“ช่างเถอะ ปล่อยให้เป็นไปตามฟ้าลิขิตก็แล้วกัน” เย่ซูซูดูไปที่กู่หลาน ทำได้แค่ยอมละทิ้งความคิดที่อยู่ในใจ
มู่เจิ้งเฟิงซึ่งกำลังพยายามหาวัตถุดิบยาที่เขาอาจรู้จักอยู่ เห็นว่าเฉินโม่ส่งสมุดบันทึกไปแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าเขาก็เข้าใจนิสัยของเฉินโม่ดีและรู้ว่าเฉินโม่ไม่สละสิทธิ์อย่างแน่นอน
“เฉินไต้ซือเป็นคนเก่งมีความรู้ วัตถุดิบยาสิบชนิดก็มองออกได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบยาที่พบเห็นได้ยากอีก! ไม่เข้าใจจริงๆเลย
ถ้าดูจากอายุ เขาจะสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!”
กู่เยว่เหอมองดูคนที่รับเอาสมุดของเฉินโม่ส่งขึ้นมา ก็คิดว่าในสมุดของเฉินโม่ไม่ได้เขียนอะไร แต่พอเปิดดูกู่เยว่เหอกลับตกใจค้าง
ในสมุดของเฉินโม่เต็มไปด้วยตัวหนังสือ เขียนชื่อยาทั้งสิบชนิดตามด้วยเขียนหมายเหตุของคุณสมบัติของยาไว้อย่างครบถ้วน
ในส่วนที่เฉินโม่เขียนไม่ถูก แม้แต่คนที่ออกข้อสอบอย่างกู่เยว่เหอก็ยังไม่เข้าใจ
“พวกคุณมานี่สิ ไปเอาคัมภีร์เซียนยามา ตรวจหาวัตถุดิบยาในนั้น ดูสิว่าตรงไหนเขียนไม่ถูกบ้าง!”
กรรมการที่เหลืออยู่ก็ตะลึงไปชั่วครู่แล้วพูดอย่างตกใจว่า “อะไรนะ? เจ้าพูดว่าเขาไม่ได้สละสิทธิ์แต่กลับมองวัตถุดิบยาทั้งสิบชนิดออกงั้นหรือ!”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก จะเป็นเรื่องหลอกหรือเปล่า วัตถุดิบยาที่นี่แม้แต่ฉันเองก็ยังต้องใช้แรงตั้งครึ่งหนึ่งถึงจะดูออก อายุเขายังน้อย แต่เขากลับทำได้อย่างไรกัน! ”
“เรื่องหลอกหรือไม่ ตรวจสอบก่อนถึงจะรู้ พวกคุณก็อย่าทำตัวว่างกัน รีบมาช่วยกันตรวจเร็ว!” กู่เยว่เหอพูด
“ใช่ใช่ รีบมาตรวจเร็ว” กรรมการคนหนึ่งพูดอย่างรีบร้อน
“อันแรกคือหญ้าหญ้าดาวตก ยานี้เป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นนี้ มีส่วนช่วยในการถอนพิษผลและระบายความร้อน หากคนผู้บำเพ็ญใช้จะชำระจิตใจให้สะอาด กำจัดภูตผีปีศาจในใจได้!”
“อันที่สอง……”
กรรมการหลายคนรวมตัวอยู่ด้วยกัน เริ่มวิจัยวัตถุดิบยาทั้งสิบชนิดและสรรพคุณของยาที่เฉินโม่เขียน พวกเขาไม่ค่อยคุ้นชินกับวัตถุดิบยาที่เฉินโม่เขียนสักเท่าไหร่ ดังนั้นพวกเขาจึงเอาไปเปรียบเทียบกับคัมภีร์เซียนยา ถึงจะสามารถแยกแยะคำตอบของเฉินโม่ออกมาได้ว่าถูกหรือไม่ถูก
ตรวจหากันสักพักใหญ่ๆ ใบหน้าของกู่เยว่เหอตกใจมาก พูดกับตัวเองว่า “คาดไม่ถึงว่าจะตอบถูกหมด ไม่มีผิดแม้แต่ข้อเดียว!”
“อัจฉริยะ อัจฉริยะจริงๆ!” กรรมการท่านหนึ่งพยักหน้าและอุทานว่า “วัตถุดิบยาสิบชนิดที่เขาเขียนมา ฉันรู้จักแค่สองชนิดเอง เขาอายุไม่เท่าไหร่เอง แต่กลับมีความรู้มากกว่าฉัน นี่ทำให้ฉันละอายใจจริงๆเลย!”
“ข้าก็เหมือนกัน ยาพวกนั้นข้าดูออกแค่ชนิดเดียวเอง ถ้าเทียบกับเขา ข้ารู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมาข้ามีชีวิตอยู่อย่างไร้ประโยชน์จริงๆ!
“ใครไม่เป็นแบบนั้นบ้างล่ะ? เดิมที ฉันคิดว่าความรู้เรื่องยาของฉัน เพียงพอที่จะทำให้ฉันโดดเด่นยิ่งกว่าคนอื่นๆ แต่ว่าวันนี้ฉันกลับถูกเด็กที่อายุไม่ถึงยี่สิบปีเต็มสอนซะเอาแล้ว!”
กู่เยว่เหอมองไปที่เฉินโม่พูดอย่างหน้าตาเข้มงวดว่า “ความสำเร็จในอนาคตของชายคนนี้จะต้องอยู่เหนือทั้งเจ้าและข้าแน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกหลานตระกูลไหนกัน?”
“ไม่ต้องรีบร้อน รอดูด่านที่สามก่อนไหมว่าเขาจะทำอย่างไร รอให้เขาผ่านด่านที่สามก่อนค่อยถามก็ยังไม่สาย!”
“พูดได้ดี รอเขาผ่านด่านที่สามแล้วค่อยว่าแล้วกัน!”
คนที่ผ่านด่านที่สองลดลงไปจากเดิมครึ่งหนึ่ง มู่เจิ้งเฟิงยังพอทำได้ ในที่สุดก็ผ่านด่านที่สอง
ผู้ชมในฝูงคนข้างข้างล่างพอรู้ว่าเฉินโม่ผ่านด่านที่สอง ต่างคนต่างพากันทำท่าทีเหมือนเจอผีกันไปหมด
“อะไรนะ?ฉันไม่ได้ฟังผิดไปหรือเปล่า! เขาผ่านด่านสองแล้วหรอ! เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
สีหน้าของทุกคนราวกับไม่กล้าที่จะเชื่อ ในเวลาอันสั้นนั้น เฉินโม่เขียนวัตถุดิบยาสิบชนิดออกมาได้ นอกเสียจากเฉินโม่จะเป็นหนังสือยาที่กลายร่างมามีชีวิตถึงจะทำได้ แต่ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงทำไม่ได้แน่นอน
“เจ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ตามเจ้า ในเมื่อเขาผ่านด่านแรกในเวลาอั้นสั้นได้ ตอนนี้ด่านที่สองก็คงไม่น่าแปลกอะไร นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นอัจฉริยะอย่าแท้จริงแน่นอน”
“ใช่แล้ว ถ้าด่านแรกเป็นแค่เพราะโชคดี แล้วด่านที่สองก็เป็นความสามารถที่แท้จริงแล้ว ดูแล้วเขาคงเป็นอัจฉริยะที่เก่งมากจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...