ระยะห่างจากห้องหลอมยาเผ่าหยกอยู่ไม่ไกลแล้ว เย่จิ่งหานพวกเขากับจอมมารเจอหน้ากัน
จอมมารสวมชุดแดง ยิ้มหน้าบาน ท่าทางเบิกบานสำราญใจ ร่างกายเขาสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาและสวยสง่า จนแยกเพศชายหญิงไม่ออก
โดยเฉพาะดวงตาข้างหนึ่งสีฟ้าข้างหนึ่งสีม่วงของเขา กระชากใจของผู้คนได้โดยไม่รู้ตัว
จอมมารเหมือนจะอารมณ์ดีมาก พอเห็นเย่จิ่งหานก็ไม่ได้ทะเลาะกับเขา แต่กลับยิ้มแล้วทักทายแทน
“คนเราย่อมต้องพบเจอกันอีกครั้งทุกที่ ท่านอ๋องหาน พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ ครั้งนี้ เจ้าอย่าอิจฉาข้าเชียวล่ะ”
เย่จิ่งหาน “…”
ผู้อาวุโสหก “…”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวีย “…”
ไม่มีใครรู้ว่าจอมมารอยากพูดอะไร
อิจฉา?
อิจฉาเขาทำไม?
เผ่าหยกเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขากำลังดีใจอะไร?
หรือว่าเขาร่วมมือกับยอดฝีมือระดับเจ็ดของเผ่าเทียนเฟิ่นคนนั้น มาโจมตีเผ่าหยกเหรอ?
ไม่สิ ไม่มีทาง
ไม่รวมเรื่องความสัมพันธ์ของจอมมารกับกู้ชูหน่วน เขาไม่มีทางร่วมมือกับเผ่าเทียนเฟิ่นแน่นอน
แค่นิสัยของเขา เขาอยากฆ่าใครก็ฆ่าใคร ถึงแม้จะสู้ไม่ไหว เขาก็ไม่มีทางยอมร่วมมือกับใครหรอก
เย่จิ่งหานกวาดตามองรอบๆ
ที่นี่นอกจากจอมมารแล้ว ไม่มีลูกน้องของเขาเลยสักคน
นึกถึงความโง่ของจอมมาร เย่จิ่งหานก็ขี้เกียจเถียงกับเขาต่อ และมุ่งตรงไปยังห้องหลอมยา
จอมมารกับเขาเดินไปด้วยกัน มุมปากก็แสยะยิ้มอย่างได้ใจ
“เสี่ยวเย่เย่ วันนี้กลิ่นคาวเลือดโอบล้อมไปทั่วเผ่าหยกเลยนะ เจ้านำกำลังคนเข้ามาโจมตี จากนั้นก็ถูกคนเผ่าหยกจับได้หรือเปล่า?”
จอมมารส่ายหน้า แล้วพูดต่อว่า “น่าจะไม่ใช่ ถ้าใช่ล่ะก็ เจ้าคงโดนไล่ออกไปแล้ว จะเข้ามาในสถานที่สำคัญของเผ่าหยกพร้อมผู้อาวุโสหกได้ยังไง”
“ข้ารู้แล้ว ก่อนหน้านี้เผ่าหยกบุกโจมตีเผ่าเทียนเฟิ่น ไม่เพียงแต่ชนะเท่านั้น แถมยังทำลายเผ่าเทียนเฟิ่นจนราบคาบเป็นหน้ากองเลย เผ่าเทียนเฟิ่นจะต้องมีทหารตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่พอใจ วิ่งมาหาเรื่องเผ่าหยก จากนั้นก็ถูกเผ่าหยกจับได้ บาดเจ็บสาหัส จึงทำให้มีกลิ่นคาวเลือดโอบล้อมเผ่าหยกใช่หรือไม่?”
เย่จิ่งหาน “…”
ผู้อาวุโสหก “…”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวีย “…”
จอมมารถูมืออย่างรู้สึกผิด “ก่อนหน้านี้ข้ามัวแต่ยุ่งกับการปลูกดอกพุดซ้อน ไม่มีเวลาสนใจโลกภายนอก ไม่งั้นข้าคงเอาทหารมาช่วยเผ่าหยกด้วย”
“ข้าไม่ชอบเผ่าเทียนเฟิ่นมานานแล้ว ถูกทำลายไปก็ดี ใช่สิ เวินเส้าหยีล่ะ ว่ากันว่าเจ้าต่อสู้กับเขา พวกเจ้าสองคนใครแพ้ใครชนะเหรอ? เขาตายหรือยัง?”
“ข้าว่าเขาต้องมีความรู้สึกต่อพี่สาวแน่ ตายไปก็ดี ข้าจะได้มีศัตรูน้อยลงด้วย แต่คนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ตายไปแบบนั้น ก็น่าเสียดายอยู่นะ ต่อไปคงหาคนมาประชันฝีมือด้วยยากแล้วล่ะ”
“ใช่สิ วันนี้คนของเผ่าหยกไปไหนกันหมดนะ ทำไมตลอดทางไม่เจอใครเลยล่ะ? หรือว่า…พวกเขารู้ว่า วันนี้ข้าจะมาขอพี่สาวแต่งงาน ดังนั้น แต่ละคนเลยเตรียมจะทำอะไรให้ข้าเหรอ?”
จอมมารแอบดีใจ และยิ้มกว้างขึ้น
ผู้อาวุโสหกกระตุกมุมปาก ในที่สุดก็อดไม่ได้พูดว่า “จอมมาร ท่านไม่รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศแปลกๆไปเหรอ?”
ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าเขากับอาหน่วนสนิทกัน ผู้อาวุโสหกเกือบคิดว่า เขามาหาเรื่องแล้ว
“บรรยากาศไม่ดี? ข้ารู้สึกว่าบรรยากาศดีมากเลยนะ ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่ร้อนไม่หนาว เวลาและบรรยากาศดี ขาดแค่คนรู้ใจ”
เย่จิ่งหานกัดฟันกรอดพูดว่า “เจ้าใช้สมองอันน้อยนิดของเจ้าคิดให้ดีๆ”
เสี่ยวเย่เย่อะไรกัน?
เขามีสิทธิ์เรียกเสี่ยวเย่เย่เหรอ?
บนโลกนี้ คนที่กล้าเรียกเขาว่าเสี่ยวเย่เย่ มีแค่กู้ชูหน่วนคนเดียวเท่านั้น
“สมองอันน้อยนิด?”
จอมมารอึ้ง
นานมากกว่าจะรู้ตัวว่าเย่จิ่งหานกำลังด่าเขาอยู่
เขาไม่โกรธแต่กลับหัวเราะแทน “ข้าว่าแล้วว่าเจ้าต้องอิจฉาข้า เจ้ายังไม่รู้ใช่ไหม พี่สาวบอกแล้วว่า ขอแค่ข้าปลูกต้นดอกพุดซ้อนทั้งภูเขาหนึ่งลูกเองกับมือ นางก็จะแต่งงานกับข้า ข้าเอาแต่ปลูกอยู่ทุกวันทุกคืน ใช้เวลาอยู่นาน ในที่สุดก็ปลูกต้นดอกพุดซ้อนทั้งภูเขากับมือเสร็จสักที”
“พี่สาวเห็นดอกพุดซ้อน จะต้องดีใจมากแน่ๆ”
เดินผ่านแดนต้องห้ามของเผ่าหยก ประตูสถานที่ต้องห้ามถูกคนตบด้วยฝ่ามือพิฆาตจนทะลุเป็นรอยใหญ่
ประตูแดนต้องห้ามเป็นเหล็กที่หลอมอย่างดีมาหลายหมื่นปี แทงไม่เข้ายิงไม่เข้า แต่ตรงประตูกลับมีรอยฝ่ามือประทับไว้
รอยยิ้มของจอมมารหายไป เขาจับประตูแดนต้องห้าม แล้วถามเย่จิ่งหานอย่างแปลกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...