แดนนิรมิตเทพ นิยาย บท 1560

“ช่างเถอะ ปล่อยให้เป็นไปตามฟ้าลิขิตก็แล้วกัน” เย่ซูซูดูไปที่กู่หลาน ทำได้แค่ยอมละทิ้งความคิดที่อยู่ในใจ

มู่เจิ้งเฟิงซึ่งกำลังพยายามหาวัตถุดิบยาที่เขาอาจรู้จักอยู่ เห็นว่าเฉินโม่ส่งสมุดบันทึกไปแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าเขาก็เข้าใจนิสัยของเฉินโม่ดีและรู้ว่าเฉินโม่ไม่สละสิทธิ์อย่างแน่นอน

“เฉินไต้ซือเป็นคนเก่งมีความรู้ วัตถุดิบยาสิบชนิดก็มองออกได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบยาที่พบเห็นได้ยากอีก! ไม่เข้าใจจริงๆเลย

ถ้าดูจากอายุ เขาจะสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!”

กู่เยว่เหอมองดูคนที่รับเอาสมุดของเฉินโม่ส่งขึ้นมา ก็คิดว่าในสมุดของเฉินโม่ไม่ได้เขียนอะไร แต่พอเปิดดูกู่เยว่เหอกลับตกใจค้าง

ในสมุดของเฉินโม่เต็มไปด้วยตัวหนังสือ เขียนชื่อยาทั้งสิบชนิดตามด้วยเขียนหมายเหตุของคุณสมบัติของยาไว้อย่างครบถ้วน

ในส่วนที่เฉินโม่เขียนไม่ถูก แม้แต่คนที่ออกข้อสอบอย่างกู่เยว่เหอก็ยังไม่เข้าใจ

“พวกคุณมานี่สิ ไปเอาคัมภีร์เซียนยามา ตรวจหาวัตถุดิบยาในนั้น ดูสิว่าตรงไหนเขียนไม่ถูกบ้าง!”

กรรมการที่เหลืออยู่ก็ตะลึงไปชั่วครู่แล้วพูดอย่างตกใจว่า “อะไรนะ? เจ้าพูดว่าเขาไม่ได้สละสิทธิ์แต่กลับมองวัตถุดิบยาทั้งสิบชนิดออกงั้นหรือ!”

“นี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก จะเป็นเรื่องหลอกหรือเปล่า วัตถุดิบยาที่นี่แม้แต่ฉันเองก็ยังต้องใช้แรงตั้งครึ่งหนึ่งถึงจะดูออก อายุเขายังน้อย แต่เขากลับทำได้อย่างไรกัน! ”

“เรื่องหลอกหรือไม่ ตรวจสอบก่อนถึงจะรู้ พวกคุณก็อย่าทำตัวว่างกัน รีบมาช่วยกันตรวจเร็ว!” กู่เยว่เหอพูด

“ใช่ใช่ รีบมาตรวจเร็ว” กรรมการคนหนึ่งพูดอย่างรีบร้อน

“อันแรกคือหญ้าหญ้าดาวตก ยานี้เป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นนี้ มีส่วนช่วยในการถอนพิษผลและระบายความร้อน หากคนผู้บำเพ็ญใช้จะชำระจิตใจให้สะอาด กำจัดภูตผีปีศาจในใจได้!”

“อันที่สอง……”

กรรมการหลายคนรวมตัวอยู่ด้วยกัน เริ่มวิจัยวัตถุดิบยาทั้งสิบชนิดและสรรพคุณของยาที่เฉินโม่เขียน พวกเขาไม่ค่อยคุ้นชินกับวัตถุดิบยาที่เฉินโม่เขียนสักเท่าไหร่ ดังนั้นพวกเขาจึงเอาไปเปรียบเทียบกับคัมภีร์เซียนยา ถึงจะสามารถแยกแยะคำตอบของเฉินโม่ออกมาได้ว่าถูกหรือไม่ถูก

ตรวจหากันสักพักใหญ่ๆ ใบหน้าของกู่เยว่เหอตกใจมาก พูดกับตัวเองว่า “คาดไม่ถึงว่าจะตอบถูกหมด ไม่มีผิดแม้แต่ข้อเดียว!”

“อัจฉริยะ อัจฉริยะจริงๆ!” กรรมการท่านหนึ่งพยักหน้าและอุทานว่า “วัตถุดิบยาสิบชนิดที่เขาเขียนมา ฉันรู้จักแค่สองชนิดเอง เขาอายุไม่เท่าไหร่เอง แต่กลับมีความรู้มากกว่าฉัน นี่ทำให้ฉันละอายใจจริงๆเลย!”

“ข้าก็เหมือนกัน ยาพวกนั้นข้าดูออกแค่ชนิดเดียวเอง ถ้าเทียบกับเขา ข้ารู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมาข้ามีชีวิตอยู่อย่างไร้ประโยชน์จริงๆ!

“ใครไม่เป็นแบบนั้นบ้างล่ะ? เดิมที ฉันคิดว่าความรู้เรื่องยาของฉัน เพียงพอที่จะทำให้ฉันโดดเด่นยิ่งกว่าคนอื่นๆ แต่ว่าวันนี้ฉันกลับถูกเด็กที่อายุไม่ถึงยี่สิบปีเต็มสอนซะเอาแล้ว!”

กู่เยว่เหอมองไปที่เฉินโม่พูดอย่างหน้าตาเข้มงวดว่า “ความสำเร็จในอนาคตของชายคนนี้จะต้องอยู่เหนือทั้งเจ้าและข้าแน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกหลานตระกูลไหนกัน?”

“ไม่ต้องรีบร้อน รอดูด่านที่สามก่อนไหมว่าเขาจะทำอย่างไร รอให้เขาผ่านด่านที่สามก่อนค่อยถามก็ยังไม่สาย!”

“พูดได้ดี รอเขาผ่านด่านที่สามแล้วค่อยว่าแล้วกัน!”

คนที่ผ่านด่านที่สองลดลงไปจากเดิมครึ่งหนึ่ง มู่เจิ้งเฟิงยังพอทำได้ ในที่สุดก็ผ่านด่านที่สอง

ผู้ชมในฝูงคนข้างข้างล่างพอรู้ว่าเฉินโม่ผ่านด่านที่สอง ต่างคนต่างพากันทำท่าทีเหมือนเจอผีกันไปหมด

“อะไรนะ?ฉันไม่ได้ฟังผิดไปหรือเปล่า! เขาผ่านด่านสองแล้วหรอ! เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

สีหน้าของทุกคนราวกับไม่กล้าที่จะเชื่อ ในเวลาอันสั้นนั้น เฉินโม่เขียนวัตถุดิบยาสิบชนิดออกมาได้ นอกเสียจากเฉินโม่จะเป็นหนังสือยาที่กลายร่างมามีชีวิตถึงจะทำได้ แต่ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงทำไม่ได้แน่นอน

“เจ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ตามเจ้า ในเมื่อเขาผ่านด่านแรกในเวลาอั้นสั้นได้ ตอนนี้ด่านที่สองก็คงไม่น่าแปลกอะไร นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นอัจฉริยะอย่าแท้จริงแน่นอน”

“ใช่แล้ว ถ้าด่านแรกเป็นแค่เพราะโชคดี แล้วด่านที่สองก็เป็นความสามารถที่แท้จริงแล้ว ดูแล้วเขาคงเป็นอัจฉริยะที่เก่งมากจริงๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ