“ไม่อยาก” สวี่รั่วฉิงตอบด้วยความเด็ดขาด
ล้อเล่นอะไร เธอไม่มีแผนที่จะเปิดเผยใบหน้าต่อหน้ากล้อง
สวี่รั่วฉิงเดินไปตรงหน้าตู้ขายของอัตโนมัติ ซื้อกาแฟเย็นมาหนึ่งกระป๋อง จากนั้นก็เดินไปทางออฟฟิศ
คำว่า “เดี๋ยวก่อน” ของหลี่อานยังไม่ทันพูดจบ สวี่รั่วฉิงก็ผลักประตูออฟฟิศออกแล้ว
ในออฟฟิศ ชายวัยกลางคนที่ไม่คุ้นหน้านั่งอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นสวี่รั่วฉิงตาทั้งคู่ก็เป็นประกาย
คนๆนั้นลุกขึ้นยืน เดินมาถึงตรงหน้าสวี่รั่วฉิงอย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกมาหนึ่งข้าง “คุณแอนนา ผมคือจางเฉิง คุณเหมาะมากที่จะเป็นนางเอกในโฆษณาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในไตรมาสนี้ของลี่ซื่อกรุ๊ป ไม่ทราบว่าสนใจไหม?”
ยังไม่ทันรอให้สวี่รั่วฉิงตอบ ลี่ถิงเซิ่งที่ยังนั่งอยู่บนโซฟาก็ส่งเสียงอย่างเยือกเย็น “เมื่อกี้ฉันพูดไปแล้ว ฉันช่วยปฏิเสธให้เธอ”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้าขึ้น มองไปที่จางเฉิงอย่างเยือกเย็น
“ประธานลี่ อย่าเป็นแบบนี้สิ ผมร่วมงานกับพวกคุณมาตั้งหลายครั้งแล้วนะ! คุณแอนเหมาะสมกับโฆษณาครั้งนี้แน่นอน! ตอนนี้ดาราที่ให้ความรู้สึกใสซื่อมีไม่เยอะ ผมแค่ดูรูปของคุณแอนก็รู้แล้ว บนตัวเธอมีความใสซื่อนั้นที่หาได้ยาก.....”
จางเฉิงพูดสาธยาย พูดไม่รู้จบ
สวี่รั่วฉิงไร้คำจะพูดเล็กน้อย เธอยังไม่เคยเห็นใครพูดต่อหน้าลี่ถิงเซิ่งได้นานขนาดนี้
เธอมองไปที่จางเฉิง จากนั้นก็พูดขึ้น “ผู้กำกับจาง ฉันไม่มีความสนใจเรื่องการถ่ายโฆษณาจริงๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องพูดเกลี้ยกล่อม เลือกดาราคนอื่นเถอะ”
หลังจากสวี่รั่วฉิงพูดคำนี้จบ ลี่ถิงเซิ่งที่นั่งหน้ามืดมนอยู่บนโซฟาในที่สุดสีหน้าก็ดีขึ้น
จางเฉิงก็ไม่ท้อถอย “คุณแอน ผมจะต้องเกลี้ยกล่อมคุณให้สำเร็จให้ได้!
สวี่รั่วฉิง“......” บนโลกนี้ที่แท้ก็มีคนที่ไม่กลัวโดนคนอื่นโจมตีจริงๆด้วย
หลังจากจางเฉิงจากไป สวี่รั่วฉิงก็เป็นเหมือนทุกวัน รดน้ำให้ต้นตะบองเพรชบนโต๊ะตัวเอง
เธอดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ วางกาน้ำในมือไว้บนโต๊ะ “ประธานลี่ เรื่องที่คุณสั่งให้ฉันทำเรียบร้อยแล้วค่ะ วันนี้รอบๆบริษัทมองไม่เห็นคนมาคุกเข่ารอต่อแล้ว แต่พวกนักข่าวจากสื่อก็ไม่เห็นแล้ว.....คุณได้ออกคำสั่งอะไรไปหรือเปล่า?”
ถ้าไม่ใช่ลี่ถิงเซิ่งสั่งการให้รปภ.ของบริษัทไล่พวกสื่อไป หรือว่านักข่าวพวกนั้นหลังจากที่เห็นเว่ยป๋อที่เธอโพสต์แล้ว ก็เปลี่ยนไป?
“ทำไมฉันต้องออกคำสั่ง?” ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองไปที่สวี่รั่วฉิงอย่างบางเบา
สวี่รั่วฉิงเงียบไปหนึ่งวินาที ในใจเกิดความสงสัยเช่นเดียวกับหลี่อานเมื่อวานนี้
นี่ประธานลี่ไม่พอใจเรื่องอะไรอีกแล้ว?
ตอนที่กินข้าวกลางวัน ฟ่านเซียวเซียวแพคแซนวิชกลับมาที่แผนกน้ำหอม ก็เจอสวี่รั่วฉิงกำลังปรุงน้ำหอมพอดี
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ในสายตาของฟ่านเซียวเซียว เมื่อมองดูทั่วทั้งหลินชวนแล้ว เกรงว่าจะไม่มีนักปรุงน้ำหอมคนไหนที่ประสบความสำเร็จได้มากไปกว่าสวี่รั่วฉิง
“ผู้ดูแลแอน ตอนนี้ทั่วทั้งบริษัทต่างกำลังคุยกันว่าคุณจะลาออกจากบริษัทไหม แล้วไปโฟกัสที่งานแสดง”
สวี่รั่วฉิงขมวดคิ้ว วางหลอดหยดในมือลง “นี่มันที่ไหนกับที่ไหน? พวกเธอไปได้ยินมาจากไหน?”
“ผู้ดูแลแอนคุณไม่รู้หรอ? เช้าวันนี้นอกจากจางเฉิงแล้ว ยังมีผู้กำกับใหญ่กลุ่มหนึ่งบุกมาที่ประตูบริษัท บอกว่าอยากพบคุณ แต่ถูกประธานลี่ส่งคนไปปฏิเสธหมดแล้ว” ฟ่านเซียวเซียวกัดแซนวิชหนึ่งคำ แล้วพูดต่อ “ผู้กำกับจางเป็นเพราะว่าร่วมงานกับบริษัทเรามาหลายปีแล้ว โฆษณาที่โด่งดังมากมายล้วนออกมาจากมือเขา พนักงานคนอื่นในบริษัทเลยไม่กล้าห้ามเขา”
สวี่รั่วฉิงส่งเสียง “อ่อ” มิน่าล่ะสีหน้าของลี่ถิงเซิ่งเช้านี้ถึงได้แย่ขนาดนั้น
เขาคงไม่คิดว่าเธอจะใจเต้นกับเรื่องพวกนั้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำหอมจริงๆหรอกนะ?
“เพราะงั้น ผู้ดูแลแอนคุณคิดยังไง?” ฟ่านเซียวเซียวถาม
สวี่รั่วฉิงหยิบมือถือออกมา พิมพ์วีแชทไปด้วย แล้วพูดตอบไปด้วย “ฉันไม่มีความสนใจใดๆกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับน้ำหอม”
หลังจากสวี่รั่วฉิงตอบ นำสิ่งที่พิมพ์ลงวีแชทไปเมื่อกี้ กดส่งไป แล้วก็วางโทรศัพท์ไว้ด้านหนึ่ง ก็หยิบขวดน้ำหอมที่เธอทำงานวิจัยน้ำหอมต่อ
ฟ่านเซียวเซียวพยักหน้า “ฉันก็ว่าแล้ว ใครก็เป็นไปได้ที่จะไปจากบริษัท แต่ผู้ดูแลแอนคุณเป็นไปไม่ได้แน่นอน”
“ทำไม?”
“ตอนนี้คุณคบกับประธานลี่อยู่ไม่ใช่หรอ?”
สวี่รั่วฉิง“......ไม่ พวกเราเปล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ