บทที่ 19 ผู้หญิงที่มีลูกติดไม่มีทางได้แต่งเข้าตระกูลลี่
“ประธานลี่ ตอนนี้สี่ทุ่มแล้วครับ ผู้ช่วยแอนเธอเลิกงานตั้งนานแล้ว.......”
ลี่ถิงเซิ่งรับช่วงต่อบริษัทตั้งแต่อายุสิบห้า หลี่อานก็ติดตามเขามาตั้งแต่ตอนนั้น
หลายปีขนาดนี้ เขาจึงรู้ดีว่าเจ้านายของตัวเองประสบปัญหานอนไม่หลับมาตลอด
ถึงทรัพยากรการเงินของลี่ซื่อกรุ๊ปจะมีมากพอให้หาแพทย์ดีๆในเมืองหลินชวนได้ แต่ก็ไม่อาจแก้ไขปัญหาการนอนไม่หลับของลี่ถิงเซิ่งได้อยู่ดี
แต่ใครจะไปรู้ผู้ช่วยแอนมาทำงานที่บริษัทยังไม่ถึงสัปดาห์ แค่มีผู้ช่วยแอนอยู่ด้วย ประธานลี่ก็สามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอแล้ว ผู้ช่วยอย่างเขาก็ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลว่าประธานลี่จะเสียชีวิตเฉียบพลันเพราะอดหลับอดนอนอีกต่อไป
หลี่อานรู้สึกขอบคุณผู้ช่วยแอนคนนี้จากใจจริง
“ฉันรู้แล้ว” ลี่ถิงเซิ่งใช้นิ้วมือเรียวยาวนวดหัวคิ้ว “ไปเตรียมรถกลับบ้านเถอะ”
“ครับ”
“เดี๋ยว” ลี่ถิงเซิ่งเรียกหลี่อาน “ใช้เส้นสายของบริษัทไปสืบประวัติของแอนนามา รวมไปถึงคนที่ไปมาหาสู่กับเธอบ่อยๆด้วย”
กลิ่นหอมบนตัวของผู้หญิงคนนั้นทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยและสบายใจ
แต่เขาก็มั่นใจมาก ว่าเขาไม่เคยเจอผู้ช่วยแอนมาก่อนจริงๆ
หลี่อานจึงพูดว่า “ประธานลี่ ก่อนหน้านี้เราเคยสืบประวัติแอนนาแล้วไม่ใช่เหรอครับ?
คนที่สามารถทำให้ลี่ซื่อกรุ๊ปสืบหาประวัติไม่ได้หายากมากๆ
คนที่ช่วยลบอดีตให้ผู้ช่วยแอนเป็นใครกันนะ?
สวี่รั่วฉิงเดินกลับมายังคอนโดภายใต้แสงจันทร์ เมื่อกลับมาถึงก็เปิดประตู จากนั้นก็วางของที่ถืออยู่ในมือลงบนชั้นวางรองเท้า
ภายในห้องเงียบกริบ สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานน่าจะหลับไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าในห้องครัวมีกล่องอาหารเดลิเวอรี่เปล่าๆวางอยู่บนโต๊ะ จู่ๆสวี่รั่วฉิงก็รู้สึกผิดขึ้นมาในใจ
เครื่องหอมที่มีอยู่ในบ้านขาดไปกลิ่นสำคัญไปสองสามกลิ่น หลังจากเลิกงานเธอจึงโทรบอกลูกชาย ว่าให้ดูแลน้องสาว เพราะเธอมีงานต้องสะสาง
สวี่อี้ฝานตอบตกลงอย่างร่าเริง
สวี่รั่วฉิงเก็บกล่องอาหารบนโต๊ะทิ้งลงถังขยะ จากนั้นก็ถอดเสื้อตัวนอกพาดไว้บนโซฟา แล้วเดินไปยังห้องนอนของเจ้าเด็กทั้งสองคนอย่างเงียบๆ พร้อมกับเปิดประตูเข้าไป
ในห้องมีแค่แสงเทียนวูบไหว
บนเตียงทั้งสองหลัง สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานนอนอยู่บนนั้นในสภาพสวมใส่ชุดนอนเรียบร้อย เด็กทั้งสองมุดอยู่ในผ้าห่ม นอนหลับอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานได้รับพันธุกรรมจากเธอและลี่ถิงเซิ่งไปเท่าๆกัน
โดยเฉพาะสวี่อี้ฝาน ที่มีนิสัยนิ่งๆราวกับถอดมาจากผู้ชายคนนั้น
เมื่อมองลูกทั้งสองคน หัวใจของสวี่รั่วฉิงก็พลันอบอุ่นขึ้นมา
เธอเดินเข้ามาที่เตียง แล้วจุ๊บหน้าผากของเด็กทั้งสองคนเบาๆ จากนั้นก็เดินออกไปเงียบๆ
ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ใส่ชุดกาวน์สีขาว พร้อมกับรวบผมยาวสลวยเป็นหางม้า แล้วเดินมาที่ห้องทำงาน
บนโต๊ะรูปทรงสี่เหลี่ยมมีเครื่องมือและเครื่องหอมมากมายหลายอย่าง ทั้งยังมีเอกสารข้อมูลต่างๆวางกระจัดกระจายอยู่บนนั้น
ของพวกนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับสามีภรรยาฮิลล์ที่ซูจิ่วเอ๋อร์เก็บรวบรวมไว้ให้สวี่รั่วฉิงก่อนหน้านี้
รอยขีดสีแดงบนนั้นเป็นข้อวิจารณ์สวี่รั่วฉิงเขียนเพิ่มเข้าไปเอง
สามีภรรยาฮิลล์เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อยังวัยรุ่นทั้งสองเองก็เคยเป็นดีไซเนอร์ และมีความรู้เรื่องแฟชั่นมากกว่าคนทั่วไป
สวี่รั่วฉิงอยากปรุงกลิ่นน้ำหอมที่ทำให้พวกเขานึกถึงช่วงเวลาโรแมนติกในยามที่ยังเป็นวัยรุ่นผ่านแฟชั่นและชีวิตในอดีตของสามีภรรยาฮิลล์
การที่จะผสมกลิ่นแบบนี้ จำเป็นต้องหาซื้อเครื่องหอมเยอะมากๆ
โชคดีที่ก่อนหน้านี้สวี่รั่วยีใช้เงินมือเติบ เธอจึงไม่จำเป็นต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้ สวี่รั่วฉิงย้ายเครื่องหอมที่ซื้อมาวันนี้มาไว้ในห้องทำงาน เมื่อเห็นสิ่งของมากมายกองอยู่บนโต๊ะ เธอก็นิ่วหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ คืนนี้คงต้องนอนดึกอีกแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ