โครม...
สืบเนื่องจากการเข้าร่วมของผู้อาวุโสหก ท้องนภาสะเทือนสองสามครั้ง
ศิษย์คนอื่นของเผ่าเทียนเฟิ่นก็อยากเข้าร่วมสมรภูมิด้วย ครั้นมือเรียวยาวของเวินเส้าหยียกขึ้น ก็เป็นการบอกให้พวกเขาอย่าได้ทำการพลการ
ด้านข้างมีคนวิพากษ์วิจารณ์ “หรือว่าเผ่าเทียนเฟิ่นกับเผ่าหยกจะมีความแค้นอะไรกัน? ทำไมเจอหน้าก็สู้กันแล้ว?”
“เออ...ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน...”
ครั้นได้ยินคำว่า ‘เผ่าเทียนเฟิ่น’ สามคำนี้ ผู้อาวุโสเจ็ดก็สร่างเมาทันที
“เผ่าเทียนเฟิ่น? เผ่าเทียนเฟิ่นอยู่ไหน?!”
ผู้อาวุโสเจ็ดเงยหน้าขึ้นพรึบ ที่ประทับเข้าม่านตาเป็นเวินเส้าหยีที่สุภาพอ่อนโยนดั่งหยกสวมหน้ากากผีเสื้ออยู่
“อา เป็นบุตรสำส่อนของเผ่าเทียนเฟิ่นจริงๆ ด้วย”
“ไอ้แก่เฮงซวยนี่ เจ้ากล้าเสียมารยาทกับหัวหน้าเผ่าน้อยพวกเรา”
“บุตรสำส่อน ไม่มีใครสอนเจ้าว่าต้องเคารพผู้ใหญ่รักเด็กหรือ?”
ผู้อาวุโสเจ็ดกวาดสายตามองสนามประลองรอบหนึ่ง หยุดอยู่กับตัวกู้ชูหน่วนและผู้อาวุโสหก ผู้อาวุโสไป๋เฉ่า รองหัวหน้าเผ่าซือคงที่กำลังห้ำหั่นกันเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวอย่างหยอกล้อสบายๆ
“เจ้าแก่ไม่รู้จักเคารพตัวเอง จะคู่ควรแก่การเคารพของพวกเราหรือ? น่าขัน!”
“เพียะๆๆ...”
ได้ยินเพียงเสียงตบชัดแจ๋วก้องอยู่ในสนามประลอง ศิษย์ที่วาจาสามหาวกับเผ่าเทียนเฟิ่น ใบหน้าถูกตบสิบกว่าหนแล้ว หากมิใช่เพราะเวินเส้าหยีทนดูไม่ได้ ห้ามได้ทันกาล เกรงว่าใบหน้าของศิษย์คงถูกตบเละแล้ว
แม้เช่นนี้ ฟันของเขาก็ถูกตบร่วงไปหลายซี่ แค่คิดก็รู้ได้ว่าผู้อาวุโสเจ็ดลงมือหนักเพียงใด
ผู้คนจำนวนมากตกตะลึง
พวกเขาล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ แต่พวกเขาถึงกับมองไม่เห็นว่าผู้อาวุโสเจ็ดลงมืออย่างไร
กลัวแต่วรยุทธ์ผู้อาวุโสเจ็ดจะสูงกว่าผู้อาวุโสหกมากกระมัง
ท่าทีผู้อาวุโสเจ็ดสง่าไม่ยึดติด ถึงกำลังก่นด่าศิษย์ผู้นั้นของเผ่าเทียนเฟิ่น ทว่าดวงตากลับจับจดกับเวินเส้าหยี
“บุตรสำส่อน ปกติทำเรื่องขาดคุณธรรมให้น้อยหน่อย ชีวิตน้อยๆ จะได้ไม่สิ้นเข้าในวันหนึ่ง อีกอย่าง อย่าลืมเคารพอาวุโสรักเด็กล่ะ มิเช่นนั้นครั้งต่อไปก็ไม่แน่ว่าจะแค่ฟัน”
ทั้งสนามเงียบกริบ
ผู้เฒ่านี่ ตีวัวกระทบคราดหรือ?
เวินเส้าหยีเป็นถึงหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น ทั้งยังมีวรยุทธ์สูงส่ง เทียบเคียงได้กับเย่จิ่งหานและจอมมาร
โดยรวมกล่าวได้ว่าทั้งแผ่นดินไร้คู่ต่อสู้
พวกเขาเช่นนี้จะหยามหน้าเวินเส้าหยีเกินไปแล้วกระมัง?
กู้ชูหน่วนหลอมยาพลางสังเกตทุกอย่างทางด้านนี้
สายตานางลุ่มลึกเย็นเฉียบดั่งน้ำแข็งพันปี
ช้าเร็วนางต้องเปิดศึกกับเผ่าเทียนเฟิ่น แต่กลับไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือต้องได้ที่หนึ่ง เข้าแดนต้องห้าม ได้กุญแจรูปดาว และหามุกมังกรให้พบ
ทุกคนนึกว่าเวินเส้าหยีจะเดือดพลุ คิดไม่ถึงว่าเขากลับประสานหมัดอย่างถ่อมตนมีมารยาท ท่าทีกระทั่งว่าเคารพนอบน้อม “ผู้อาวุโสเจ็ดสั่งสอนได้ถูกต้อง ผู้น้อยจดจำแล้ว”
“หัวหน้าเผ่าน้อย...”
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นมีความโกรธแค้นเต็มทรวง
เผ่าหยกทำให้พวกเขาอับอายเช่นนี้ ฆ่าพวกเขาเสียเลยก็จบ ไยต้องอ้อมค้อมกับพวกเขาเช่นนี้
แต่เป็นเวินเส้าหยีที่ผ่อนเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ทำเรื่องเล็กให้หมดสิ้น เพียงแต่นั่งที่ของเขาดื่มชาลิ้มรส มองการหลอมยาของเหล่านักหลอมยาทั้งหลายอย่างสงบ
ทีแรกผู้อาวุโสเจ็ดยังอยากหาเรื่องอีกสักหน่อย แต่เห็นท่าทางนอบน้อมเชื่อฟังของเวินเส้าหยีแล้ว และเห็นกู้ชูหน่วนหัวหน้าเผ่าของพวกเขาตั้งใจหลอมยา จึงไม่เอาความกับพวกเขาอีก
ผู้อาวุโสเจ็ดนึกถึงข้อมูลที่พวกเขาสืบได้ แดนต้องห้ามของหุบเขาตันหุยมีกุญแจรูปดาวที่อาจหามุกมังกรพบ
เขาระงับความขุ่นเคืองทั้งมวล แล้วหาตำแหน่งหนึ่งนั่งลง
เขารักสุรา ทว่ามีเผ่าเทียนเฟิ่นอยู่ สุราดีอย่างไรเขาก็กระเดือกไม่ลง
เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันโล่งอก
ในที่สุดก็หยุดเสียที
งานชื่นชมยาชั้นเลิศครั้งนี้จัดได้ลำบากโดยแท้
“ปัง...”
จู่ๆ พื้นผิวก็ถูกทุบเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ ลึกหนึ่งเมตรกว่าเต็มๆ และไม่รู้ว่าเป็นเย่จิ่งหานกับจอมมารกระทำ หรือว่าเผ่าเทียนเฟิ่นกับเผ่าหยกกระทำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...