คุณผู้ชายซูซึ่งเป็นคนที่เดินเข้ามาได้กลิ่นความอิจฉาบนตัวของลี่ถิงเซิ่งทันที
เฮ้ แน่นอนว่าเขายังอายุยังน้อย แต่คำพูดไม่กี่คำนี้ ทำให้ถูกปลุกเร้าขึ้นมาจริงๆ
แต่ว่านี่ก็แสดงให้เห็นอย่างได้ชัดว่าเขาห่วงใยสวี่รั่วฉิงจริงๆ
คุณผู้ชายซูยิ้มพร้อมกับมองไปที่ร่างกายที่สูงกว่าของลี่ถิงเซิ่ง รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา รัศมีที่แข็งแกร่งของเขา ดีพร้อมไปทุกอย่าง ยกเว้นถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาชอบ เขาไม่สามารถเก็บกดอารมณ์ไว้ได้จริงๆ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ
คุณผู้ชายซูพูด “ประธานลี่ แน่นอนอยู่แล้วว่าผมรู้ว่าแอนนาเป็นผู้ช่วยของท่าน แต่ตอนนี้การประชุมจบลง เธอเองก็เลิกงานแล้ว เวลาที่เหลือก็คือเวลาส่วนตัวของเธอนี่นา”
คำพูดของเขา ทำให้สวี่รั่วฉิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ลุงซูจะทำอะไรกันเนี่ย!
สวี่รั่วฉิงรีบไกล่เกลี่ยทันที ถ้าเธอไม่ไกล่เกลี่ยก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
“ประธานซูคะ ถึงแม้ว่าการประชุมจะจบลงแล้ว แต่ว่าฉันก็ยังจะต้องประธานลี่ค่ะ” ขณะที่สวี่รั่วฉิงพูด เธอก็หันไปขยิบตาให้กับคุณผู้ชายซู หวังว่าเขาจะเข้าใจคำใบ้ของเธอและหยุดทำให้เจ้านายของเธอโกรธเคืองเสียที
ดูเหมือนว่าคุณผู้ชายซูจะไม่เห็นคำใบ้ที่สวี่รั่วฉิงนั้นส่งมาให้ มีเพีงแค่คำว่า‘อือ’ออกมา
“แบบนั้น ถ้าต้องการคนขับรถล่ะก็ ยืมของผมไปก่อนก็ได้นะครับ”
สวี่รั่วฉิงนั้นเกือบจะกัดลิ้นของเธอเข้าให้
นี่มันอะไรกันเนี่ย ลุงซูเข้ากับลี่ถิงเซิ่งไม่ได้งั้นเหรอ?เท่าที่จำได้สองคนนี้ไม่เคยขัดแย้งกันสักหน่อย
ขณะที่สวี่รั่วฉิงกำลังจะเปิดปากพูด ก็ได้ยินเสียงที่เย็นยะเยือกของลี่ถิงเซิ่ง
“ขอบคุณท่านประธานซู สำหรับความเมตตาของท่าน แต่ไม่จำเป็น”
ดวงตาสีเข้มของลี่ถิงเซิ่งกวาดไปที่ใบหน้าประหม่าของสวี่รั่วฉิง เขาไม่ได้ทิ้งคำพูดใดๆไว้ แล้วเดินจากไป
สวี่รั่วฉิงหยิบเอกสารของขึ้นมาและกำลังจะออกไป แต่เมื่อนึกถึงผู้อาวุโสที่อยู่นั้น เท้าของเธอที่กำลังเดินก็เหมือนกับติดอยู่ที่พื้นอีกครั้ง
คุณผู้ชายซู “รู้สึกว่าจะทำเกินไปหน่อย?”
สวี่รั่วฉิงแทบจะตะลึงไปแล้ว “ทำอะไรเกินไปเหรอคะ?”
คุณผู้ชายซูมองไปที่สวี่รั่วฉิงที่ดูยังไม่เข้าใจอะไร ใบหน้าแสดงออกถึงการขอโทษ “อยากช่วยเธอทดสอบดูน่ะ ไม่คิดว่าจะเป็นบุคลิกที่ดื้อรั้นได้ซะนี่”
สวี่รั่วฉิงไม่มีอารมณ์มาคิดถึงความหมายของสิ่งที่คุณผู้ชายซูพูด เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการไล่ตามเจ้านายของเธอให้ทัน
เธอมองไปที่คุณผู้ชายซู น้ำเสียงดูคับแคบเล็กน้อย “ลุงซูคะ รอฉันมีเวลาว่างแล้วฉันจะติดต่อไปนะคะ”
หลังจากพูดจบ สวี่รั่วฉิงก็รีบคว้ากระเป๋าของเธอ เหยียบส้นสูงแล้วเดินไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว
คุณผู้ชายซูไม่ได้สนใจในท่าทางที่เสียมารยาทของสวี่รั่วฉิง เขาโทรหาเลขาและสั่งยกเลิกคำสั่งร้านอาหารมิชลิน พร้อมกับกลับไปที่โรงแรมเพื่อทานอาหารเย็น
เลขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “คุณแอนไม่ได้จะไปทานข้าวกับท่านหรือคะ?”
คุณผู้ชายซูถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่าเด็กหญิงที่เลี้ยงมาหกปีกำลังจะถูกขโมยไปแล้ว
เขาเฝ้าดูสวี่รั่วฉิงหายเข้าไปในลิฟต์ และพูดช้าๆ ว่า “เธอไปไล่ตามผู้ชายน่ะ”
เลขา :???
หมายความว่ายังไงกัน ดูเหมือนว่าเขาจะฟังไม่เข้าใจนะ?
เมื่อลิฟต์ไปถึงชั้นหนึ่ง สวี่รั่วฉิงก็รีบออกจากห้องลิฟต์และวิ่งไปที่ลานจอดรถ
วันนี้เธอสวมกระโปรงชั้นเดียว วิ่งเร็วไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
โชคดีที่เมื่อเธอรีบไปที่โรงรถ ลี่ถิงเซิ่งเพิ่งคาดเข็มขัดนิรภัยและกำลังจะเหยียบคันเร่งออกไป
เมื่อเห็นสิ่งนี้ สวี่รั่วฉิงเหยียดแขนออกแล้วไปหยุดที่หน้ารถ “ประธานลี่ เดี๋ยวก่อนค่ะ!”
เธอลืมไปว่ากระจกของซูเปอร์คาร์สุดหรูนั้นมีฉนวนกันเสียงที่ดีเยี่ยม และชายในรถก็ไม่ได้ยินเสียงเธอเลย
ลี่ถิงเซิ่งปลดเข็มขัดและลงจากรถมาด้วยความหงุดหงิด
ขณะที่สวี่รั่วฉิงกำลังจะพูด ก็ได้ยินเสียงของลี่ถิงเซิ่งที่ดูเย็นชาและมีความโกรธเคือง
“เธออยากตายหรือไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ