้างในไม่ไหม้ ไม่ไหม้ก็น่าจะกินได้กระมัง"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ค้อนให้เขาวงใหญ่
เจ้านี่มันเป็นลูกชายของเจ้าโง่หรืออย่างไร
กึ่งสุกกึ่งดิบจะกินอย่างไร เขาไม่กลัวท้องเสียหรือ
ไม่ได้กินอาหารมาหลายคืนหลายวัน กู้ชูหน่วนหิวมาก บวกกับซือโม่เฟยเอาแต่ใช้สายตาที่ตื่นเต้นและกระวนกระวายมองนางอยู่ตลอด
นางถอนหายใจและพูดว่า "กินกินไปก่อนแล้วกัน วันหลังก็ฝึกย่างอีก เดี๋ยวก็เป็นเอง"
ทำไมนางจึงลืมไปได้ ว่าซือโม่เฟยทำอาหารไม่เป็น
โจ๊กรังนกของนางในตอนนั้น เค็มอย่างกับอะไรดี ทำเอานางเกือบจะเป็นพิษ
ไก่นี่ คงไม่เค็มเหมือนโจ๊กนั่นกระมัง
คิดถึงตรงนี้ กู้ชูหน่วนก็ยิ้มเยาะตัวเอง
นางกำลังคิดอะไรอยู่ ในป่าลึกเช่นนี้ ซือโม่เฟยจะไปเอาเกลือมาจากไหน
"เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้าจะกินหรือไม่"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เบือนหน้าอย่างยโส
อาหารหมูมันจะกินได้อย่างไร
มันเป็นหมูหรืออย่างไร
หิวตายมันก็ไม่มีทางกิน
หิวไม่ตายมันก็ไม่กิน
"ไปๆๆ ไก่ย่างตัวแค่นี้ ให้เจ้านายเจ้ากินก่อน เจ้าไปอยู่ข้างนั่นไป"จอมมารพูด
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทำท่าขู่ฟ่อ
แต่หลังจากที่เห็นแววตาเคร่งขรึมของจอมมารแล้ว มันก็ได้แต่เลื้อยไปอยู่ข้างๆอย่างไร้ความมั่นใจ
ช่างเถอะ งูที่ดีไม่สู้กับคนโง่
ครั้งนี้ให้อภัยเขาแล้วกัน
กู้ชูหน่วนกัดไปหนึ่งคำ เค็มจนนางรู้สึกปวดฟัน
กู้ชูหน่วนรีบยืนขึ้นทันที "ทำไมจึงได้เค็มขนาดนี้ เจ้าใส่เกลือลงไปหรือ"
"ใช่แล้ว ครั้งที่แล้วพี่สาวบอกว่าโจ๊กรังนกอร่อย ข้าก็คิดไว้แล้วว่าครั้งหน้าจะทำให้เจ้ากินอีก ฉะนั้นจึงเอาเกลือใส่ไว้ในแหวนมิติมากมาย ก็เพื่อรอที่จะใช้ในวันนี้"
จอมมารชูแหวนมิติที่อยู่บนนิ้วของตนเองขึ้นมา
ไม่เพียงแต่กู้ชูหน่วนเท่านั้นที่มีแหวนมิติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...