กู่เยว่เหอยิ้มแล้วพูดแล้วว่า “หลายปีมานี้คนที่ผ่านทั้งสามด่านก็มีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกัน อะไรที่ทำให้เสียเวลาก็ไม่ต้องพูดถึง แถมยังทำให้คนอื่นคิดว่างานแลกเปลี่ยนของเราไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ดังนั้นฉันจึงเพิ่มระดับความยากของทั้งสามด่านขึ้น คนที่ทำสำเร็จแน่นอนว่าจะต้องมีศักยภาพอย่างแน่นอน ”
ได้ยินที่กู่เยว่เหอพูด สีหน้าคณะกรรมการที่อยู่ข้างหลังก็เริ่มแปลกไป แม่ว่ากู่เยว่เหอพูดได้น่าฟัง แต่จริงๆแล้วในใจของพวกเขาเข้าใจดีว่ากู่เยว่เหอกลัวว่าจะมีคนมาท้าประลองเขา ดังนั้นจึงจงใจเพิ่มความยากของทั้งสามด่าน
แต่ว่าพวกเขาไม่กล้าพูดประโยคนี้ขึ้นมา เพราะกู่เยว่เหอเป็นเจ้าสำนักตันจง ศักยภาพแข็งแกร่งกว่าพวกเขาทุกคน พวกเขาจะทำให้ผิดใจกันง่ายๆไม่ได้
“รอดูว่าครั้งนี้จะมีสักกี่คนกันที่ผ่านด่านที่สอง!” กู่เยว่เหอยิ้มแล้วพูด
เฉินโม่มองเห็นวัตถุดิบยาพวกนั้น แม้ว่าบนพื้นโลกวัตถุดิบยาพวกนี้จะมีน้อยมาก แต่ถ้าเป็นโลกฝึกเซียนทั้งหมื่นกลับพบเจอได้ง่ายเหลือเกินอีกทั้งเฉินโม่ไปท่องเที่ยว
ที่ดวงดาวอื่นจนนับไม่ถ้วน วัตถุดิบยาที่เคยเจอก็นับได้ไม่ถ้วน ต่อให้เฉินโม่จะไม่ใช่นักปรุงกลั่นยา สำหรับเขาแล้ววัตถุดิบยาพวกนี้เป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เขาเขียนวัตถุดิบยาทั้งสิบชนิดลงไปอย่างรวดเร็วและระบุสรรพวิธีการใช้ได้อย่างดี หลังจากนั้นเฉินโม่ก็ส่งสมุดบันทึกเล่มเล็กๆขึ้นไป
“ฮ่าๆ ดูสิ ฉันบอกแล้วไงว่าด่านแรกเป็นเพราะโชคช่วยเขาต่างหาก พอด่านสองเริ่มขึ้นเขาก็รีบสละสิทธิ์เลย” เมื่อสักครู่พวกคนที่บอกว่าเฉินโม่เป็นเด็กหนุ่มพึ่งดวงแถมยังคิดว่าเขาสละสิทธิ์แล้ว เริ่มหัวเราะอย่างดัง
คนรอบตัวเขา คนที่เชียร์เฉินโม่แต่เดิมอยู่แล้วต่างก็พากันเสียดาย
“คิดไม่ถึงจริงๆว่าเขาจะสละสิทธิ์แล้ว!” คนแก่คนหนึ่งส่ายหัวมองไปที่เฉินโม่ด้วยสายตาที่เสียดาย
“แม่มันสิ ที่ไหนได้ด่านแรกเขาพึ่งดวงเอา เกือบถูกเขาหลอกไปแล้วเชียว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...