เมื่อกี้หัวใจของสวี่รั่วฉิงเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
มือข้างที่ลี่ถิงเซิ่งใช้จับข้อมือของเธอไว้นั้น อุณหภูมิร้อนมาก
อุณหภูมิที่ร้อนสูงส่งผ่านมาที่ผิวหนังของเธอ แล้วก็ส่งมาถึงหัวใจของเธอ
ตุ๊บ…… ตุ๊บ……
จังหวะหัวใจยิ่งเต้นก็ยิ่งเร็ว
สวี่รั่วฉิงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เพราะกลัวว่าลี่ถิงเซิ่งจะเห็นว่าตัวเองหัวใจเต้นเร็วเกินไป
บรรยากาศที่สวยงามแบบนี้ อยู่ ๆ กลับโดนเสียงของผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งมาทำให้ขาดตอนไป
น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้นแฝงไว้ด้วยความหยอกล้อเสี้ยวหนึ่ง แล้วหลังจากที่มองดูท่าทางของสวี่รั่วฉิงและลี่ถิงเซิ่งชัดเจนแล้ว เขาก็หัวเราะพรืดคำหนึ่ง แล้วก็เอากระเป๋าพยาบาลที่อยู่ในมือวางลงบนโต๊ะอย่างแรง
“ไหนบอกว่าเป็นไข้สูงไม่ใช่เหรอ? ผมว่าคุณยังมีเรี่ยวแรงอยู่มากเลยนี่ ยังสามารถมาเล่นกุ๊กกิ๊กกับผู้ช่วยหญิงอยู่ที่นี่ได้อีก?”
ผู้ที่มาใหม่นั้นดวงตาเรียวยาว หลังจากที่เห็นหน้าตาของสวี่รั่วฉิงแล้ว ในดวงตาก็มีแววเยาะเย้ยกะพริบขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง
แล้วสวี่รั่วฉิงก็ตั้งสติกลับมาได้ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ก็คือหมอส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่ง
สายตาเหล่มองไปทางลี่ถิงเซิ่ง หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าด้วยกัน เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยพึงพอใจกับการปรากฏตัวมาของผู้มาใหม่
สวี่รั่วฉิงอยากจะชักมือของตัวเองกลับอย่างไม่ให้มีสุ้มเสียง
และครั้งนี้ ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ใช้แรงอีก สวี่รั่วฉิงจึงชักมือของตัวเองกลับมาได้อย่างราบรื่นมาก แล้วปล่อยลงข้างลำตัว
“ประธานลี่ ในเมื่อหมอส่วนตัวของคุณมาแล้ว งั้นฉันก็จะไปแล้วนะคะ” น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงบางเบา
เธอรู้สึกไม่ชอบผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เลย
แบบไม่มีเหตุผลอะไร
ถึงแม้ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้จะหน้าตาไม่เลว ร่างกายที่อยู่ภายใต้การนุ่งห่มด้วยชุดสูทสีเงินทั้งชุดนั้น สามารถดูออกได้ว่ารูปร่างไม่แพ้ให้กับนายแบบเลย
“อยู่ก่อน” ลี่ถิงเซิ่งพูดเสียงขรึม “คุณไปพักผ่อนที่โซฟาก่อน”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็วางแท็บเล็ตที่อยู่ในมือลงบนเตียง ดวงตาที่เหนื่อยล้ามองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู “อุณหภูมิร่างกายสามสิบแปดจุดสององศา คุณช่วยสั่งยาลดไข้ให้ผมหน่อย”
หมอเดินมาถึงข้างเตียง บังอยู่ข้างหน้าสวี่รั่วฉิง แล้วก็ตรวจอุณหภูมิร่างกายให้ลี่ถิงเซิ่งอย่างไม่สนใจจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็หัวเราะอย่างหยอกล้อขึ้นมาคำหนึ่ง
“เป็นไข้สูง สั่งแค่ยาลดไข้ พรุ่งนี้คุณก็ไม่สามารถที่จะไปเข้าร่วมงานหลินฉวนอีโคโนมิคฟอรั่มได้หรอก”
พูดจบ เขาก็เหล่ตามองไปที่สวี่รั่วฉิงที่ยังคงนั่งจ้องมองเขาอย่างระแวดระวังอยู่บนโซฟาทีหนึ่ง
ในสายตาที่สวี่รั่วฉิงจ้องมองเขาอยู่นั้น ดูระแวดระวังเป็นอย่างมาก
เหมือนอย่างกับว่าวินาทีต่อไปเขาก็จะกระทำอะไรที่ไม่เป็นผลดีต่อลี่ถิงเซิ่งออกมา
หมอส่วนตัวคนนี้ไม่ได้สนใจการวิเคราะห์ของสวี่รั่วฉิงเลยแม้แต่น้อย แล้วเขาก็เอายาลดไข้ออกมาหลายกล่องมาโยนลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างสบายอกสบายใจ แล้วสั่งกำชับสวี่รั่วฉิงอย่างไม่เกรงใจเลยว่า “คุณผู้ช่วย ชีวิตประธานลี่ของพวกคุณอยู่ในกำมือของคุณแล้ว พรุ่งนี้เขาจะสามารถไปร่วมงานหลินฉวนอีโคโนมิคฟอรั่มได้หรือเปล่า ก็อยู่ที่คุณแล้ว”
สวี่รั่วฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง แววระแวดระวังในสายตายังไม่ถดถอยออกไป
เรียกใครว่าผู้ช่วยน้อยกัน ไร้สาระจะตายอยู่แล้ว
“ยาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ? คุณหมอ คุณคงไม่ได้อยากจะให้ประธานลี่ของเรากินยาจนตายไปหรอกนะ?” สวี่รั่วฉิงลุกขึ้น แล้วก็หยิบใบฉลากยาของยาลดไข้ขึ้นมาดู แล้วถามขึ้นอย่างไร้คำพูด
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะพรืด “เขาไม่มีความกล้าแบบนี้หรอก”
“คุณผู้ช่วย คุณเองก็ได้ยินแล้วนะ? ผมไม่มีความกล้าที่จะให้ประธานลี่ของพวกคุณตายหรอก” คุณหมอพูดขึ้น แล้วฝ่ามือก็มาวางลงบนไหล่ของสวี่รั่วฉิงเบา ๆ “ผมดูคุณเองก็ไม่ได้หน้าตาเหมือนเด็กแบบที่ลี่ถิงเซิ่งชื่นชอบมาก่อน ทำไม เขาเปลี่ยนสไตล์แล้วเหรอ? ถึงกับเริ่มรับสมัครผู้ช่วยสาวแล้วเนี่ย?”
สวี่รั่วฉิงเม้นปากไว้ แล้วก็สะบัดมือของชายหนุ่มออกอย่างไม่มีสุ้มเสียง หัวคิ้วขมวดกันไว้
“คุณผู้ชายท่านนี้ ฉันไม่ได้สนิทกับคุณนะคะ” สวี่รั่วฉิงเปิดปากพูดขึ้น
“เสิ่นเหย่” อยู่ ๆ ลี่ถิงเซิ่งก็เปล่งเสียง
ในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเขา มีแววเย็นยะเยือกแผ่ออกมาเสี้ยวหนึ่ง
เหมือนกับว่าจะเตือนให้เสิ่นเหย่ อย่าพูดจาไร้สาระอีก
“ได้ ในเมื่อดูแล้วคุณยังไม่ตายในเร็ว ๆ นี้แน่ แถมยังมีสาวงามดูแลอยู่ข้าง ๆ อีก ดูน่าสบายออก”
เสิ่นเหย่เก็บข้าวของจนเรียบร้อย แล้วในตอนที่จะจากไป ตอนที่เดินผ่านสวี่รั่วฉิง ฝีเท้าก็หยุดลง
ในมือของสวี่รั่วฉิงถือน้ำร้อนไว้แก้วหนึ่ง กำลังเตรียมจะให้ลี่ถิงเซิ่งกินยาตามที่หมอสั่ง
“คุณหมอเสิ่นยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ?” ดวงตาของสวี่รั่วฉิงมองบนขึ้นมาเล็กน้อย และไม่มีปฏิกิริยาอะไร
เธอรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่า คุณหมอเสิ่นที่อยู่ตรงหน้านี้กับลี่ถิงเซิ่งจะต้องมีเบื้องหลังที่ลึกซึ้งต่อกันมากแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ