คุณผู้ชายซูนั้นอดไม่ได้ที่จะมองสวี่รั่วฉิงราวกับมองเด็กน้อย
อยู่ข้างนอกเขาเรียกเธอว่าแอนนา เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้ทราบว่าแท้จริงแล้วนี่คือสวี่รั่วฉิง
“กลับไปแล้วบอกให้เขาขึ้นเงินเดือนให้เธอ” คุณผู้ชายซูพูดอย่างติดตลก เขาเหลือบมองลี่ถิงเซิ่งที่กำลังคุยกับคนอื่นอยู่ไกลๆ ดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังแว่นตาจมดิ่งลง
ระดับของคำกล่าวเปิดงานของลี่ถิงเซิ่งนั้นไกลกว่าที่เขาคิดไว้เป็นอย่างมาก ถือว่าโดดเด่นในหมู่ของคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ส่วนสวี่รั่วฉิงที่เหมือนได้ฟังเรื่องตลกบางอย่าง ก็ได้กลอกตาอย่างใจเย็น “ขึ้นเงินเดือนเหรอคะ?ช่างมันเถอะ...เขาขี้เหนียวมาก!”
ขณะที่สวี่รั่วฉิงพูด ปากของเธอยื่นออกขึ้น
ลี่ถิงเซิ่งเป็นคนบ้างาน คงจะดีถ้าไม่บีบบังคับเธอทุกวัน และเพิ่มเงินเดือนให้เธอ!
สวี่รั่วฉิงก้มศีรษะลงสองสามครั้งเพื่อดื่มกาแฟในกระป๋องให้เรียบร้อย จากนั้นโยนกระป๋องลงถังขยะที่อยู่ด้านข้าง “วันนี้ยุ่งแทบตายเลยค่ะ ขืนเป็นแบบนี้ทั้งเจ็ดวันล่ะก็ ฉันเป็นบ้าแน่...ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ชอบทำงานเอกสารจริงๆ ฉันเหมาะกับงานทำน้ำหอมมากกว่า”
คุณผู้ชายซูยิ้มจางๆ “ถ้าเธอไม่ชอบงานเอกสาร ก็ปฏิเสธไปซะ ฉันคิดว่าลี่ถิงเซิ่งไม่ทำให้เธอลำบากหรอก”
สวี่รั่วฉิงเงยหน้าขึ้น “ลุงซู ไม่แน่ใจเกินไปหน่อยเหรอคะ?ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น?”
คุณผู้ชายซู :“ฉันมองคนแม่นนะ”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้าอย่างแรง
ไม่ไกลจากพวกเขานัก สวี่รั่วยีแอบถ่ายภาพสวี่รั่วฉิงและคุณผู้ชายซูที่กำลังเพลิดเพลินกับการสนทนาด้วยโทรศัพท์มือถือของหล่อน ภายในดวงตาของหล่อนมีแสงริบหรี่ประกายออกมา
เธอรู้ว่าหนึ่งในสองคนนี้ต้องอดไม่ได้ที่จะทำเรื่องอื้อฉาวระหว่างการประชุมเป็นแน่
น่าขยะแขยงเสียจริง!
สวี่รั่วฉิงกับคุณผู้ชายซูคุยกันได้ไม่เท่าไหร่ การประชุมก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
หลังจากพิธีเปิดการประชุมการอภิปรายเศรษฐกิจ จะมีการอภิปรายในกลุ่มย่อย ซึ่งสวี่รั่วฉิงและคุณผู้ชายซูไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน
สวี่รั่วฉิงถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย
เมื่อคุณผู้ชายซูเห็นสิ่งนี้ เขาจึงได้แต่ลูบศีรษะของเธอเบาๆ “เอาล่ะ เธอจะต้องทำงานอย่างหนักให้กับงานที่ตัวเธอเลือกเองนะ”
สวี่รั่วฉิงส่งเสียงอืมออกไป
คุณผู้ชายซูจึงพูดต่อว่า “หลังจากการประชุมสิ้นสุดลงในวันนี้ ถ้าเธอมีเวลา ไปทานอาหารเย็นด้วยกันสิ เพื่อเป็นรางวัลให้กับสาวน้อยผู้ขยันขันแข็งในวันนี้”
สวี่รั่วฉิงทำปากมุ่ย เธออายุเท่าไหร่กันแล้วเนี่ย แต่ลุงซูก็ยังคงปฏิบัติต่อเธอเหมือนเด็กหญิงตัวเล็ก ๆอยู่ดี
“ลุงซู ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ไม่ต้องการคำปลอบใจแบบนี้ซะหน่อย!”
“ยังไงเธอก็เหมือนกับซูจิ่วเอ๋อร์อยู่ดี” คุณผู้ชายซูพูด
สวี่รั่วฉิงเงียบลง เธอนึกย้อนไปถึงพฤติกรรมของเพื่อนรักของเธอ จริงๆแล้วก็สมควรใช้คำว่าเด็กน้อยสองคำนี้จริงๆนั่นแหละ
ที่แท้ในสายตาของลุงซู เธอก็เหมือนกับซูจิ่วเอ๋อร์ สวี่รั่วฉิงไม่รู้ว่าควรดีใจหรือร้องไห้ดี
สิ่งที่สวี่รั่วฉิงไม่เห็นก็คือ ลี่ถิงเซิ่งได้เห็นฉากที่คุณผู้ชายซูลูบศีรษะของเธอเป็นที่เรียบร้อย
มุมริมฝีปากของชายคนนั้นขยับเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยกเปลือกตาขึ้นและมองไปยังชายที่คุยกับเขาอยู่ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “ประธานโจว การประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เราค่อยคุยกันวันหลังละกันนะครับ”
“อ่า ครับ”
ลี่ถิงเซิ่งเร่งฝีเท้าอันเรียวยาวของเขา จนมองเห็นแผ่นหลังของสวี่รั่วฉิง “แอนนา ไปได้แล้ว”
เขาเหลือบสายตามองไปคุณผู้ชายซู คุณผู้ชายซูยิ้มตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่เมตตา
เลขาของคุณผู้ชายซูเดินเข้ามา แล้วพูดอะไรบางอย่างกับเขา คุณผู้ชายซูพยักหน้า “แอน ลี่ถิงเซิ่งเรียกเธอแล้ว ไปทำงานก่อนเถอะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อฉันมา เธอรู้ข้อมูลติดต่อของฉันอยู่แล้ว”
หลังจากที่คุณผู้ชายซูพูดจบ เขาก็เดินออกไปพร้อมกับเลขา
สวี่รั่วฉิงหันกลับมาและเผชิญหน้ากับดวงตาสีเข้มของลี่ถิงเซิ่ง
ในดวงตาของเขามีอารมณ์ที่เธอนั้นอ่านไม่ออก
“ประธานลี่ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” สวี่รั่วฉิงคิดว่าเมคอัพของเธอเริ่มจะหลุดแล้ว เธอจึงเตรียมที่จะไปห้องน้ำเพื่อแต่งหน้าเพิ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ