สถานการณ์ในตอนนี้เหมือนกับฝนที่ตกหนักเมื่อคืนนั้นในหกปีก่อนมาก
สวี่รั่วฉิงจ้องมองชายหนุ่มที่เห็นได้ชัดว่าน้ำหนักเกินกว่าที่ตัวเองจะรับไหว แล้วถอนหายใจทีหนึ่ง ด้วยเรี่ยวแรงของตัวเอง ไม่มีทางย้ายตัวชายหนุ่มไปไว้ในห้องนอนข้างในได้แน่
“ประธานลี่?” แล้วสวี่รั่วฉิงก็ลองร้องเรียกลี่ถิงเซิ่งขึ้นอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลย
บนใบหน้าหล่อเหลาในตอนปกติของชายหนุ่มนั้น ตอนนี้ได้มีสีแดงเปื้อนขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว และลมหายใจที่ร้อนผ่าวก็พ่นลงบนหลังมือของสวี่รั่วฉิง
สวบ ทีหนึ่ง แล้วมือก็หดกลับเข้ามา
เฮ้อ เมื่อไม่มีทางอื่นแล้ว จึงได้แต่ต้องให้เธอพาทั้งคนทั้งเก้าอี้เข้าไปในห้องนอนด้วยแล้ว
สวี่รั่วฉิงใช้รีโมตเปิดประตูห้องที่ซ่อนอยู่ออก “ประธานลี่ ถ้าคุณตื่นมาแล้ว จะมาว่าฉันไม่ได้นะ”
จากนั้น เธอก็เข็นเก้าอี้ แล้วพาทั้งคนทั้งเก้าอี้เข้าไปในห้องนอน และเปิดเครื่องปรับอากาศขึ้น แล้วปรับให้เป็นระบบลมร้อน
หลังจากที่ทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว สวี่รั่วฉิงก็โทรไปที่เบอร์โทรศัพท์ของหลี่อาน หลังจากที่ดังสองสามทีแล้ว หลี่อานก็รับสาย
“ผู้ช่วยหลี่ ประธานลี่เป็นไข้หมดสติไปแล้ว” สวี่รั่วฉิงพูดตามความจริง
หลี่อานกำลังช่วยประธานลี่จัดการธุระอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดในเมืองหลินชวนอยู่
พอเขาได้ยินคำพูดของสวี่รั่วฉิง ใจก็กระตุกขึ้นทีหนึ่ง แล้วก็รีบแจ้งเลขหมายโทรศัพท์ออกมาให้สวี่รั่วฉิงพรวนหนึ่ง “นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์หมอส่วนตัวของประธานลี่ คุณรีบโทรหาเขา! ตอนนี้ผมยังกลับไปทันทีไม่ได้ คงต้องพึ่งคุณแล้ว!”
ว่าแล้วว่าช่วงนี้ประธานลี่ทำงานยุ่งมาก จะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ!
แล้วดูนี่ ถึงกับเป็นไข้หมดสติไปในบริษัทเลย!
สวี่รั่วฉิงจดเบอร์โทรศัพท์ที่หลี่อานบอกกับเธอไว้ จากนั้นก็รีบกดหมายเลขโทรศัพท์แล้วกดโทรออกไปอย่างรวดเร็วราวกับน้ำไหล
หนึ่งนาทีให้หลัง โทรศัพท์โทรติดแล้ว และมีเสียงผู้ชายที่ฟังดูอายุยังน้อยเสียงหนึ่งลอยมา
น้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจอยู่เสี้ยวหนึ่ง “ใครครับ?”
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปหนึ่งวินาที หมอส่วนตัวของประธานลี่อายุน้อยเกินไปหรือเปล่า?
แต่ว่าไม่นานสวี่รั่วฉิงก็ตั้งสติกลับมาได้ แล้วก็รักษาท่าทีที่เป็นมืออาชีพไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งขึ้นว่า “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของประธานลี่ ตอนนี้ประธานลี่เป็นไข้สูงค่ะ ต้องรบกวนคุณหมอมาที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปสักเที่ยวนะคะ ขอบคุณค่ะ”
ชายหนุ่มที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เงียบไปหลายวินาที แล้วก็หัวเราะพรืดขึ้นมาคำหนึ่ง
ความสงสัยในใจของสวี่รั่วฉิงก็ยิ่งลึกเข้าไปอีก
จากนิสัยของลี่ถิงเซิ่งนั้น สามารถอดทนกับหมอส่วนตัวที่นิสัยแปลกประหลาดคนหนึ่งแบบนี้ได้ยังไงกัน?
“คุณหมอคะ?” สวี่รั่วฉิงถามขึ้น
หมอหนุ่มที่ลึกลับและน่าแปลกคนนั้นถามกลับขึ้นว่า “ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าข้างกายของลี่ถิงเซิ่งยังมีผู้ช่วยสาวอยู่ด้วย? คุณเป็นผู้ช่วยสาวของเขาจริง ๆ เหรอ?”
สวี่รั่วฉิง “……”
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าลี่ถิงเซิ่งเป็นไข้สูง และผู้ชายคนนี้เป็นหมอส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่งละก็
จากนิสัยของสวี่รั่วฉิงแล้ว จะต้องหลังจากที่พูดคุยกันอย่างแปลก ๆ แล้วก็จะต้องวางสายไปแน่
สวี่รั่วฉิงหน้ายิ้มแต่ในใจไม่ยิ้ม “ใช่ ฉันเป็นผู้ช่วยใหม่ของประธานลี่ ในเมื่อก็ได้แจ้งคุณหมอให้ทราบแล้ว หวังว่าคุณจะรีบมาให้ถึงนะคะ”
หลังจากที่พูดจบ สวี่รั่วฉิงก็วางสายไปก่อนอย่างมีมารยาท
เธอรู้สึกว่าถ้าตัวเองยังพูดต่อไป จะต้องโดนผู้ชายคนนั้นทำให้โมโหจนตายแน่
“……เสียงดัง”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงวางสายไปแล้ว ริมฝีปากที่แห้งผากของผู้ชายที่นั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้ก็พูดเสียงที่แหบแห้งออกมาคำหนึ่ง
“ประธานลี่ คุณตื่นแล้วเหรอคะ?” ดวงตาของสวี่รั่วฉิงค่อย ๆ กะพริบขึ้น แล้วก็เอาโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋าเล็ก ๆ ของเสื้อสูท
บนใบหน้าของลี่ถิงเซิ่งยังมีสีแดงระเรื่อบาง ๆ อยู่ชั้นหนึ่ง
ไม่เพียงแค่ใบหน้า ใบหูก็ยังแดงอยู่บ้าง
แค่ดูก็รู้ว่าต้องตัวร้อน
ลี่ถิ่งเซิ่งไม่มีเรี่ยวแรงทั้งตัว หนังตาก็หนักอึ้ง
วันนั้นระหว่างทางที่กลับมาจากคฤหาสน์คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ แล้วโดนลมเย็นก็เลยไม่สบายเข้า
หลายวันมานี้เขาก็กินยาแก้หวัดมาตลอด หลี่อานเกลี้ยกล่อมให้เขาพักผ่อนอยู่บ้านดี ๆ แต่เขาไม่ฟัง
คิดไม่ถึงว่าวันนี้ กลับเป็นไข้สูงในเวลาทำงานไปได้
เมื่อกี้เสียงที่หญิงสาวพูดคุยโทรศัพท์กับคนอื่น มีความดังหนวกหูอยู่บ้าง ลี่ถิงเซิ่งจึงลืมตาขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย หลังจากที่กวาดมองรอบข้างรอบหนึ่ง ก็พบว่าตัวเองได้มาถึงห้องนอนข้างในแล้ว
“……อืม” ลี่ถิงเซิ่งรู้สึกว่าหัวของตัวเองหนักมาก
เขาลุกขึ้น แล้วความวิงเวียนก็เกิดขึ้นมาระลอกหนึ่ง
สวี่รั่วฉิงรีบประคองมือของเขาไว้ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ