กู้ชูหน่วนตะคอกเสียงดังคำหนึ่งด้วยความเฉียบขาด แย่งไม้และแส้ในมือของประชาชนมา ดวงตาสีดำขาวแยกกันชัดเจนทั้งคู่นั้นดุดันจนน่ากลัว
เหล่าประชาชนคิดว่าความโกรธบนตัวของกู้ชูหน่วนนั้นมาจากเวินเส้าหยี
ประกอบกับการที่พวกเขาจับหัวหน้าเผ่าน้อยผู้สูงศักดิ์ของเผ่าเทียนเฟิ่นมาด้วยความลำบาก แต่ละคนล้วนกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า
“หัวหน้าเผ่าท่านดูสิว่าพวกเราจับผู้ใดมา? ผู้ชายคนนี้เป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น และเป็นหัวหน้าเผ่าในอนาคต ตอนนี้เขาตกอยู่ในมือของพวกเราแล้ว”
“หลายปีมานี้เผ่าเทียนเฟิ่นกดขี่พวกเรามาโดยตลอด ทำร้ายพวกเราจนน่าอนาถขนาดนี้ ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้เขาได้ลิ้มลองสัมผัสดูว่าอะไรที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”
“หัวหน้าเผ่า พวกเราจะทรมานเขาอย่างไรดี? หรือว่าจะใช้ประโยชน์จากเขาอย่างไร เพื่อสังหารพวกเผ่าเทียนเฟิ่นที่สมควรตายเหล่านั้นไปซะ”
สายตาของทุกคนล้วนจ้องมองไปทางกู้ชูหน่วนด้วยความเฝ้าหวัง ราวกับเพียงคำพูดเดียวของกู้ชูหน่วน พวกเขาก็จะลงมือทันที
คำพูดของกู้ชูหน่วนติดอยู่ในลำคอ ขึ้นก็ขึ้นไม่ได้ ลงก็ลงไม่ได้
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นน่าเกลียดชัง แต่เวินเส้าหยี.....
จากที่นางรู้ เขาก็ไม่ได้ทำเรื่องที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมอะไร กลับกันยังคอยช่วยเหลือเกื้อกูลนางทุกอย่างอีก
จอมมารเล่นเส้นผมสีหมึกของตัวเองอย่างมีความสุข ดูความสนุกด้วยความสุขอยู่ข้างๆ
เวินเส้าหยีที่อ่อนแรงถูกแขวนห้อยไว้ด้วยโซ่ ลืมตาอันไร้เรี่ยวแรงขึ้น เห็นกู้ชูหน่วนที่สวมชุดสีเพลิงงดงามทั้งตัว อดหัวเราะเยาะอย่างโศกเศร้าออกมาไม่ได้ และหลับตาลงอีกครั้ง
ลมหายใจที่แปรเปลี่ยนนั่น เห็นได้ชัดว่ายอมรับชะตากรรมแล้ว
เฉียวเกอกล่าวว่า “ก็ไม่รู้ว่าใครดูดพลังของเขาไป จากระดับหกกลับเหลือเพียงระดับหนึ่ง ช่างน่าขันและน่าสมเพชจริงๆ แต่ก็ดูดได้ดี ดีที่สุดดูดไปทั้งหมดเลยยิ่งดี จะได้เลี่ยงไม่ให้เขาไปทำร้ายคนอื่นอีก”
กู้ชูหน่วนเบะปาก
ดูดพลังวิทยายุทธของเขา ก็ไม่ใช่นางหรือไง
นางพูดเสียงดัง “หากพวกเราต้องการจะต่อสู้กับเผ่าเทียนเฟิ่นก็ต้องต่อสู้อย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง อาศัยการหลอกใช้คนจึงจะสู้ชนะได้ แล้วพวกเราจะต่างอะไรจากเผ่าเทียนเฟิ่นพวกป่าเถื่อนเหล่านั้น?”
“ความหมายของหัวหน้าเผ่าคือ.....ฆ่าเขาไปซะเลยหรือ? เช่นนั้นจะเสียเปรียบเขาหรือไม่?”
“คนผู้นี้ยังมีประโยชน์กับข้า พวกเจ้าพาเขาไปที่ลานบ้านของข้า”
ทุกคนมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าหัวหน้าเผ่าของตัวเองต้องการจะทำอะไร
ผู้อาวุโสเจ็ดได้รับบาดเจ็บหนัก เดินกะเผลกเข้ามา บนตัวพันผ้าพันแผลอย่างหนาแน่น
โดยปกติแล้วเขาก็เป็นคนอารมณ์ร้ายมาโดยตลอด และมีความเกลียดชังต่อเผ่าเทียนเฟิ่น เมื่อได้ยินคำพูดของกู้ชูหน่วน ก็กล่าวด้วยความสงสัยว่า
“หัวหน้าเผ่า ข้าได้ยินมาว่าท่านแล้วเวินเส้าหยีมีความสัมพันธ์โดยส่วนตัวอย่างใกล้ชิด คงจะไม่ได้เป็นความจริงหรอกนะ?”
ตื้ด.......
หินก้อนเล็กกระตุ้นให้เกิดคลื่นใหญ่
ทุกคนมองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
หัวหน้าเผ่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่นหรือ?
นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?
สีหน้าของกู้ชูหน่วนไม่น่าดูเล็กน้อย
“เขาเคยช่วยข้าไว้ ข้าติดหนี้บุญคุณเขาไว้ครั้งหนึ่ง”
ไม่รอให้ผู้อาวุโสเจ็ดพูดจา ประชาชนในเผ่าเจ้าคำหนึ่งข้าคำหนึ่งส่งเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมาแล้ว
“เผ่าเทียนเฟิ่นได้ทำแต่เรื่องที่เลวร้ายเป็นที่สุด ไม่มีคนดีสักคน เขาจะช่วยท่านได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะช่วยท่าน ก็จะต้องมีจุดประสงค์เป็นแน่”
“ถูกต้อง หัวหน้าเผ่า ท่านอย่าได้ถูกเขาหลอกเชียว คนในเผ่าเทียนเฟิ่นล้วนชั่วร้ายมาก”
“ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีจุดประสงค์อื่นหรือไม่ แม้ว่าเขาจะช่วยชีวิตหัวหน้าเผ่าจริง แต่จากเรื่องที่พวกเขาทำต่อพวกเราแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะให้อภัยพวกเขาง่ายๆ”
“ถูกต้อง เวินเส้าหยีต้องตาย และก่อนตายนั้นแน่นอนว่าจะต้องทำให้เขาได้ลิ้มลองกับความทุกข์ทรมานที่พวกเราได้ประสบมาทั้งหมด”
โดยปกติประชาชนให้ความเคารพต่อกู้ชูหน่วนมาโดยตลอด แต่คราวนี้พวกเขากลับไม่ยอมแล้ว ยืนกรานคิดต้องการจะฆ่าเวินเส้าหยี
กู้ชูหน่วนชักสีหน้าขึ้น เพ่งมองทุกคนแล้วกล่าวทีละคำทีละประโยค “เช่นนั้นพวกเจ้าอยากให้ข้าเป็นคนที่ตอบแทนบุญคุณคนด้วยการชำระแค้น เป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึกไร้ความเมตตาเช่นนั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...