แดนนิรมิตเทพ นิยาย บท 266

"คาดว่าฉินเยว่ซานคนนี้น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือไม่ก็มีความผิดอะไรที่ถูกไอ้หนุ่มนั่นกุมความลับไว้ ดังนั้นก็เลยจำเป็นต้องก้าวออกมาช่วยมัน!"

"ใช่ น่าจะเป็นแบบนี้นี่แหละ!"

ในห้องโถง พวกคนมีชื่อเสียงต่างกันคาดเดากันไปต่างๆ นานา

แม้แต่หลิวหงปินเองก็ยังเชื่อคำพูดแบบนี้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถอธิบายการกระทำของฉินเยว่ซานได้เลย

"ไอ้หนู ถ้ามีแค่คนแซ่ฉินคนเดียวล่ะก็ มึงก็ยังแพ้อยู่ดี อย่าลืมนะว่าพวกเราตกลงกันไว้ว่าต้องมี10คน กูไม่เชื่อหรอกว่าจะยังมีคนกล้าออกมาเป็นศัตรูกับตระกูลว่านอีก!"

หลิวหงปินเพิ่งพูดจบ ก็มีเสียงเข้มๆ ดังขึ้นจากในกลุ่มคน

"เจี่ยจิ้งอานแห่งอู่โจว ยินดีเอาทรัพย์สินในชื่อของผมช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ปโดยไม่ต้องการค่าตอบแทน!"

พอสิ้นเสียง เจี่ยจิ้งอานก็ก้าวเดินพุงพลุ้ยออกมาตรงหน้าของเฉินโม่ ใบหน้าอ้วนๆ ยิ้มตาหยีมองเฉินโม่ แล้วโค้งคำนับให้ "สวัสดีครับคุณเฉิน"

เฉินโม่รู้สึกเป็นมิตรดีกับเจี่ยจิ้งอาน เลยพูดตอบไปเบาๆ ว่า "ลำบากเถ้าแก่เจี่ยหน่อยนะครับ!"

"คุณเฉินเกรงใจเกินไปแล้วล่ะครับ!" เจี่ยจิ้งอานพูดอย่างเกรงใจ

จากนั้น เจี่ยจิ้งอานก็เดินมาข้างๆ ฉินเยว่ซาน แล้วยกมือคำนับให้กับหลี่ซู่เฟิน "เจี่ยจิ้งอานแห่งอู่โจว สวัสดีท่านประธานหลี่ครับ ได้ยินชื่อเสียงของท่านประธานหลี่มานานแล้ว วันนี้ได้พบ รู้สึกว่าท่านประธานหลี่ไม่ใช่เก่งกาจในด้านบริหารอย่างเดียว ทั้งยังสวยมากอีกด้วยนะครับ!"

ไอ้อ้วนเจี่ยประจบสอพลอขึ้นมา ดูมีความสนิทชิดเชื้อเป็นอย่างดี เหมือนกับตอนที่ประจบสอพลอเฉินโม่ครั้งแรกที่งานพนันหินหยกเลย

หลี่ซู่เฟินก็ตื่นเต้น แล้วก็รีบทำความเคารพกลับไป "คุณเจี่ยเกรงใจไปแล้วล่ะค่ะ ชื่อเสียงของหอสมบัติ โด่งดังไปทั่ว ดิฉันก็อยากไปมานานแล้วค่ะ เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเลย คิดไม่ถึงว่าตอนที่เหม่ยหวาของเรากำลังวิกฤติ จะได้คุณเจี่ยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หลี่ซู่เฟินซาบซึ้งอย่างมากเลยค่ะ!"

อิทธิพลของเจี่ยจิ้งอานนั้น ต่อให้รวมอยู่ในห้องโถงนี้ที่มีแต่คนดังนี้ ก็ยังถือว่าติดอันดับหนึ่งใน30

แต่ว่า เขากลับเป็นเหมือนกับฉินเยว่ซาน ที่ไปเคารพนบนอบต่อไอ้หนุ่มน้อยคนนั้น

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เจี่ยจิ้งอานถึงขั้นยอมช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ปโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่เอาผลตอบเลย!

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ทุกคนก็มองไปยังเจี่ยจิ้งอานพุงพลุ้ยด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ

และมองไปยังหนุ่มน้อยที่นั่งนิ่งไปหน้าเย็นชาอยู่บนเก้าอี้ด้วยความสงสัย

"ให้ตายสิ มีคนยอมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือไอ้กระจอกนั่นจริงๆ ด้วย!สองคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือไง?" คุณชายหลิวด่าออกมาอยู่ที่มุมหนึ่ง

ทางบนเวที สีหน้าของว่านฉางหรูก็นิ่งขรึมจนน่ากลัว

หลิวหงปินก็โมโหจนหน้าเขียว แต่ว่าเจี่ยจิ้งอานนั้นยิ่งใหญ่กว่าเขา เขาก็เลยไม่อาจจะไปข่มขู่เจี่ยจิ้งอานเหมือนกับฉินเยว่ซานได้

"เจี่ยจิ้งอาน นี่คุณกำลังตั้งตัวเป็นศัตรูกับมหาเศรษฐีว่านอยู่ คุณรอดูก็แล้วกัน แล้วคุณจะเสียใจภายหลัง!" ทำอะไรไม่ได้ หลิวหงปินก็เลยอ้างตระกูลว่านออกมา เพื่อขู่เจี่ยจิ้งอาน

เจี่ยจิ้งอานใบหน้าอมยิ้ม มองหน้าหลิวหงปินด้วยความไม่อยากจะสนใจอะไร เมื่อเทียบกับกระบี่เดียวเข่นฆ่าทุกอย่าง และวาจาที่เต็มไปด้วยบารมีแห่งเทพเจ้าของเฉินโม่แล้ว ตระกูลว่านมันก็แค่ผายลมเท่านั้น!

"เซวียเชียนเหอแห่งหนานหลิง ก็ยินดีช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ปโดยไม่หวังผลตอบแทนเหมือนกัน"

เซวียเชียนเหอที่อายุ60กว่าเข้าไปแล้ว ก็เดินออกมาด้วยความเป็นผู้ดีแข่งกับว่านฉางหรู

เขาเดินมาตรงหน้าเฉินโม่ แล้วโค้งคำนับ "สวัสดีครับคุณเฉิน!"

เฉินโม่พยักหน้า แล้วพูดเบาๆ ว่า "คุณท่านเซวียไม่ต้องทำความเคารพมากไปหรอกครับ!"

จากนั้น เซวียเชียนเหอก็ไปยืนข้างเจี่ยจิ้งอาน มองหลี่ซู่เฟินแล้วยิ้มพูดไปว่า "ท่านประธานหลี่ พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ!"

หลี่ซู่เฟินรีบทำความเคารพกลับเซวียเชียนเหอ "ดิฉันหลี่ซู่เฟินสวัสดีคุณท่านเซวียค่ะ"

ปีนั้นที่หลี่ซู่เฟินเพิ่งเริ่มบุกเบิกกิจการ เคยสอบถามปัญหากับเซวียเชียนเหอ หลี่ซู่เฟินก็เลยมองเขาเป็นครูของตนเองคนหนึ่ง

ถ้าหากวัดกันด้วยตำแหน่งฐานะของหลี่ซู่เฟินแล้ว การทำความเครพนี้เซวียเชียนเหอรับมันไว้ได้ แต่ว่าหลี่ซู่เฟินเป็นแม่ของเฉินโม่ ดังนั้นก็เลยไม่กล้ารับไว้

"ท่านประธานหลี่ไม่ต้องเกรงใจไปครับ คุณมีลูกชายที่เก่งจริงๆ เลยนะ!" เซวียเชียนเหอพูดชื่นชม

หลี่ซู่เฟินมองเฉินโม่ สายตาก็ยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ