ตู๋กูเหลียนและคนอื่น ๆ รู้สึกดีใจมาก “ขอบคุณเฉินไต้ซือที่ไม่ฆ่าพวกเรา ต่อไปพวกเราจะยึดมั่นในหน้าที่อย่างแน่นอน และไม่กล้าล่วงเกินเฉินไต้ซือและญาติมิตรของเฉินไต้ซืออีก!”
“จำสิ่งที่แกพูดในวันนี้เอาไว้ให้ดี” น้ำเสียงของเฉินโม่มีความข่มขู่ เขาเชื่อว่าตู๋กูเหลียนสามารถเข้าใจได้
“ครับ!” ตู๋กูเหลียนก้มหน้า และระมัดระวังต่อหน้าเฉินโม่เป็นอย่างมาก ทำให้ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ
เฉินโม่ก็ไม่อยากฆ่าเขาเช่นกัน ในเมื่อเขาระมัดระวังตัวขนาดนี้ ตนเองก็ไม่สามารถหาเหตุผลที่จะฆ่าเขาได้
“คุณปู่ พี่เฉินเยว่ พวกคุณยังมีอะไรที่ไม่พอใจตระกูลตู๋กูอีกหรือไม่? ตัวอย่างเช่น มีคนต้องการฆ่า หรือคิดจะทำอะไร?” เฉินโม่ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่เมื่อสมาชิกของตระกูลตู๋กูได้ยินแล้ว พวกเขารู้สึกเหมือนเสียงของมัจจุราช
เฉินกั๋วเหลียงมองสมาชิกของตระกูลตู๋กูที่ตกใจกลัวจนตัวสั่น ตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจ ความโกรธที่ถูกตระกูลตู๋กูกักขัง หายไปแล้วเช่นกัน
“เสี่ยวโม่ ดี ดีมาก ปู่พอใจมาก หลานปล่อยพวกเขาไปเถอะ!”
เฉินโม่พยักหน้า แล้วมองเฉินเยว่ที่อยู่ด้านข้างอีกครั้ง
เฉินเยว่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของเฉินกั๋วเหลียง เธอกล่าวว่า “ฉันเชื่อฟังคุณปู่”
เฉินโม่พยักหน้า ไม่อยากมองหน้าสมาชิกของตระกูลตู๋กูอีกต่อไป กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเรากลับกันเถอะ!”
“ตกลง!” เฉินกั๋วเหลียงตกลงอย่างมีความสุข
ตู๋กูเหลียนโค้งคำนับทันทีแล้วกล่าวว่า “เฉินไต้ซือ ผมจะให้คนไปส่งพวกคุณ!”
เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่จำเป็น”
เขาไม่ต้องการมีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลตู๋กู หากต่อไปตระกูลตู๋กูทำอะไรที่เป็นผลเสียต่อเขาหรือตระกูลเฉิน เฉินโม่ก็จะลงมือฆ่าพวกเขาได้ง่ายขึ้น
“คุณปู่ พวกเราไปกันเถอะ!” เฉินโม่พยุงเฉินกั๋วเหลียง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ไปกันเถอะ!”
เฉินโม่ส่งเฉินกั๋วเหลียงกลับไปที่ตระกูลเฉิน เขากังวลว่าสมาชิกของตระกูลตู๋กูจะเป็นประเภทที่หน้าไหว้หลังหลอก แล้วมาแก้แค้นตระกูลเฉินอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงอยู่ที่ตระกูลเฉินเป็นเวลาระยะหนึ่ง
ตอนนี้สมาชิกของตระกูลเฉิน ปฏิบัติต่อเฉินโม่ด้วยความระมัดระวัง เพราะพวกเขาเกรงว่าตนเองจะล่วงเกินเฉินโม่ด้วยความไม่ตั้งใจ
แม้แต่เฉินตงหวาและคนอื่น ๆ ที่พุ่งเป้ามาที่ครอบครัวของเฉินโม่เสมอมา ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นเฉินโม่แล้ว ก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ประจบทันที และเรียกเฉินโม่ว่าหลานชาย
เฉินโม่มีทัศนคติที่ดีต่อพวกเฉินตงซุ่นเล็กน้อย แต่เย็นชากับคนอื่น ๆ และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าบ่นแม้แต่น้อย
ในบรรดาคนรุ่นใหม่ของตระกูลเฉิน หลายคนถือว่าเฉินโม่เป็นแบบอย่าง และถือเฉินโม่เป็นไอดอลของพวกเขา
แม้แต่เฉินควางและคนอื่น ๆ ที่เมื่อก่อนเคยพุ่งเป้ามาที่เฉินโม่ ตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินโม่แล้ว เปลี่ยนเป็นประพฤติตัวเรียบร้อย
ถ้าเฉินโม่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาเพียงเล็กน้อย มีเงินมากว่าเพียงเล็กน้อย และต่อสู้เก่งเพียงเล็กน้อย บางทีพวกเขาอาจยังคงแข่งขันกับเฉินโม่อย่างลับ ๆ แต่ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่า เฉินโม่เป็นเหมือนพระเจ้าที่ควบคุมความเป็นความตายด้วยคำพูดประโยคเดียว ตอนนี้พวกเขาไม่มีความรู้สึกต่อต้านอีกต่อไปแล้ว
เฉินธงมองคนรุ่นใหม่ของตระกูลเฉิน ที่เดินก้มหน้าเมื่อเห็นเฉินโม่ จากระยะไกล รอยยิ้มขมขื่นปรากฏที่มุมปากของเขา กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อคนรุ่นใหม่เหล่านั้นเห็นเขา พวกเขาแสดงท่าทางเช่นนี้ทุกประการ
แต่ตอนนี้...
เฉินธงมองเฉินโม่จากระยะไกล แล้วเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาทันที “บางทีเขาอาจจะทำเรื่องนั้นแทนผมก็ได้........”
“เฮ้อ ช่างมันเถอะ ผมไม่ได้สนิทกับเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขาอาจจะไม่ยอมช่วยผมก็ได้”
เฉินธงล้มเลิกความคิดนั้น เพราะเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่อับอายที่สุดในชีวิตของเขา เว้นเสียแต่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย หรือว่าเขามีความมั่นใจว่าจะสามารถแก้แค้นได้ มิฉะนั้นเขาจะไม่พูดออกมาเด็ดขาด
ระยะเวลาที่เฉินโม่อาศัยอยู่ในตระกูลเฉิน คนที่มีความสุขที่สุดก็คือเฉินเข่อเอ๋อร์ เธอให้เฉินโม่พาเธอไปช้อปปิ้งและเล่นสนุกตลอดทั้งวัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...