สวี่อี้หานเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่าสวี่รั่วฉิงมีท่าทางแปลกไป
สาวน้อยจึงวางเกมที่กำลังเล่นอยู่ในมือลง ดวงตากลมโตดำขลับจ้องมองหญิงสาวแน่นิ่ง “คุณแม่ เป็นอะไรไปคะ?”
สวี่อี้หานพูดจบ สวี่อี้ฝานถึงได้วางของในมือลง ทั้งสองมองมาที่คนเป็นแม่อย่างพร้อมเพรียง
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” เด็กชายผู้เย็นชาเอ่ยถาม
สีหน้าของสวี่รั่วฉิงยังคงไม่เปลี่ยน เธอสวมใส่แว่นกันแดดสีดำอีกครั้ง แล้ววางโทรศัพท์ลงในกระเป๋า จากนั้นก็ก้มหน้ามองเวลา “คงต้องรบกวนคุณมี๊ของพวกหนูอีกแล้วล่ะ”
ไม่รู้ว่าหลังจากได้รู้ความจริง ซูจิ่วเอ๋อร์จะยัดเธอลงกระสอบไปขายหรือเปล่า
เมื่อขึ้นเครื่อง สวี่รั่วฉิงก็ล้างเครื่องสำอาง พร้อมทั้งเปลี่ยนใส่ชุดนอน หลังจากช่วยเด็กน้อยทั้งสองคนเปลี่ยนชุดนอนเสร็จ เธอถึงได้ใส่ผ้าปิดตา เตรียมพร้อมเดินทางไกล
หวังก็แต่ว่าการเดินทางไปฝรั่งเศสในครั้งนี้จะราบรื่น
สิบเอ็ดชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบิน
สวี่รั่วฉิงเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน พร้อมทั้งแต่งหน้ากับใส่แว่นกันแดด จากนั้นก็ปลุกเด็กทั้งสองคนที่กำลังพากันหลับอุตุ
“อี้หาน อี้ฝาน ถึงปารีสแล้วลูก ตื่นได้แล้ว”
เด็กทั้งสองตื่นขึ้นมาจากฝันแสนหวาน ขยี้ตาอย่างงัวเงีย กะพริบดวงตาฉ่ำน้ำพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย จากนั้นก็พากันเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเป็นเด็กดี พร้อมทั้งสะพายกระเป๋าของใครของมัน แล้วลงจากเครื่องไปพร้อมกับสวี่รั่วฉิง
“คุณมี๊มารอพวกเราที่่ข้างนอกแล้วใช่ไหมคะ?” สวี่อี้หานจับมือสวี่รั่วฉิงเอาไว้ พร้อมทั้งแกว่งเบาๆ
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า พร้อมทั้งขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถเข็น แล้วเข็นกระเป๋าเดินทางที่หนักอย่างกับภูเขาเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับเจ้าก้อนถั่วทั้งสอง
ทางด้านซูจิ่วเอ๋อร์ก็มารอสวี่รั่วฉิงที่จุดรับผู้โดยสารอยู่ก่อนแล้ว
เธอกลัวว่าสวี่รั่วฉิงจะมองไม่เห็น เลยตั้งใจทำป้ายมาถือเอาไว้ในมือ
ซูจิ่วเอ๋อร์เป็นคนตัวสูง จึงค่อนข้างโดดเด่น ไม่นานสวี่รั่วฉิงก็เห็นซูจิ่วเอ๋อร์ท่ามกลางฝูงคนได้อย่างรวดเร็ว
เธอโบกมือให้ซูจิ่วเอ๋อร์ จากนัั้นก็พาสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้ฝานเข้าไปหาอีกฝ่าย
สวี่อี้หานวิ่งเข้าไปกอดซูจิ่วเอ๋อร์เต็มอก “คุณมี๊!หนูคิดถึงคุณมี๊มากๆเลยค่ะ!”
ซูจิ่วเอ๋อร์จุ๊บหน้าผากใสๆของสวี่อี้หานจนเป็นรอยลิปสติกสีแดง “คุณมี๊ก็คิดถึงหนูค่ะ!”
จากนั้น มือปีศาจของซูจิ่วเอ๋อร์ก็เริ่มบู้บี้แก้มนุ่มนิ่มทั้งสองข้างของสวี่อี้หานอย่างมันเขี้ยว
เมื่อเธอเห็นสวี่อี้ฝานที่ก้าวถอยหลังเงียบๆพร้อมทั้งมองมาที่เธออย่างเย็นชา มุมปากก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “อี้ฝาน ไม่มากอดคุณมี๊หน่อยเหรอ?”
เด็กชายหน้าตาหล่อเหลา เม้มปากแน่น จากนั้นส่ายหัวเบาๆ
สวี่รั่วฉิงหัวเราะจนน้ำตาแทบไหล “เอาล่ะ ถ้าแกยังทำแบบนี้ อี้ฝานคงกลัวแน่ๆ ถ้าในอนาคตเขาไม่กล้ามีแฟนจะทำยังไง?”
ซูจิ่วเอ๋อร์ฮึดฮัด “อี้ฝานเปลี่ยนไป เมื่อก่อนยังให้หอมอยู่เลย!”
“ก็แกเอาแต่ทาปากแดงจะไปจุ๊บเขานี่นา” สวี่รั่วฉิงกอดเพื่อนรักเบาๆ “รบกวนแกมารับตลอดเลย คราวนี้รบกวนคุณอากับคุณน้าด้วยนะ”
ซูจิ่วเอ๋อร์มองบนใส่สวี่รั่วฉิง จากนั้นก็ชกหมัดเข้าที่ไหล่ของเพื่อนสาว “แกกำลังเพ้อเจ้ออะไร? พ่อแม่ฉันแทบจะเห็นแกเป็นลูกคนหนึ่งด้วยซ้ำ กะอิแค่วัตถุดิบเครื่องหอมเองไม่ใช่เหรอ? เอาเป็นว่าวันนี้พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เราไปคัดสรรที่สวนกัน!” พูดจบ ซูจิ่วเอ๋อร์ก็ดีดนิ้ว ออกคำสั่งให้บอดี้การ์ดมาเอากระเป๋าของสวี่รั่วฉิงไปเก็บที่รถ จากนั้นก็เดินไปคล้องแขนสวี่รั่วฉิงอย่างสนิทสนม ทั้งสองคนเดินจูงมือเด็กน้อยทั้งสองไปด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ