“ครืน......”
ฉับพลันนั้น ลมแรงโบกพัดมาพร้อมกับแรงสังหารอันคุกรุ่น มีจวนมู่เป็นศูนย์กลาง ถนนทั้งสายถูกปกคลุมไปหมด กดดันจนทำให้คนแทบจะหายใจไม่ออก
กู้ชูหน่วนแทบจะยืนอยู่ไม่ไหวเล็กน้อย
ลมปราณแข็งแกร่งมาก
อำนาจก็แข็งแกร่งมาก
ผู้ชายคนนี้เดือดดาลสุดๆแล้วน่ากลัวจริงๆ
ห่างออกไปไกลมาก ข้างหูก็ยังสามารถได้ยินเสียงเตือนอย่างกดดันของชายสวมหน้ากากได้
“ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย มอบตัวมู่หน่วนออกมา มิฉะนั้นคืนนี้คนทั้งจวนมู่ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดที่จะมีชีวิตรอด”
คนตระกูลมู่กล่าวด้วยความกลัวว่า “คุณชายระงับความโกรธ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ส่งตัวมู่หน่วนออกไป แต่มู่หน่วนยังไม่กลับบ้านจริงๆ และพวกเราก็ไม่รู้ว่านางไปที่ไหนเช่นกัน”
“นี่ไม่ใช่คำตอบที่ข้าอยากได้ยิน” เย่จิ่งหานกล่าวด้วยความเย็นยะเยือก
เจ้าบ้านรองกล่าวด้วยความร้อนใจ “พี่ใหญ่ ลูกสาวของท่านอยู่ที่ไหนกันแน่ รีบให้นางออกมาเถอะ พวกเราไม่สามารถเอาชีวิตของคนทั้งตระกูลพ่วงเข้าไปเพราะนางได้หรอกนะ”
เจ้าบ้านสามก็พูดเสริมตาม “ใช่แล้วล่ะ นั่นอย่างน้อยที่สุดก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับห้าเชียวนะ ทั้งยังเป็นขุนนางผู้อาวุโสต่างแคว้นของตระกูลไป๋หลี่อีกด้วย จวนมู่ของพวกเราจะล่วงเกินได้อย่างไร?”
มู่ซินกระวนกระวายใจ เขารู้ว่าอาหน่วนจะต้องไปล่วงเกินใครเข้าแล้วเป็นแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่านางจะไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตขนาดนี้ได้จริงๆ
ยังดีที่นางจากไปได้ทันกาล ไม่เช่นนั้นยังจะรักษาชีวิตน้อยๆนี้ของนางไว้ได้อย่างไร
มู่ซินกล่าวด้วยความลำบากใจ “ข้าไม่รู้จริงๆว่านางไปไหน ข้าบาดเจ็บสาหัสนอนติดเตียง สองสามวันนี้ก็อยู่แต่ในบ้านมาตลอด พวกเจ้าก็รู้นี่”
“คุณชายเย่ คนจวนมู่พูดดีๆด้วยไม่ชอบชอบให้บีบบังคับ ข้าว่าทำลายพวกเขาไปเลยก็ได้แล้วขอรับ”
ที่มาพร้อมกับเย่จิ่งหาน นอกจากลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่แล้ว ยังมีไป๋หลี่เจิ้นอีกด้วย
เขาคิดจะทำลายตระกูลมู่มานานแล้ว เพื่อแก้แค้นแทนหลานชายที่ถูกหักแขนของตัวเอง
ครั้งก่อนหากไม่ใช่เพราะเย่จิ่งหานหยุดยั้งเอาไว้กลางทาง พวกเขาก็ทำลายล้างจวนมู่ไปนานแล้ว
คราวนี้จวนมู่ขุดหลุมฝังตัวเอง คิดไม่ถึงว่าจะล่วงเกินเย่จิ่งหานเข้าให้ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดจะทำลายล้างพวกเขา
เจ้าบ้านสามกระวนกระวายใจเล็กน้อยแล้ว เขากล่าวด้วยความประหม่าว่า “อาหน่วนมีการหมั้นหมายอยู่กับตระกูลซ่างกวน และพวกเรากับราชวงศ์......”
“เอาพวกเขามาบีบคั้นพวกเราให้มันน้อยๆหน่อย และก็ยังไม่แน่ว่าตระกูลซ่างกวนจะยอมรับการแต่งงานงานนี้หรือไม่ ส่วนราชวงศ์ เลิกพูดล้อเล่นได้แล้ว? ในโลกนี้มีผู้ใดไม่รู้บ้างล่ะว่าราชวงศ์ได้ทอดทิ้งพวกเจ้าไปนานแล้ว ไม่เช่นนั้นในทุกๆปีพวกเขาจะไม่จัดสรรปันแบ่งยาให้พวกเจ้าได้เหรอ?”
สีหน้าคนตระกูลมู่แต่ละคนไม่น่าดู
ราชวงศ์ไม่ยอมรับพวกเขาเป็นความจริง เพียงแค่ไม่มีคนหยิบยกขึ้นมาพูดต่อหน้า
แต่ไป๋หลี่เจิ้นกลับเหยียบซ้ำลงไปบนใบหน้าที่เลือดสดไหลรินของพวกเขาทีหนึ่ง
เจ้าบ้านรองอยากพูดว่า หากตระกูลซ่างกวนไม่ยอมรับเรื่องการแต่งงาน ครั้งก่อนก็คงไม่ออกหน้าแทนจวนมู่
หัวหน้าตระกูลมู่ห้ามปรามเขาได้ทันเวลา กล่าวขึ้นช้าๆว่า “ไม่ทราบว่ามู่หน่วนล่วงเกินคุณชายตรงไหน พวกเราตระกูลมู่ทั้งตระกูลขออภัยท่านแทนนาง และพวกเราจะรีบหานางให้พบโดยเร็ว ให้นางไปขออภัยต่อท่านด้วยตัวเอง หวังว่าคุณชายจะเมตตาสักหน่อยขอรับ”
ไป๋หลี่เจิ้นยังคิดอยากจะแย้งกลับไป
แรงสังหารของเย่จิ่งหานยิงออกไป กล่าวขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เวลาหนึ่งก้านธูป(ครึ่งชั่วยาม) ข้าให้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูป หลังจากหนึ่งก้านธูป หากว่านางยังไม่ออกมา ก็อย่าโทษว่าข้าทำลายจวนมู่อย่างไร้ความปรานี”
คนของจวนมู่ต่างตกตะลึง
เวลาหนึ่งก้านธูป?
เวลานี้สั้นเกินไปแล้วหรือไม่?
ในเวลาสั้นๆขนาดนี้ พวกเขาจะหามู่หน่วนพบได้อย่างไร?
เมื่อมองดูสีหน้าอันเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งของเย่จิ่งหานอีกครั้ง ก็เห็นได้ชัดว่ากำลังระงับแรงสังหารอันเดือดพล่านอยู่
พวกเขาเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้ามู่หน่วนไม่ออกมา เขาก็จะทำลายจวนมู่ทั้งหมดไปได้จริงๆ
ด้วยศักยภาพของเขา ไม่จำเป็นต้องให้ตระกูลไป๋หลี่ช่วยโดยสิ้นเชิง เพียงแค่เขาคนเดียว ก็เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งคนและสัตว์ในตระกูลมู่จะรอดไปได้
หัวหน้าตระกูลมู่กล่าวด้วยความร้อนใจ “เร็ว รีบไปหาตัวคุณหนูสามมา ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ก็ต้องหานางออกมาให้ได้”
“ขอรับขอรับขอรับ......”
เจ้าบ้านรองเจ้าบ้านสามร้อนใจจนถูมืออยู่ตลอด
นอกจากที่พวกเขาจะบ่นโทษมู่ซินแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้
ไป๋หลี่เจิ้นดูความสนุกสนานนี้อย่างมีความสุข
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...