ลี่ถิงเซิ่งเดินเข้าไปในโรงรถ เขาเดินไปถึงด้านหน้าของประตูรถเบนท์ลีย์ ในขณะที่เขากำลังจะเรียกหญิงสาวให้ขึ้นรถมานั้น เขาก็ได้หันไปเห็นดวงตาที่เป็นประกายของสวี่รั่วฉิงที่กวาดตามองดูรถทุกคันที่อยู่ในโรงจอดของเขาราวกับเด็กน้อย
ลี่ถิงเซิ่ง “.....”
เขาลืมไปซะสนิทว่าสวี่รั่วฉิงนั้นแตกต่าง ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป
สวี่รั่วฉิงนั้นหาเงินได้มาก และชอบซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย เห็นได้ชัดว่าเธอสนใจรถซูเปอร์คาร์มากกว่ากระเป๋าและรองเท้าพวกนั้น
ทันใดนั้นลี่ถิงเซิ่งก็รู้สึกว่า บางทีตัวเขาเองอาจดีไม่เท่ารถของเขาด้วยซ้ำ
สวี่รั่วฉิงมองดูซูเปอร์คาร์คันสีดำอย่างตื่นเต้น เสียงของเธอก็ดังขึ้นเล็กน้อย “ประธานลี่ หรือจะให้ฉันเป็นคนขับของท่านก็ได้นะคะ!”
ความหมายโดยนัยก็คือ เธอต้องการที่จะขับรถมายบัคคันนั้น
ขมับของลี่ถิงเซิ่งกระตุกเล็กน้อย นี่เธอคิดว่าเขาเป็นคนขับจริงหรือนี่?
ดวงตากลมโตของสวี่รั่วฉิงเป็นประกาย จ้องไปที่ลี่ถิงเซิ่งอย่างใกล้ชิด เธอจะไม่มองไปทางอื่นหากเขายังไม่เห็นด้วย
“ประธานลี่ อย่ากังวลไปเลย!ทักษะการขับรถของฉันคงที่มาก!เมื่อสวี่รั่วฉิงยังเห็นลี่ถิงเซิ่งไม่พูดอะไร เธอคิดว่าเขาคงคิดเหมือนชายคนอื่นๆทั่วไปที่สงสัยในทักษะการขับรถของเธอ”
ผู้ชายบางคนก็ดูถูกคนขับที่เป็นผู้หญิง
เธอได้รับรางวัลการแข่งรถมากมายในต่างประเทศ!
“เธอไม่สามารถขับรถซูเปอร์คาร์ไปที่สถานที่จัดงาน” ลี่ถิงเซิ่งกล่าวเบาๆ
ดวงตาของสวี่รั่วฉิงหรี่ตาลงทันที
ลี่ถิงเซิ่งเม้มฝีปาก อารมณ์ของเธอที่กำลังพลุ่งพล่านก็ลดลง
“อยากขับรถคันนั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?” ลี่ถิงเซิ่งถาม
สวี่รั่วฉิงออกเสียง“อืม”ออกมา “เดิมทีก็อยากได้รถคันนี้นี่ล่ะค่ะ แต่พอดีตอนนั้นฉันทำงานยุ่งมาก พอนึกขึ้นมาได้ รถก็ถูกขายจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว”
ทุกๆครั้งที่เธอคิดถึงว่าเป็นเพราะการทำงานที่ทำให้เธอพลาดรถไป สิ่งนั้นมันทำให้สวี่รั่วฉิงเสียใจมากจริงๆ
ดังนั้นเมื่อเห็นรถที่หายากอย่างมายบัคสีดำของลี่ถิงเซิ่ง เธอจึงอยากลองขับรถสักหน่อย
ลี่ถิงเซิ่งปิดประตู หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก
สักพัก พ่อบ้านก็มาถึงโรงรถพร้อมกับกุญแจรถ
ลี่ถิงเซิ่งโยนกุญแจรถในมือให้กับสวี่รั่วฉิง เมื่อสวี่รั่วฉิงคว้ามาได้ ก็มองด้วยแววตาที่สับสน
นี่หมายความว่าจะให้เธอขับรถมายบัคสีดำคันนั้นงั้นเหรอ?
ลี่ถิงเซิ่งเลิดคิ้ว “ทำไมยังไม่ขึ้นรถอีก?”
สวี่รั่วฉิงยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรออกมาพร้อมกับไปนั่งที่คนขับ รัดเข็มขัดเรียบร้อย
ลี่ถิงเซิ่งเปิดประตูรถ ขาเรียวยาวนั้นก้าวเข้ามานั่งในที่นั่งข้างคนขับ
“ประธานลี่ ไม่ไปนั่งข้างหลังเหรอคะ?” สวี่รั่วฉิงถาม
ลี่ถิงเซิ่งชำเลืองมองเธอและพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ที่ไหนก็เหมือนกัน เผื่อเธอมีปัญหากับระบบของรถคันนี้ ฉันก็จะได้ช่วยได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้เราทั้งคู่รอดจากความตาย”
สวี่รั่วฉิง “....พูดอะไรที่มันน่าฟังกว่านี้ไม่ได้เหรอไงคะ?”
เมื่อสวี่รั่วฉิงบ่นเสร็จแล้ว เธอก็ได้ทำการนำรถออกจากโรงรถ หันศีรษะ พร้อมกับเคลื่อนไหวออกไปอย่างราบรื่น
จากนั้นเหยียบคันเร่งและขับออกไป
ไม่พูดคงไม่ได้ว่านี่เป็นรถที่เธอชื่นชอบเป็นอย่างมาก เธอสามารถขับรถได้อย่างผ่อนคลาย
เมื่อเธอได้จอดรถในโรงรถของสถานที่จัดงาน แต่ภายในใจของสวี่รั่วฉิงนั้นยังไม่สามารถสงบลงได้อีกนาน
ถ้าไม่ใช่ลี่ถิงเซิ่งเตือนเธอ เธอคงลืมปลดเข็มขัดนิรภัยเป็นแน่
“ทำไม ยังจะให้ฉันช่วยปลดเข็มขัดให้อีกเหรอ?”
ผู้ชายที่ลงจากรถไปแล้ว เอามือทั้งสองมากอดอกไว้ พร้อมกับมองไปที่หญิงสาวในรถที่ดูเหม่อลอย
สติของสวี่รั่วฉิงกลับมา เธอปลดเข็มขัดนิรภัย หยิบกระเป๋าและลงมาจากรถ
“ประธานลี่ จู่ๆฉันก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาน่ะค่ะ” สวี่รั่วฉิงเดินมาที่ด้านหน้าของลี่ถิงเซิ่ง ดวงตาทั้งสองคู่จ้องไปที่เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ